Sam Altman ผู้เป็น CEO และ co-founder ของ OpenAI ที่ให้กำเนิด ChatGPT และ DALL-E ที่ทำให้ใช้การใช้งาน AI กลายมาเป็นกระแสในแวดวงเทคโนโลยี
ย้อนกลับไปในปี 2014 ขณะที่แซมยังเป็นประธานบริหาร Y Combinator บริษัทที่คอยให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพ (Startup Accelerator) เขาเคยออกมาให้บทเรียนและแง่คิดเกี่ยวกับการทำสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ ถึงจะผ่านมา 9 ปีแล้วแต่ความรู้จากแซมก็ยังคงใช้ได้อยู่กับบริษัทสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
ถ้าอยากจะสร้างสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จคุณต้องมี ไอเดียที่ดี โปรดักต์ที่ดี ทีมที่ดี และการตัดสินใจลงมือทำที่ดี - Sam Altman
การจะทำสตาร์ทอัพจำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นแบบติดต่อกันเป็น 10 ปี เพราะฉะนั้นคุณต้องแน่ใจว่าไอเดียที่มีมันใช่จริงหรือเปล่า
“ถ้าคุณมีหลายไอเดีย ให้เลือกอันที่คุณมักจะนึกถึงในตอนที่คุณไม่ได้คิดเรื่องงาน”
มากไปกว่านั้น ผู้ก่อตั้งจำเป็นต้องมี “ความเชื่อ” และองค์กรควรโฟกัสที่ภารกิจสำคัญเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าบุคลากรหรือพนักงานจะมุ่งมั่นแก้ปัญหาภายในบริษัทแม้ว่าจะขัดใจคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าก็ตาม
“ถ้าคุณไม่เชื่อในสิ่งที่คุณกำลังสร้าง ถึงจุดนึงคุณก็จะยอมแพ้กลางทาง”
แต่มันก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันคือ ไอเดียที่ฟังดูแย่จะไม่มีใครมาขโมยไอเดียคุณ เพราะคนส่วนใหญ่จะมองไม่เห็นถึงศักยภาพของมันจนกว่าสตาร์ทอัพนั้นจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
“ในตอนแรกเริ่ม ไอเดียที่ดีมันมักจะฟังดูแย่ ไอเดียไหนที่ฟังดูดีมากๆ ก็คงจะมีคนแห่ทำเยอะแล้ว”
ถ้ากำลังตัดสินใจทำสตาร์ทอัพคุณควรโฟกัสที่ตลาดเล็ก ๆ ก่อน ตลาดที่ลูกค้าจะกระหายการหาทางออกสำหรับปัญหาที่ไม่ค่อยมีใครแก้
“ผมเลือกลงทุนในบริษัทที่โฟกัสในตลาดเล็กแต่มีการเติบโตรวดเร็ว มากกว่าตลาดใหญ่แต่เติบโตช้า”
คนอายุน้อยหรือนักเรียนนักศึกษามักจะจับทางได้ว่าตลาดแบบไหนที่มีการเติบโตเร็ว เพราะพวกเขามักจะตามทันกระแสอยู่ตลอดเวลา
มีไอเดียที่ดีแล้ว ผลิตภัณฑ์ก็ต้องดีตาม เพราะฉะนั้นจงสร้างในสิ่งที่คนส่วนมากจะรักมัน แต่ในช่วงเริ่มต้นมันจะง่ายกว่าถ้าเราสร้างผลิตภัณฑ์ให้คนกลุ่มเล็กๆ มากกว่าคนหมู่มาก เพราะสิ่งที่เราต้องการคือการเติบโตแบบออร์แกนิค (ลูกค้าพูดกันแบบปากต่อปากโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา) เพื่อสร้างฐานลูกค้า
“บางสตาร์ทอัพล้มจากการแข่งขัน ส่วนมากจะล้มเพราะผิดพลาดในการสร้างสิ่งที่ผู้ใช้งานรักหรือชอบ แต่กลับใช้เวลาไปกับอย่างอื่น”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้งานรัก: Flipper Zero ของเล่นสายเทคเอนกประสงค์ที่ระดมทุนได้ถึง 4.8 ล้านเหรียญ
ขณะที่กำลังสร้างฐานผู้ใช้งาน ผู้ก่อตั้งหรือผู้บริหารควรออกไปรับฟังความเห็น “ด้วยตัวเอง” ดีกว่าการรับฟีดแบคโดยการจ่ายเงิน แซมยกตัวอย่างของบริษัทที่ทำแบบนี้ นั่นคือ Pinterest ที่ Ben Silbermann ผู้ร่วมก่อตั้งได้หาผู้ใช้งานแรกเริ่มจากการไปขอให้ลูกค้าในร้านกาแฟช่วยทดลองแอปฯ ให้เขาหน่อย
“หาผู้ใช้งานด้วยตัวเองและจงจำไว้ว่าเป้าหมายคือการให้คนกลุ่มเล็ก ๆ รักเราก่อน” เพราะคนเหล่านี้แหละจะช่วยโปรโมตและสนับสนุนในสิ่งที่เราทำ เพื่อเพิ่มฐานผู้ใช้งานต่อไปแบบออร์แกนิค เมื่อทำขั้นตอนนี้สำเร็จแล้ว ให้รับฟังและเรียนรู้จากพวกเขาให้ได้มากที่สุด
“แม้ว่าคุณจะสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อตัวเอง คุณก็ไม่ควรละเลยเสียงรอบข้างของผู้ใช้งาน เพราะพวกเขาจะบอกเราว่าต้องสร้างยังไงให้พวกเขายอมจ่าย”
ถึงแม้ว่าแซมจะลงจากตำแหน่งประธานของ Y Combinator ไปในปี 2019 เพื่อไปโฟกัสกับ OpenAI แต่บริษัทก็ยังคงดำเนินการสนับสนุนและทำหน้าที่เป็นเหมือนคนที่คอยจูงมือสตาร์ทอัพที่ต้องการระดมทุนและต้องการแรงผลักดันในช่วงเริ่มต้น
Y Combinator (YC) ก่อตั้งเมื่อปี 2005 และทำหน้าที่เป็นเสมือนกองทุนบวกกับให้คววามรู้เรื่องสตาร์ทอัพ (startup accelerator) ซึ่งหลายๆ บริษัทที่โด่งดังอยู่ทุกวันนี้ต่างได้รับอานิสงค์จาก YC ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Airbnb, Dropbox, Reddit, Stripe และสตาร์ทอัพอื่นๆ อีกกว่า 4,000 บริษัท
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เปิดตัว Thailand Accelerator พร้อมผนึก 25 พันธมิตร มุ่งช่วย Startup ระดมทุน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด