Alibaba Cloud โชว์ผสาน ‘AI-Cloud’ เพื่อธุรกิจฟินเทคคล่องตัว ปลอดภัย ได้มาตรฐาน พร้อมขยายถึงระดับไฮเปอร์สเกล

ยิ่งมีข่าวมิจฉาชีพล้วงข้อมูล ใช้ Deepfake หลอกโอนเงิน สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจฟินเทคยิ่งต้องตรวจสอบและติดตามความผิดปกติอย่างเข้มงวด ซึ่งในงาน Techsauce Global Summit 2025 ที่ผ่านมา มีการพูดถึงการใช้เทคโนโลยี AI และ Cloud Computing ของ Alibaba Cloud เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมทางการเงิน (FSI: Financial Service Industry) นำเสนอโดย คุณจารุ นาถบุญ Lead Solution Architect, Alibaba Cloud ในหัวข้อ AI-Cloud Synergy: Hyper-Scalable Fintech Transformation หรือ การผสานเทคโนโลยี AI และ Cloud เพื่อพาธุรกิจฟินเทคเปลี่ยนผ่านสู่บริการระดับไฮเปอร์สเกล

เทคโนโลยี AI-Cloud ของ Alibaba กับความสามารถที่โดดเด่น

คุณจารุ นาถบุญ กล่าวถึงโมเดลเรือธงและเทคโนโลยีหลักของ Alibaba Cloud ตัวล่าสุด ได้แก่ Tongyi (ถงอี้) โมเดลพื้นฐาน (Foundation Model) ที่พัฒนาขึ้นเอง หรือเรียกว่า First-party ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาโมเดลในซีรีส์ Qwen (เควน) ที่ออกแบบเชิงกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการหลายรูปแบบ เช่น 

• Qwen-3 โมเดล AI ที่เปิดให้ใช้งานทั้งแบบ Commercial และ Open Source มีความเข้าใจเชิงลึก ข้อความ เสียง และรูปภาพ มีประสิทธิภาพและราคาที่แข่งขันกับโมเดล AI ฝั่งตะวันตกได้
• Qwen-MT โมเดล AI สำหรับการแปลภาษาอัจฉริยะ และ เรียลไทม์
• Qwen-3 Coder โมเดล AI สำหรับการสนับสนุนการเขียนโปรแกรม (Agent Coding)
• Qwen-3 Embedding โมเดล AI สำหรับการทำ AI Search

นอกจากนี้ ยังมีโมเดลสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องมีการปรับแต่ง (Fine-tuning) และโฮสต์โมเดลบน GPU ประสิทธิภาพสูง โดยมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้จาก Model Studio ที่รองรับได้ทั้งโมเดลของ Alibaba Cloud และ Third-party อื่นๆ

ในด้านการใช้งานระดับ Hyperscale คุณจารุ นาถบุญ ยกตัวอย่างธุรกิจ E-commerce ที่สามารถใช้โมเดล AI ในการทำ Image Search ค้นหารูปภาพมากกว่าวันละ 3 พันล้านครั้ง จากจำนวนผู้ใช้งานที่มีมากกว่า 10 ล้านคน หรือจะเป็น AI Chatbot ที่คอยตอบคำถามลูกค้า ซึ่งลดภาระงานได้ถึง 98% หรือเทียบเท่ากับการจ้างพนักงานมากถึง 700,000 คน ส่งผลต่อการลดต้นทุนได้มหาศาล และอีกกรณีคือ Vision API Request ตัวช่วยในการสแกนใบหน้าเพื่ออนุมัติให้ทำธุรกรรม โดยรองรับการสแกนถึงวันละ 1.6 แสนล้านครั้ง

สอดคล้องกับนโยบาย Cloud First ของภาครัฐ และเพื่อให้การใช้งานโซลูชันส์ทางการเงินรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น Alibaba Cloud จึงเข้ามาตั้ง Local Data Center ในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม หากองค์กรใดมีข้อจำกัดในการนำข้อมูลขึ้น Public Cloud ทาง Alibaba Cloud ก็นำเสนอบริการ Private Cloud ให้ได้

กรณีการใช้งาน AI ในกลุ่มอุตสาหกรรมทางการเงิน (FSI)

ในมุมของ FSI คุณจารุ นาถบุญ เผยว่า กลุ่มนี้ให้ความสนใจการใช้งาน AI 3 ด้านหลัก ดังนี้

1. Natural Language Processing (NLP) คือ ระบบประมวลผลภาษาธรรมชาติ เพื่อเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลของธนาคาร เช่น ข้อมูลลูกค้า หรือกฎเกณฑ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ได้

2. Recommendation System คือ ระบบให้คำแนะนำ เพื่อทำ Hyper-personalization สำหรับแนะนำแคมเปญหรือสินเชื่อเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจ

3. Fraud Detection ระบบตรวจจับความผิดปกติหรือการฉ้อโกง ยกตัวอย่าง การใช้ eKYC (Electronic Know Your Customer) เพื่อยืนยันตัวตนลูกค้า, การใช้ AML (Anti-Money Laundering) เพื่อป้องกันการฟอกเงิน รวมถึงการบริหารความเสี่ยงต่างๆ บนแอปพลิเคชันทางการเงิน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ภาคธนาคาร

โซลูชันสำหรับ FinTech ในยุคที่ AI พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

Alibaba Cloud นำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มฟินเทค โดยแบ่งได้หลักๆ เป็น Financial Service Solutions Stack ที่มีโซลูชันส์เฉพาะด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็น e-KYC, Mobile App, Wallet และ Customer Engagement กับ Decision-Making AI คือ การใช้โมเดล AI ทั่วไป (เช่น Qwen) และ AI เฉพาะทาง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมาประกอบการตัดสินใจ

มาที่เรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ อุตสาหกรรมทางการเงินต้องยกระดับการป้องกัน Deepfake และ การฟอกเงิน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประเด็นนี้ คุณจารุ นาถบุญ อธิบายถึงความท้าทายจาก Deepfake และการฟอกเงิน กับการรับมือว่า

“เช่น การที่มิจฉาชีพใช้ Deepfake ปลอมเป็น CFO เพื่ออนุมัติการทำธุรกรรมมูลค่า 25 ล้านเหรียญในฮ่องกง, การสร้างบัตรประชาชนปลอมเพื่อเปิดบัญชีสำหรับฟอกเงิน เป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจนระบบ eKYC แบบเดิมอาจไม่สามารถตรวจจับได้”

ธนาคารจึงต้องพัฒนาระบบ eKYC ให้เข้มข้นขึ้น สามารถตรวจจับ Deepfake ธุรกรรมต้องสงสัย รวมถึง AML ได้ เช่น Alibaba Cloud Zoloz (eKYC Solution) ระบบยืนยันตัวตนเทคที่ใช้โนโลยีเดียวกับ Alipay พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ และมีการใช้งานโดยธนาคารในหลายประเทศ

โดยระบบดังกล่าวผ่านการรับรองมาตรฐานสากล อาทิ ISO 27001, SOC 2, PCI DSS และที่สำคัญคือ IBETA Level 2 Certified ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดสำหรับการยืนยันตัวตน และ ความสามารถในการป้องกันเทคนิคการปลอมแปลงขั้นสูง โดยเฉพาะ Deepfake

ในด้านการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering: AML) Alibaba Cloud ก็พัฒนาเทคโนโลยี AI-powered Detection โดยใช้ความสามารถของ AI Agent 3 ตัววิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่าง Account, Network, IP Address และ ปัจจัยต่างๆ ทั้งยังใช้ Generative AI ในการตรวจจับแพทเทิร์นแปลกปลอมเมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีต และสุดท้ายมีใช้ Sanction Screening ช่วยเพิ่มเงื่อนไขในการตรวจจับธุรกรรมการเงินผ่าน Watchlist, Blacklist, และ Rules ต่างๆ จนได้มาซึ่ง Suspicious Transaction Report (STR) เพื่อส่งให้สถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป

มีผลิตภัณฑ์ด้าน AI Security และ Governance พร้อมใช้และได้มาตรฐาน

คุณจารุ นาถบุญ ปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์ด้าน การใช้งาน AI อย่างปลอดภัยและมีธรรมาภิบาล (AI Security & Governance) ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า Alibaba Cloud นอกจากได้มาตรฐานสากลรับรองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความปลอดภัยครบถ้วนแล้ว ยังเป็น Public Cloud ที่ได้รับ ISO 42001 (AI Management System) ซึ่งเป็นลำดับแรกๆของโลก และเพื่อเสริมความปลอดภัยในการพัฒนา AI Application อย่างเป็นระบบและมีธรรมาภิบาล ทาง Alibaba Cloud มีบริการ Cloud Shield (AI Guardrail) เพื่อความปลอดภัยให้ 3 ระดับ ดังนี้

• Infrastructure Layer ใช้ควบคุมป้องกันการเข้าถึง AI Application และมีนโยบายความปลอดภัยหากถูกโจมตีผ่านระบบเครืองข่าย
• Model Layer ใช้ตรวจสอบ Prompt หรือ Request ที่เข้ามาเพื่อป้องกันคำหยาบหรือข้อมูลหลอน (Hallucination) รวมถึงการโจมตีแบบ Prompt Injection
• Application Layer ใช้ในการตรวจจับและจัดการ AI Bot ที่พยายามดึงข้อมูลจากระบบงานโดยอัตโนมัติ (Scrape Data) โดยไม่พึงประสงค์