ในงาน Techsauce Global Summit 2025 ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับ AI ในประเด็น Harmonizing Ethics of AI: from Regulatory Oversight & Corporate Accountability to Global Collaboration หรือ มาตรฐานจริยธรรม AI ที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันสร้างเพื่อไปสู่ความร่วมมือระดับโลก

สำหรับหัวข้อจริยธรรม AI นี้ มีผู้ร่วมเสวนาซึ่งเป็นตัวแทนจากภาครัฐและองค์กรเอกชน ได้แก่ ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ราฟาเอล ตอร์ควาโต้ ครูซ (Rafael Torquato Cruz) ผู้จัดการคอมมูนิตี COPAI (Community of Practice on Artificial Intelligence) และกองการค้า การลงทุน และนวัตกรรม ESCAP สหประชาชาติ คุณโกเมษ จันทวิมล Principal AI Evangelist บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป จำกัด (KBTG) และ คุณสถาพน พัฒนะคูหา ซีอีโอ Guardian AI เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กล่าวว่า ETDA เป็นหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบด้านการกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัลและส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะ เทคโนโลยี AI ที่ต้องใช้อย่างมีจริยธรรมและธรรมาภิบาล โดยล่าสุด ได้มีการร่างหลักการกฎหมาย AI ฉบับแรกของไทย ที่เป็นกรอบในการกำหนดร่างกฎหมาย AI ของไทยในอนาคต ซึ่งหนึ่งในสาระสำคัญคือการให้ความสำคัญกับการรับรองการทำธุรกรรมออนไลน์ด้วย AI ที่สอดคล้องกับหลักสากล โดยร่างหลักการกฎหมายนี้สำคัญตรงที่มี Sandbox ให้ทดลองทำ เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและการกำกับดูแลให้มีความสมดุล และมีกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจน สามารถระบุประเภทบริการ AI ที่มีความเสี่ยงสูงได้
ดร.ชัยชนะกล่าวถึงความสำคัญของการกำกับดูแลการใช้ AI ในไทยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดูแลความเสี่ยงในการใช้ AI ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ แต่ AI Regulations ของไทยยังไม่มีความชัดเจน อยู่ระหว่างการหาแนวทางที่เหมาะสมกับประเทศ จะมีก็เพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่มีออกกฎมายควบคุม AI โดยเฉพาะหน่วยงานที่ให้ความสำคัญเรื่องคุณค่าความเป็นมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่าง UNESCO ก็เล็งเห็นความสำคัญของการควบคุม AI ไม่ให้ทำอันตรายมนุษย์ ในปี 2021 จึงออก ‘Recommendation on the Ethics of Artificial Intelligence’ ที่เป็นข้อเสนอแนะด้านจริยธรรมเกี่ยวกับ AI เพื่อเป็นแนวทางการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมให้ประเทศต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การออกกฎเพื่อควบคุมการใช้เทคโนโลยีนั้นก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการสร้างและใช้นวัตกรรมอยู่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหากออกกฎได้อย่างเหมาะสม มองว่ากฎหรือระเบียบที่ออกมาก็สามารถสนับสนุนการใช้นวัตกรรมได้ เช่น ถ้าใช้เครื่องมือ AI ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรโดยมีโลโก้รับรองติดอยู่ คนก็จะไว้ใจและกล้าใช้เทคโนโลยีนั้นมากขึ้น นอกจากนี้ หากรู้ว่าควรต้องบาลานซ์ด้านกฎที่ใช้ควบคุมและราคาสินค้าและบริการดิจิทัลได้ก็จะเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ มากขึ้น
ประเทศไทยค่อนข้างพร้อมสำหรับการพัฒนานวัตกรรม AI และเศรษฐกิจ AI อีกเรื่องที่อยากนำเสนอคือ ตอนนี้ภาครัฐต้องการทำให้ผู้คนเข้าถึงการใช้ AI ได้อย่างเท่าเทียม และต้องการทำให้คนมีความรู้เกี่ยวกับ AI มากขึ้น รัฐบาลจึงจัดตั้ง AI Governance Practice Center (AIGPC) หรือ ศูนย์ปฏิบัติการด้านธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ของภูมิภาค ที่จะสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนจริยธรรมและธรรมาภิบาล AI ในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในประเทศสมาชิก UNESCO ผ่านการดำเนินงานต่างๆ ในหลายมิติ โดยในปีนี้เน้นความสำคัญที่ภาครัฐ ส่วนปีหน้าจะเน้นความสำคัญที่ภาคเอกชน
คุณราฟาเอล ตอร์ควาโต้ ครูซ (Rafael Torquato Cruz) ผู้จัดการคอมมูนิตี COPAI (Community of Practice on Artificial Intelligence) และกองการค้า การลงทุน และนวัตกรรม ESCAP สหประชาชาติ บอกว่า การใช้งาน AI มีความเสี่ยงหลายระดับจึงควรมีไกด์ไลน์ด้านจริยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น (Trust) ว่าใช้งานได้ และหากจะนำข้อมูลมาสร้างสรรค์ก็ต้องมีการควบคุมการแชร์หรือแบ่งปันข้อมูล (Data Sharing) และต้องบาลานซ์ระหว่างการใช้งานเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป กับการใช้งานในฐานะพลเมืองที่ดี
การสร้างทุนนุษย์ที่พร้อมสำหรับ AI ต้องกำหนดทิศทางการใช้นวัตกรรม ปูพื้นความรู้ให้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กนักเรียน สอนเรื่อง AI ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ในอนาคต
"COPAI คอมมูนิตีที่ให้คนมาแชร์ความสนใจ เรียนรู้และสนทนาด้าน AI ร่วมกัน เช่น จะสร้างโซลูชันส์ AI ได้อย่างไร, มีคอมที่รัน AI ได้ไหม, AI มีจิตสำนึกหรือไม่, AI สร้างกรรมได้ไหม, ถ้าใช้ AI ด้วยความตั้งใจดี พัฒนา AI ที่ทางที่ดี นักพัฒนาก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหรือเปล่า" คุณราฟาเอลกล่าว
เนื่องจากเป้าหมายของ COPAI คือ ทำให้การพูดคุยเกี่ยวกับ AI เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้วยการนำเสนอวิธีนำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กับเน้นเรื่องการให้คนหลากหลายกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา AI ให้ทดลองพัฒนา AI ผ่าน Open Source เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกคนสามารถแชร์ข้อมูลกันได้และใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเท่าเทียมกัน
เรื่องที่อยากฝากไว้ คือ อยากให้คิดถึงประโยชน์จากการใช้ AI พัฒนาสังคม เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้าร่วมในงานสายงานต่างๆ มากขึ้น ทำให้มีคนได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมากขึ้นไม่ใช่แชร์แต่ความเสี่ยง แคร์แต่เรื่อง GDP Growth

ในมุมของภาคการเงิน คุณโกเมษ จันทวิมล Principal AI Evangelist บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป จำกัด (KBTG) บริษัทเทคภายใต้ธนาคารกสิกรไทยซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2017 บอกว่า อุตสาหกรรมธนาคารให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและมีการกำกับดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว ธนาคารจึงต้องประเมินความเสี่ยงอยู่เสมอ ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบาลานซ์ทั้งด้านนวัตกรรมและความเสี่ยง
KBTG เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล จึงมุ่งเน้นการสร้างความรู้และทักษะด้าน AI ให้กับพนักงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาและใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีพื้นฐานการใช้ AI ใช้ในเชิงสร้างสรรค์ ทั้งยังสร้าง 'Innovation Playground' พื้นที่ทดลองที่ให้โอกาสพนักงานนำเสนอแนวคิดหรือ Pitch ไอเดีย ได้พัฒนา AI ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและปลอดภัย จนสามารถใช้งานได้จริงและนำไปให้บริการลูกค้าได้
ในบริบทที่กว้างขึ้น KBTG ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) สร้าง AI Sandbox เพื่อเรียนรู้การสร้างโมเดล AI กับธรรมาภิบาลการใช้ AI มาหลายปีแล้ว และยังสร้างคอมมูนิตีให้ผู้คนมาพบปะกัน เปิดโอกาสให้เรียนรู้ด้าน AI จากผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ นำ AI ไปประยุกต์ใช้ได้ ทั้งยังเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญให้กลับมาช่วยพัฒนาประเทศไทยในอีกหลายด้าน
ปิดท้ายด้วยการฝากสนับสนุน (Empower) ให้คนไทยสร้างและใช้ AI ในทางที่ดี เปลี่ยนความกลัว AI เป็นความตื่นเต้นเมื่อเห็น AI และถ้าใครอยากสร้าง AI ก็ควรมีช่องทางให้เข้าถึงเครื่องมือได้สะดวก ซึ่งก็จะน่าจะช่วยเพิ่ม GDP ของประเทศได้ด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด