THE WISDOM ถอดรหัสการลงทุน ยุค AI เปลี่ยนไวแบบ ‘หักศอก’ | Techsauce

THE WISDOM ถอดรหัสการลงทุน ยุค AI เปลี่ยนไวแบบ ‘หักศอก’

เดอะวิสดอมกสิกรไทย อัปเดตเทรนด์และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี AI พร้อมกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่งในงาน ‘THE WISDOM: Wealth Decoded - Tech Trend Talk’ งานสัมมนาพิเศษที่ คุณกระทิง - เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส - เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) มาแบ่งปันมุมมองให้เห็นภาพและบทบาทของเทคโนโลยี AI ตั้งแต่การเข้ามา Disrupt ธุรกิจ การนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ การสร้างมูลค่าเพิ่มจาก AI ตลอดจนคำแนะนำด้านการลงทุนในกิจการที่ได้ประโยชน์จาก AI ในระยะยาว 

3 ประเด็นหลักต้องรู้ จากงาน ‘THE WISDOM: Wealth Decoded - Tech Trend Talk’

THE WISDOM

ประเด็นที่ 1 เราอยู่ในคลื่นความเปลี่ยนแปลงของ AI แบบ ‘หักศอก’ 

ความเปลี่ยนแปลงด้าน AI เริ่มต้นในปี 2016 เรียกช่วงเวลานั้นว่า ‘The Age of Disruption’ ต่อมาในปี 2018 เป็นยุค ‘Disruption Domino’ เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมที่ถูกดิสรัปต์มากที่สุดคือ สื่อ (Media) รองลงมาคือ การเดินทาง/การท่องเที่ยว (Travel) เห็นได้จากการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมต่างๆ มาในปี 2020 ที่เกิดโควิดระบาด ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดที่สุดคือ ผู้คนหันมาใช้บริการดิจิทัล โดยเฉพาะ Mobile Banking ที่มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมหาศาล และหลังจากนี้ เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีก 2 ครั้ง ได้แก่

  • ปี 2024-2025 จะเป็นจุดหักศอกครั้งแรก ดังจะเห็นได้จาก Generative AI ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และเริ่มนำมาใช้ได้จริง จนสร้าง Productivity ได้มหาศาลแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

  • ปี 2030-2035 จะเกิดจุดหักศอกครั้งที่ 2 จากการผสานรวม (Convergence) ของหลายๆ เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ในช่วงนี้เราจะเริ่มเห็นขีดความสามารถของเทคโนโลยีที่เพิ่มแบบทวีคูณ

  • หลังจากนั้นเทคโนโลยีจะทำให้โลกเปลี่ยนไปอีกมาก และจะเกิด Disruption ที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งแม้แต่เจ้าพ่อแห่งวงการ AI ทั้ง Kai Fu Lee อดีตประธาน Google China หรือ Andrew Ng ผู้บุกเบิกวงการ Deep Learning ก็ไม่สามารถคาดการณ์แบบฟันธงได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป 

ประเด็นที่ 2 : การใช้ AI สร้างมูลค่าเพิ่มในแต่ละอุตสาหกรรม

THE WISDOM: Wealth Decoded - Tech Trend Talk

คุณกระทิงบอกว่า ใครใช้ AI เป็นก็ได้เปรียบ โดยเฉพาะภาคเอกชน เพราะขยับตัวเร็วก็เปลี่ยนแปลงได้เร็ว แต่ต้องเลือกให้ดีว่าจะใช้ AI แบบใด กับเคสไหน คำแนะนำคือ ต้องทดลองใช้ AI ดูก่อนว่า ตัวไหนที่เหมาะกับธุรกิจ และถ้าเลือกใช้เทคโนโลยีถูกทาง อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ยกตัวอย่างเช่น

  • อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ เช่น การพัฒนาเรือให้มีระบบ Automation, การใช้ AI ทำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ท่าเรือสิงคโปร์, การนำ AI ไปบริหารจัดการรถบรรทุก (Truck) ในธุรกิจขนส่ง

  • อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ เช่น หมอใช้ AI ช่วยอ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ได้อย่างรวดเร็ว, การใช้ AI ตรวจจับและช่วยบำบัดรักษาผู้ป่วยซึมเศร้า, การนำ AI มาพัฒนาวิธีรักษาโรค ดูแลสุขภาพ ดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามารักษาตัวในประเทศไทยนานขึ้น 

  • อุตสาหกรรมการศึกษา เช่น การใช้ AI เป็น Teaching Assistant ของ Khan Academy ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี เด็กจะเก่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด

  • อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร เช่น การใช้ AI วิเคราะห์เครื่องดื่มที่ลูกค้าน่าจะชอบ แล้วผลิตเครื่องดื่มรสชาตินั้นออกมา, สตาร์ทอัพใช้ AI ทำให้ข้าวมี Anti-oxidant ขายในอเมริกา 100 กรัม ราคาเกือบ 200 บาท เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 14 เท่า และยังลดการปล่อยคาร์บอนและมีเทน ตอบโจทย์ความยั่งยืนอีกด้วย

  • อุตสาหกรรมการเงินและที่ปรึกษา เช่น ใช้ AI อ่าน Financial Statement แล้วสรุปข้อมูลให้นักลงทุนนำไปประกอบการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ

  • อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น กราฟิกดีไซน์สามารถใช้ AI สร้างสรรค์งานได้อย่างรวดเร็ว เพิ่ม Productivity ลดทั้งต้นทุนและการใช้เวลา นำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้น

ในอนาคต AI จะช่วยเพิ่ม Productivity ได้อีกมหาศาล จน Sam Altman ผู้ก่อตั้ง OpenAI บอกไว้ว่า ต่อไปจะมียูนิคอร์นที่เกิดจากพนักงานเพียงคนเดียว เรียกว่า ‘Solopreneur’ 

ประเด็นที่ 3 : จับหลัก 5D มาใช้ในยุค AI ปฏิวัติโลกการลงทุน

THE WISDOM: Wealth Decoded - Tech Trend Talk

ในทัศนะของคุณกระทิง มีหลักการ 5Ds ที่ใช้วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลก ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดเมกะเทรนด์ ได้แก่

  1. Demographic ข้อมูลประชากรของแต่ละประเทศ ซึ่งตอนนี้โลกกำลังเข้าสู่ Silver Age และเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ยากที่สุด

  2. Dereverage ความสามารถในการลดหนี้ ชำระหนี้ ซึ่งจำเป็นต้องลดหนี้ที่อยู่อยู่ในระดับสูง

  3. Decarbonization ความสามารถในการลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อไปสู่ Net Zero ซึ่งมีมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) เป็นแกนหลักสำคัญที่ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว

  4. Digitalization การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลโดยมี AI อยู่ในทุกๆ ขั้นตอนเพื่อเพิ่ม productivity

  5. Decoupling ความพยายามแยกห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสำคัญระหว่างประเทศมหาอำนาจ รวมถึงการรู้แหล่งผลิตที่หลากหลาย เพื่อรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจภายในประเทศ

จาก 5D นักลงทุนสามารถแตกย่อยแต่ละ D ออกมาเป็น Sub Trend แล้วนำมาผสานรวม (Merge) กัน ดูว่าจะลงทุนด้านไหนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น Demographic + Digitalization พิจารณาการเติบโของจำนวนประชากรจีนกับการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ให้คนจีนใช้ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นพันล้านดอลลาร์

2 กองทุนเกาะเทรนด์การเติบโตโลก แนะนำโดย K WEALTH*

เพื่อตอบสนองเมกะเทรนด์ของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่มีโอกาสได้รับปัจจัยบวกจากเทรนด์นี้ ได้แก่

  1. กองทุน K-GHEALTH ลงทุนในกองทุนหลัก JPMorgan Funds- Global Healthcare Fund-Class A (acc) USD ซึ่งปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย ได้ผนึกกำลังกับ J.P. Morgan Asset Management เป็นพันธมิตรในการบริหารกองทุน โดยกองทุน K-GHEALTH มีนโยบายการลงทุน เน้นหุ้นเติบโตสูง เช่น หุ้นในกลุ่ม Biotech และ MedTech และเน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐานราคาผันแปรตามเศรษฐกิจโลกน้อย 

  2. กองทุน K-GTECH ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก เน้นหุ้นเติบโตสูง ผ่านกองทุนหลัก Threadneedle (Lux) Global Technology, Class IU USD ซึ่งกองทุน K-GTECH มีโอกาสเติบโตจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้ 

  3. อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายวัฏจักร เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นเทคโนโลยี 

  4. เทคโนโลยียังคงเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น เทคโนโลยี 5G, รถยนต์ EV, เทคโนโลยี AI เป็นต้น

  5. บริษัทเทคโนโลยีเร่งคุมต้นทุนในช่วงที่ผ่านมา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มีความแข็งแกร่งในระยะยาว

*ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ถกยุทธศาสตร์ AI ไทย หนทางดึงไทยกลับเวทีโลก ควรเริ่มอย่างไร ?

ค้นพบโอกาสและความท้าทายของ AI ที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมไทย พร้อมกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวทันโลกในยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน!...

Responsive image

รัฐบาลเวียดนามขยับ SME ได้เวลาทวงคืนตลาดแฟชั่นจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนอย่าง Shein และ TEMU

รัฐบาลเวียดนามเตรียม "บล็อก" แอปพลิเคชันและโดเมนช้อปปิ้งออนไลน์ของจีนอย่าง Shein และ Temu ถ้าไม่จดทะเบียนอย่างถูกต้องก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทวงคืน “อุ...

Responsive image

AI ไม่ได้แทนที่คุณ แต่จะช่วยให้คุณ 'ดีกว่าเดิม'

สำรวจแนวคิด "จิตวิทยาไซบอร์ก" ในการออกแบบระบบมนุษย์-AI เพื่อความรุ่งเรืองของมนุษย์ พร้อมบทบาทของ AI ในการพัฒนาไทยให้เป็น “AI Land” จากมุมมอง ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร ในงาน THE STANDARD ...