ยกแนวคิด Tech as Human Augmentation จาก MIT Media Lab มาไว้ในประเทศไทยกับ KBTG | Techsauce

ยกแนวคิด Tech as Human Augmentation จาก MIT Media Lab มาไว้ในประเทศไทยกับ KBTG

นับเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับงาน MIT Media Lab Southeast Asia Forum ที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกา (MIT Media Lab) ร่วมกับกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) และธนาคารกรุงเทพ (BBL) เมื่อวันที่ 19-21 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา


โดยภายหลังจากจบงานในวันที่ 21 ธันวาคม ผู้บริหาร KBTG และ KBTG Fellow ได้แก่ 

  • คุณเรืองโรจน์ พูนผล Group Chairman, KASIKORN Business-Technology Group 
  • ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director, KBTG Labs 
  • ดร.มนต์ชัย เลิศสุทธิวงค์ Principal Research Engineer และ Head of AI Research, KBTG Labs
  • คุณพัทน์ ภัทรนุธาพร นักศึกษาปริญญาเอก MIT Media Lab และ KBTG Fellow

ได้เปิดเผยถึงเบื้องหลังและแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ให้สื่อมวลชนได้ฟังกัน Techsauce จึงขอหยิบแนวคิดที่น่าสนใจของ MIT Media Lab ต่อเทคโนโลยีและสังคม และการนำมาใช้ในประเทศไทยมาให้ผู้อ่านได้อ่านกัน

Technology ในมุมมองของ MIT Media Lab

เทคโนโลยีที่ใกล้ตัวกับมนุษย์มากที่สุดคือเทคโนโลยีที่เราสามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันหรือการทำงาน ทำให้หลายเทคโนโลยีถูกพัฒนามาเพื่อการพาณิชย์ แต่คำถามแรกที่ควรตั้งกับการสร้างหรือพัฒนาเทคโนโลยีคือ ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์ควรจะเป็นอย่างไร ?

คุณพัทน์ ในฐานะนักศึกษาปริญญาเอกใน MIT Media Lab ที่ได้รับทุนวิจัย KBTG Fellowship จาก KBTG เล่าให้ฟังถึงแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยีของ MIT ว่าเป็นการสร้างความเป็นไปได้แบบไร้ขีดจำกัด ภายในแนวคิด 4 Ps คือ Passion (ความหลงใหล), Play (วิจัยเพราะอยากทำให้สนุก), Project (ทำเป็นโปรเจกต์) และ Peer (การมีเพื่อนช่วยส่งเสริมต่อยอดไอเดียกัน) ผลงานที่เกิดขึ้นจึงมีตั้งแต่การวิจัยการทำงานของแบคทีเรียในกระเพาะอาหารของมนุษย์ การสร้างจอสัมผัส (Touch screen) ไปจนถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในอวกาศ ภายใต้แนวคิดว่าเทคโนโลยีจะมาช่วยให้ชีวิตมนุษย์ดีขึ้นได้อย่างไร ?

โดยได้ยกตัวอย่างว่า มนุษย์เราหลายคนอาจจะสงสัยในศักยภาพของตัวเอง ทำให้เราไม่แน่ใจว่าตัวตนในอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร และเราหลายคนก็มักจะคิดถึงผลลัพธ์ระยะสั้นทำให้ไม่ได้ตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดให้ตัวเอง จากผลการวิจัยทางจิตวิทยาพบว่า ถ้าเราได้เห็นความแตกต่างของตัวตนในปัจจุบันเทียบกับตัวตนในอีก 10 ปีข้างหน้า จะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น นั่นเป็นสาเหตุของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Future You ขึ้น โดย Future You คือ AI ที่นำข้อมูลและตัวตนของเรามาจำลองเพื่อให้เกิดตัวตนของเราในอนาคตในแบบต่าง ๆ ที่จะมาคุยกับเราเพื่อช่วยให้เราเห็นภาพตัวเราในอนาคตในแบบต่าง ๆ ได้

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีนี้ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากความคิดเชิงพาณิชย์ แต่หากทำได้สำเร็จจะเป็นประโยชน์กับมนุษย์จริง ๆ ซึ่งใน MIT Media Lab ก็มีเทคโนโลยีที่มีแนวคิดนี้มากมาย แต่ MIT ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ในประเทศไทย

MIT Media Lab Southeast Asia Forum ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณกระทิง เล่าให้ฟังว่า KBTG เป็น Tech Company ที่มีการทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ จึงได้มีการร่วมมือกับ MIT ในการเป็น Research Consortium (พันธมิตรในการวิจัยและค้นคว้า) กันมา และหากมีโอกาสก็อยากจะนำผู้เชี่ยวชาญจาก MIT มาทำให้คนไทยเห็นความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี จากที่เรามองนักวิทยาศาสตร์เป็นคนที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่ปรากฎว่าผู้เชี่ยวชาญที่มาในงานนี้ นอกจากคุยสนุกแล้วยังเปิดให้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และมุมมองที่เปิดกว้างมาก ๆ ซึ่งทำให้ผู้ฟังได้เห็นว่าวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีในอีก 10 ปีหรือ 100 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

ตรงกับความต้องการของคุณพัทน์ ที่เมื่อมีโอกาสได้ไปเรียนไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแห่งความเป็นไปได้ที่ MIT ก็อยากจะให้ประเทศไทยมีบ้าง จึงเริ่มต้นคิดถึงการนำ MIT Media Lab เข้ามาในประเทศไทย และเมื่อ KBTG มี Collaboration กับ MIT อยู่แล้ว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปได้

ขณะที่ MIT Media Lab มีแนวคิดในการขยายและเผยแพร่ความรู้ไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ จึงทำให้ได้พูดคุยกันเพื่อจัดงานเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสำนวน The elephant in the room หมายถึง ปัญหาที่ทุกคนเห็นเหมือนกัน แต่ไม่ได้รับการแก้ไข และถ้าธีมงานครั้งนี้จะไปไกลกว่าแค่ปัญหาที่เห็นน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ฟังอย่างมาก จึงเป็นที่มาของธีมงาน “Beyond the Elephant in the room” (มองไปให้ไกลว่าปัญหาที่เรามองเห็น)

Technology ในมุมมองใหม่

ภายในงานจะพบกับเรื่องราวของแนวคิดทางเทคโนโลยีที่ไม่ใช้แค่ผลิตสินค้ามาขาย แต่เป็นการยกระดับชีวิตมนุษย์ด้วยการผสานหลาย ๆ ศาสตร์เข้าด้วยกัน (Multidisciplinary) เช่น การศึกษาชีวิตของแบคทีเรียในกระเพาะอาหารของมนุษย์เพื่อการสร้างเสียงดนตรีที่ทำให้เห็นความเชื่อมโยงของศาสตร์ที่ต่างกัน หรือการบรรยายของผู้บริหารหญิง Dava Newman ผู้อำนวยการ MIT Media Lab อดีตรองผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (Deputy Administrator of NASA) ที่สร้างแรงบันดาลใจข้ามกรอบความเป็นไปได้

ดร.ทัดพงศ์ เปิดเผยว่า นอกจากเยาวชนแล้ว มีผู้บริหารหลายคนที่มาคุยกับเขาว่า หลังจากฟังการบรรยายแล้ว ทำให้นึกได้ว่าตนเองเคยฝันอยากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ และยินดีมากที่ทั้งคนรุ่นใหม่และผู้ฟังทุกคนได้รับแรงบันดาลใจ รวมถึงมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยี

โดยคุณพัทน์เสริมว่า AI อาจจะเคยถูกมองเป็นผู้ให้ข้อมูล ซึ่งในโลกนี้มีสิ่งที่ให้ข้อมูลกับเราเยอะมาก ทั้งโซเชียลมีเดีย ทั้งวิดีโอ บทความต่าง ๆ และคนก็ยังมอง AI เป็นสิ่งที่จะมาแย่งงานมนุษย์ แต่ถ้าเราเอา AI มาเพื่อพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ น่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีที่ดีกว่า เช่นใน Future You ที่ MIT กำลังพัฒนาขึ้น

เมื่อพูดถึง AI คุณกระทิงจึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ใน KBTG ก็พยายามเอาวิธีมอง Technology ใหม่ ๆ มาใช้เช่นกัน โดยคุณกระทิงก็นำแนวคิดการทำเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์ชีวิตมนุษย์จาก Silicon Valley ที่คุณกระทิงเคยทำงานมาก่อนมาใช้ และวันนี้ก็พยายามจะนำแนวคิดการนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพของมนุษย์จาก MIT มาอยู่ใน KBTG

ก้าวต่อไปของ KBTG จากงานนี้

ดร. ทัดพงศ์ ตอบคำถามในด้านเทคโนโลยีของ KBTG ว่าทิศทางของ MIT Media Lab และ KBTG เหมือนกันตรงที่อยู่บนกุญแจสำคัญ 3 ดอกคือ (1) คน (People) (2) เทคโนโลยี (Technology) และ (3) การสร้างผลกระทบ (Impact) ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ KBTG พบในตัวคุณพัทน์ จึงได้ให้ทุนวิจัย KBTG Fellowship เพื่อให้เกิดนวัตกรรมและคนที่มีความรู้ใหม่ ๆ ไปสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ต่อโลก

ดร.มนต์ชัย เสริมมุมมองว่า งานในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของทั้งการสร้างแรงบันดาลใจ การสร้างความเป็นไปได้ รวมถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและคนต่าง ๆ ซึ่งเป็นการสร้าง Ecosystem ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ในฐานะมนุษย์ ที่ไม่ใช่การเอาเทคโนโลยีนำ แต่เป็นการเอาเทคโนโลยีมาส่งเสริมมนุษย์

จากการมีคนมาเต็มห้องทั้ง 2 วันที่ผ่านมา (19-20 ธันวาคม 2565) ทำให้รู้สึกว่าคนไทยให้ความสนใจมากทั้งที่หัวข้อที่พูดเป็นเรื่องที่ลึกและเข้าใจยาก และเมื่อคนออกมาจากห้องก็ได้ยินบทสนทนาถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ รวมถึงการค้นพบ Passion ของตัวเอง ทำให้คุณพัทน์รู้สึกอิ่มใจมากกับการจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการเติมเต็มความต้องการยก MIT Media Lab ของทั้งคุณพัทน์, KBTG, ธนาคารกรุงเทพ ผู้สนับสนุนทั้งสมาคมศิษย์เก่า MIT, MQDC, True และผู้สนับสนุนอีกมากมายเข้ามาไว้ที่ประเทศไทยได้สำเร็จ


บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ส่องจุดเด่นดิจิทัล โซลูชันของ WHAUP ระบบบริการสาธารณูปโภคและพลังงานอัจฉริยะ

ทำความรู้จักโซลูชันบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ แนวคิดการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและพลังงานแห่งอนาคต ภายใต้ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP บริษ...

Responsive image

บทสรุปการสัมภาษณ์ Dr. Ted Gover : เลือกตั้งสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย รุกสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

บทสรุปการสัมภาษณ์ Dr. Ted Gover ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-ไทย และความท้าทายสำคัญสำหรับทั้...

Responsive image

เผยแนวโน้มและผลกระทบของ AI ผ่านมุมมองของนักวิจัยชั้นนำแห่ง MIT Media Lab “พีพี-ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร”

เทคโนโลยี AI ส่งผลดีหรือผลเสียต่อมนุษย์? เจาะลึกมุมมองที่เกี่ยวกับแนวโน้มและผลกระทบจาก AI ไปกับดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร (พีพี) นักวิจัยไทยแห่ง MIT Media Lab และ KBTG Fellow ที่จะมาแบ่งแ...