'อายุเป็นเพียงตัวเลข' ฟังแนวคิด 3 ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ผู้สร้างธุรกิจเปลี่ยนโลก

'อายุเป็นเพียงตัวเลข' ฟังแนวคิด 3 ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ผู้สร้างธุรกิจเปลี่ยนโลก

ใครว่าการทำธุรกิจเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น ในเมื่อทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถสร้างธุรกิจที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้ได้ อีกหนึ่งไฮไลท์ในเวทีหลักของงาน Techsauce Global Summit 2019 ในวงเสวนากับสามผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ Kaede Takenaka (ไคอิเดะ ทาเกะนากะ) สาวน้อยวัย 10 ปี ผู้ก่อตั้ง KIDLetCoin โครงการที่มีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้แก่เด็กคนอื่นๆ ทำความเข้าใจเรื่องบล็อกเชน (Blockchain) และเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrencies) และสามารถสนุกไปกับมันได้ผ่านการบริหารการเงิน, ใบเตย อิรวดี ถาวรบุตร เด็กสาวชาวไทย วัย 16 ปี ผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคม SandeeForGood พื้นที่สื่อกลางสำหรับการบริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ไปยังองค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ห่างไกล และ Akshat Mittal (อัคชัท มิตตัล) วัย 16 ปี ผู้ก่อตั้ง ChangeMyIndia แพลตฟอร์มจับคู่เหล่านักเปลี่ยนแปลงสังคม ทั้งสามได้มาร่วมพูดคุยกันในหัวข้อ “Preparing Our New Generation for Jobs That Don’t Exist Yet” โดย ดร.ลินดา ลิวคัส (Dr. Linda Liukas) นักเขียนเจ้าของผลงานหนังสือชุด “Hello Ruby” มาเป็นผู้ดำเนินวงเสวนาในครั้งนี้ ที่จะพาเรามาหาคำตอบว่า เราจะทำการเตรียมพร้อมคนรุ่นใหม่ให้เอาตัวรอดและเติบโตในโลกที่ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างไร

เรามาทำความรู้จักเยาวชนคนเก่งทั้ง 3 คนให้มากขึ้นกันดีกว่า

แรงบันดาลใจในการก่อตั้งบริษัทของแต่ละคนคืออะไร

Akshat: ผมมีความเชื่อว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข มันไม่ได้เป็นข้อจำกัดว่าคนเราควรจะมีอายุเท่าไรจึงจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อผมอายุ 13 ปี ในช่วงนั้นปัญหามลพิษในนิวเดลีมันแย่มาก แม้ว่าคนสองคนจะเดินทางไปยังสถานที่เดียวกันยังต้องใช้รถสองคันแยกกัน นี่ทำให้ความคิดเรื่องการทำ Carpool หรือการแชร์รถยนต์ได้ผุดขึ้นมา ผมต้องการแก้ปัญหาการจราจรและมลพิษในอินเดีย จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง Odd-even.com ซึ่งเป็นบริษัทแรกของผม

Irawadee: เริ่มเมื่อตอนเด็กๆ ฉันมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ภูเก็ต เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองใหญ่ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในเมืองจึงได้รับความช่วยเหลือจากคนในเมืองพอสมควร ในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้เรียนรู้ว่าผู้คนเหล่านั้นได้รับสิ่งของมากเกินความจำเป็น ทำให้องค์กรไม่แสวงหากำไรนอกพื้นที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่ากับองค์กรอื่นๆ ที่อยู่ในเมือง ดังนั้นเลยตัดสินใจที่จะจัดการกับความท้าทายนี้ และสร้างวิธีที่ความช่วยเหลือจะสามารถเข้าถึงผู้คนได้ในทุกพื้นที่

Kaede: เริ่มเมื่อตอนประมาณ 8-9 ขวบ ระหว่างที่ฉันกับแม่กำลังทานข้าวกับเพื่อนๆ ฉันได้ยินพวกเธอพูดถึงบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี่กัน ฉันเลยพูดขึ้นว่า 'เฮ้! ทำไมฉันถึงไม่มีสามารถมีเงินดิจิทัลเป็นของตัวเองบ้างล่ะ' นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง KidLetCoin ขึ้นมา

สกุลเงินดิจิทัลจะช่วยให้อิสระทางการเงินสำหรับทุกคน รวมไปถึงเด็กๆ ด้วย

การที่จะสร้างบริษัทของตัวเองนั้นไม่ง่ายเลย แต่ละคนเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการทำ Startup จากไหน

Akshat: ผมฝึกเขียนโปรแกรมจากอินเตอร์เน็ต อีกทั้งคุณพ่อและพี่ชายก็เป็นโปรแกรมเมอร์ทั้งคู่ รวมเวลาทั้งหมดแล้วใช้ประมาณ 25 วัน กว่าที่จะทำโปรเจคหนึ่งให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ 

Linda: ใช้เวลาเพียง 25 วันเท่านั้นในการเรียนเขียนโค้ดด้วยตัวเอง?! ฉันต้องจดโน๊ตไว้แล้วล่ะค่ะ

Irawadee: มันจะมีคำพูดของ ริชาร์ด แบรนด์สันที่กล่าวว่า “หากมีใครสักคนมอบโอกาสให้คุณทำอะไรบางอย่าง จงรับมันไว้แม้คุณจะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร จากนั้นค่อยหาวิธีเรียนรู้ที่จะทำมันทีหลัง” ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างทั้งจากผู้คนและจากอินเทอร์เน็ต ฉันชอบเดินเข้าไปหาคนแปลกหน้าเพื่อพูดคุยกับพวกเขา มันน่าทึ่งเมื่อพอคุณกล้าที่จะตั้งคำถาม แล้วพบว่าผู้คนต่างยินดีที่จะให้โอกาสและให้ความรู้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างทั้งจากผู้คนและจากอินเทอร์เน็ต ฉันชอบเดินเข้าไปหาคนแปลกหน้าเพื่อพูดคุยกับพวกเขา มันน่าทึ่งเมื่อพอคุณกล้าที่จะตั้งคำถาม แล้วพบว่าผู้คนต่างยินดีที่จะให้โอกาสและให้ความรู้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

Kaede: ฉันเรียนรู้เรื่องบล็อกเชนจากแม่ของฉันเพราะเธอทำงานในอุตสาหกรรมนี้ มีอยู่วันหนึ่งที่เธอเล่าให้ฉันฟังว่าบล็อกเชนสำคัญแค่ไหน ฉันเลยสนใจเรื่องนี้และทำการศึกษาเรื่องนี้ผ่านวิดีโอออนไลน์ ฉันต้องการเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ในการเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กคนอื่นๆ ว่าพวกเขาก็สามารถคิดการใหญ่และทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน

แต่ละคนมีใครเป็นต้นแบบหรือเป็นแรงบันดาลใจกันบ้าง

Kaede: แม่ของฉันค่ะ ฉันมีเธอเป็นแบบอย่างเสมอมา เพราะเธอมาจากจุดต่ำสุดในชีวิต และตอนนี้เธออยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งเธอยังทำทุกอย่างเพื่อเป็นการสนับสนุนฉันมาตลอด

Irawadee: ฉันมีแม่ของฉันเป็นแบบอย่างเพราะเธอเชื่อในตัวฉัน นอกจากนี้ก็คือ Richard Branson และ Elon Musk เขาเป็นแรงบันดาลใจในด้านความคิดที่ไม่ได้จำกัดศักยภาพของตัวเอง และนั่นคือการมี Mindset ที่ฉันต้องการยึดไว้ต่อไป

ในอนาคตมีแผนอยากจะทำอะไรกันบ้าง? มันยังคงเป็นเรื่องง่ายอยู่ไหมที่จะฝันให้ไกลในขณะที่ประสบความสำเร็จในขณะที่อายุยังน้อย

Kaede: ยังคงมีตัวเลือกอีกมากที่สามารถเป็นไปได้ สำหรับฉันแล้วฉันอยากจะเป็นนักแสดงหรือไม่ก็เป็นหมอ ฉันชอบการแสดงเพราะว่ามันต้องใช้เรื่องของแพชชั่นในการที่จะแสดงเป็นแต่ละคาแรกเตอร์ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ฉันอยากลองทำดูค่ะ

Irawadee: มีอยู่ 2 แผนด้วยกัน หนึ่งคือในขณะนี้ในโลกของความเป็นจริง และสองคือในโลกของอนาคตที่ฉันกำลังรอให้สิ่งมหัสจรรย์เกิดขึ้น ในโลกของความเป็นจริง ฉันอยากจะเป็นวิศวกรที่จะสร้างบางสิ่งที่จะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อโลกใบนี้ ในอีกด้านฉันกำลังรออาชีพที่ไม่มีอยู่ในปัจจุบันในการมาถึง ไม่แน่นะคะฉันอาจจะเป็นคนที่สร้างงานนั้นขึ้นมาเองก็ได้

Akshat: เมื่อผมโตขึ้นผมวางแผนที่จะเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ พอเรียนจบผมอยากจะเป็น Investment banker ผมต้องการสร้างโซลูชั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดขึ้นในสังคม อีกทั้งผมก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอาชีพที่ยังไม่มีในปัจจุบันให้เกิดขึ้นมา

อยากจะฝากอะไรถึงเด็กคนอื่นที่อยากจะเป็นแบบพวกเราไหม

Kaede: ถ้าโอกาสอยู่ในมือคุณแล้ว ให้ลงมือทำมันเลย คุณมีโอกาสเดียวเท่านั้น ใช้โอกาสนี้ในการทำอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้น

Irawadee: จงมีความกล้าหาญ อย่ากลัวที่จะเจอกับความเสี่ยง คุณไม่มีวันเสียโอกาสในการลองทำสิ่งใหม่ๆ เพราะคุณจะได้เรียนรู้อะไรจากมันเสมอ

Akshat: พวกคุณทุกคนควรที่จะฝัน อย่างน้อยก็ควรลองทำในสิ่งที่คุณหลงใหล ในระหว่างทางอาจจะต้องพบกับอุปสรรคมากมาย แต่ไม่มีความฝันใดที่จะใหญ่เกินไปไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไรก็ตาม

พวกคุณทุกคนควรที่จะฝัน อย่างน้อยก็ควรลองทำในสิ่งที่คุณหลงใหล ในระหว่างทางอาจจะต้องพบกับอุปสรรคมากมาย แต่ไม่มีความฝันใดที่จะใหญ่เกินไปไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไรก็ตาม

อยากจะฝากอะไรสำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ว่าการที่จะเลี้ยงลูกให้ได้แบบพวกเราจะต้องทำอย่างไร

Irawadee: ให้ผู้ปกครองพาลูกๆ ออกไปนอกโรงเรียน ทำการสำรวจโลกภายนอก และชุมชนที่พวกเขาอยู่ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเด็กๆ ได้มากจริงๆ แม้ว่าคนอื่นจะบอกว่าสิ่งที่คุณทำมันผิดก็อย่าไปฟังเสียงของคนอื่นมากนัก ผู้ปกครองจำนวนมากได้รับอิทธิพลจากความคิดเห็นของผู้ใหญ่คนอื่นๆ อย่าปล่อยให้ความคิดเหล่านั้นหยุดคุณจากการให้สิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุดสำหรับลูก คุณจะไม่เสียใจค่ะ

Akshat: ให้การสนับสนุนลูกๆ ปล่อยให้พวกเขาล้มเหลวบ้าง พวกเขาจะได้เรียนรู้จากความล้มเหลวนั้นด้วยตัวเอง หากคุณคอยปกป้องพวกเขาจากความล้มเหลว เขาจะไม่สามารถยืนหยัดด้วยตนเองในโลกใบนี้ได้เลย

พาเด็กๆ ออกไปสำรวจโลกภายนอกโรงเรียน และชุมชนที่พวกเขาอยู่ แม้คนอื่นจะพูดอย่างไรก็ตาม อย่าปล่อยให้ความคิดเหล่านั้นมาหยุดคุณจากการมอบสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับลูกๆ

ชมวิดีโอแบบเต็มๆ ได้ที่นี่:

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เปิดกลยุทธ์ธุรกิจยุคใหม่ พลิกข้อมูล สู่ขุมทรัพย์ด้วย analyticX ด้วยพลัง Telco Data Insights และ GenAI

ยุคนี้ใคร ๆ ก็พูดถึง Data แต่จะใช้ Data อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากคือกุญแจสำคัญ! ในสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "Unlocking Data-Driven Decisions with Telecom Data Insights" ที่จั...

Responsive image

‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ด้านความยั่งยืน หนุน SMEs เปลี่ยน Vision เป็น Action

บทสัมภาษณ์ คุณอัมพร ทรัพย์จินดาวงศ์ และคุณพณิตตรา เวชชาชีวะ เกี่ยวกับ ‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ที่เข้ามาช่วย SMEs เริ่มดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างเข้าใจและไม...

Responsive image

Intel พลาดอะไรไป ? ทำไมถึงต้องเปลี่ยน CEO กะทันหัน ? ถอดบทเรียนราคาแพงจากยุค Pat Gensinger

การ ‘เกษียณ’ อย่างกะทันหันของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโอ Intel ในต้นเดือนธันวาคม สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการเทคโนโลยี หลายฝ่ายมองว่าเป็นการบีบให้ออกจากบอร์ดบริหาร อันเนื่องมาจากผล...