โอกาสของ Virtual Banks และการรับมือความท้าทาย ในมุมผู้ลงทุนสถาบัน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรหลักจัดงานสัมมนา ‘Thailand Focus 2025: Beyond the Challenges’ ซึ่งภายในงานมีหัวข้อเสวนา Virtual Banks in Thailand: Opportunities, Risks, and Governance Challenges (ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา: โอกาส ความเสี่ยง และความท้าทายในการดูแล) เป็นการให้ข้อมูลและเสริมความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย ร่วมกับการบ่งบอกถึงพัฒนาการสำคัญของระบบการเงินไทยในอนาคต  

สำหรับหัวข้อ Virtual Banks in Thailand: Opportunities, Risks, and Governance Challenges มีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ คุณมาณพ เสงี่ยมบุตร Chief Financial Officer, SCBX คุณอิทธินันท์ วัฒน์สุขสันติ ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อ บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์สินเชื่อ บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด และ คุณสรัชดา ศรทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

ทั้งนี้ 2 ผู้ร่วมเสวนามาจากกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank นั่นคือ คุณมาณพ เป็นตัวแทนจาก กลุ่ม SCBX, WeTechnology และ GagaoBank Corp. ส่วนคุณอิทธินันท์ เป็นตัวแทนจาก บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งก็คือ แอสเซนต์ มันนี่ (Ascent Money) ที่ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานของ TrueMoney

หรือ Virtual Bank จะมาแข่งกับธนาคารดั้งเดิม?

คุณมาณพกล่าวในตอนต้นว่า การพัฒนา Virtual Bank ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเป็นคู่แข่งธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม แต่มีเป้าหมายในการให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย เข้าไม่ถึงการบริการทางการเงินจากระบบธนาคารในปัจจุบัน ซึ่งการเป็นธนาคารรูปแบบใหม่ก็จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ให้คนกลุ่มนี้ได้ ด้วยระบบ Core Banking ที่ทำงานได้อย่างอิสระจากบริษัทแม่หรือบริษัทในเครือ ตามกฎของ ธปท.

สำหรับเป้าหมายในการพัฒนาระบบ SCBX จะพัฒนา ระบบปัญญาประดิษฐ์ท้องถิ่นของตัวเอง (AI Native) เพื่อให้บริการผู้ที่ไม่เคยเป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่มีข้อมูลทางการเงินในระบบธนาคารดั้งเดิม และเชื่อว่าต้นทุนการดำเนินงานจะต่ำกว่าต้นทุนของธนาคารดั้งเดิมที่มีกฎระเบียบเข้มงวดมาก

ด้านแอปพลิเคชัน คุณมานพบอกว่าแอปพลิเคชันของ Virtual Bank จะแตกต่างจากแอปพลิเคชัน SCB Easy ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักใช้ในการชำระเงิน โดย Virtual Bank จะเป็นแอปที่พัฒนาขึ้นใหม่ เน้นให้บริการที่ตรงกับพฤติกรรมการใช้จ่ายและความจำเป็นของผู้ใช้งานแต่ละราย เพื่อช่วยให้ธนาคารนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 

คุณอิทธินันท์กล่าวเปรียบเทียบ Virtual Bank กับธนาคารดั้งเดิมว่า มีส่วนที่ทำงานทับซ้อนกับอยู่ เช่น บริการรับฝากเงิน แต่การพัฒนา Virtual Bank ภายใต้เครือซีพีและพันธมิตร จะสามารถใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศธุรกิจของกลุ่มได้ เช่น ร่วมใช้ข้อมูลและประสบการณ์จาก TrueMoney แพลตฟอร์มชำระเงินออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 30 ล้านคน

Virtual Bank จะเป็นก้าวสำคัญที่เติมเต็มเส้นทางการเงินของลูกค้า ซึ่งจุดแข็งของ Ascent Money คือ การผสานฐานผู้ใช้งาน TrueMoney กว่า 30 ล้านรายเข้ากับเครือข่ายพันธมิตรที่มีอยู่กว้างขวาง โดยมีเป้าหมายในการทำให้ธนาคารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันลูกค้าผ่านการทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค

คุณอิทธินันท์ยังบอกอีกว่า การเข้ามาของ Virtual Bank จะสร้างประโยชน์ 3 ด้านหลัก ได้แก่

  • 1) เสนอสินเชื่อที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นได้มากขึ้น สำหรับกลุ่ม Gig Worker หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ค้ารายย่อย โดยนำข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) มาใช้พิจารณา 

  • 2) ให้บริการแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบและเน้น Mobile First ที่เข้าถึงง่าย เชื่อถือได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าถึงธนาคาร และ 

  • 3) ขยายบริการนอกเหนือจากสินเชื่อให้แก่ผู้ที่ต้องการได้ เช่น การออม การลงทุน ผลิตภัณฑ์คุ้มครอง ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลตามข้อมูลลูกค้า

ด้านเป้าหมายของการพัฒนา Virtual Bank คุณอิทธินันท์บอกว่า บริษัทตั้งเป้าให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าที่ไม่มีประวัติทางการเงิน ไม่มีสลิปเงินเดือน และพัฒนาระบบการปล่อยสินเชื่อใหม่โดยใช้ข้อมูลจากเครือข่ายทางธุรกิจ ใช้ข้อมูล Big Data  และ AI Credit Scoring เพื่อนำเสนอวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมแก่ผู้ขอกู้ แม้จะเป็นวงเงินที่ไม่มากนัก แต่จะช่วยพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของผู้กู้ได้

Virtual Bank จะส่งผลให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนซึ่งอยู่ในระดับสูงของไทยขยายตัวหรือหนักหนากว่าเดิมหรือไม่

คุณมานพกล่าวว่า Virtual Bank จะช่วยพาลูกหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น และจะไม่ทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเลวร้ายลง ซึ่งในปัจจุบัน หนี้ครัวเรือนไทยนั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก เงินกู้นอกระบบก็มีขนาดใหญ่มาก จึงเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไข และเชื่อว่าถ้ามี Virtual Bank จะช่วยให้คนที่เคยกู้นอกระบบกลับเข้ามากู้ในระบบมากขึ้น ดังนั้น Virtual Bank จึงไม่ได้ช่วยทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนดีขึ้น

คุณมาณพระบุเพิ่มว่า รายได้น้อย เป็นต้นตอหลักของปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยครัวเรือนที่มีรายได้น้อยมักหันไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ การยกระดับรายได้จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด และต้องใช้นโยบายการคลังที่กว้างขึ้นเพื่อกระตุ้นการเพิ่มรายได้ให้ประชากรที่มีรายได้น้อย

คุณอิทธินันท์เห็นด้วยกับคุณมาณพ แล้วเล่าถึงพอร์ตโฟลิโอของ Ascend Money ว่า 50% ของผู้ยื่นกู้ไม่เคยกู้เงินในระบบเพราะถูกปฏิเสธจากธนาคารหรือสถาบันการเงินมาก่อน จึงไปกู้ยืมเงินนอกระบบซึ่งคิดดอกเบี้ยสูง ทางบริษัทจึงใช้ข้อมูลและประสบการณ์ทางธุรกิจในการให้เงินกู้แก่ลูกค้ากลุ่มนี้ 

แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ บริษัทต้องดูด้วยว่า ลูกค้ากู้ยืมเงินไปทำอะไร และบริษัทให้เงินกู้อย่างไร เช่น ถ้าให้กู้ยืมจำนวนไม่มากนักและช่วยให้ผู้กู้บริหารหนี้ได้ อาจนำเงินกู้นี้ไปดำเนินธุรกิจต่อ จากปกติที่จะไปหาเงินกู้นอกระบบ และเมื่อเข้ามาใช้บริการ Virtual Bank แล้ว บริษัทก็จะสามารถเก็บข้อมูลและติดตามตรวจสอบได้  

ความท้าทายและวิธีรับมือของสองผู้ลงทุนสถาบัน

คุณมาณพบอกว่า แม้ Virtual Bank จะเป็นสถาบันที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและมีกฎระเบียบเช่นเดียวกับธนาคารทั่วไป แต่การสร้างความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะลูกค้าจะต้องย้ายเงินออมไปยังธนาคารดิจิทัลที่ไม่มีสาขาเต็มรูปแบบ

SCBX จึงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างครบถ้วนและใช้แพลตฟอร์มที่เป็นกลางเพื่อเชื่อมต่อแบบ Plug-and-play กับระบบนิเวศอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า WeBank, Kakao Bank ที่มาอยู่เบื้องหลังใบอนุญาตเดียวกันนี้ ประกอบกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และสร้างความประทับใจได้ จะช่วยดึงดูดและรักษาความไว้วางใจของลูกค้าเอาไว้

ส่วน Ascent Money เน้นการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานแยกต่างหาก ขณะเดียวกันก็ยังคงใช้ประโยชน์จากข้อมูลเครือข่ายและข้อมูลลูกค้า (โดยได้รับความยินยอม) จาก TrueMoney และพันธมิตร เพื่อนำไปปรับแต่งบริการต่อ โดยวางแผนที่จะสร้างความไว้วางใจผ่าน 4 เสาหลัก ได้แก่ 

  • 1) ความโปร่งใสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ 
  • 2) การใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ใช้กว่า 30 ล้านคนของ TrueMoney 
  • 3) การสนับสนุนการใช้เครื่องมือดิจิทัลที่มีความเป็นมนุษย์ และ 
  • 4) การป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลอย่างแข็งแกร่งและเป็นไปตามหลัก PDPA

วิสัยทัศน์ในอีก 5 ปีข้างหน้า

คุณมาณพบอกว่า Virtual Bank ของ SCBX มีเป้าหมายจะเป็นที่รู้จักในด้าน การสร้าง ความพึงพอใจให้ลูกค้า ด้วยข้อเสนอใหม่ๆ ที่น่าประทับใจ และกลายเป็นแพลตฟอร์ม Virtual Bank ที่คนต้องการมากที่สุด

ฝั่ง Ascent Money คุณอิทธินันท์บอกว่า อยากให้ Virtual Bank ได้รับการยอมรับว่าเป็นธนาคารที่สามารถ มอบโอกาสให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจ และเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างเป็นทางการ (First Formal Financial Products) ให้ลูกค้าเป็นเจ้าแรก 

สรุปแล้ว สิ่งที่สอดคล้องการมีเป้าหมายร่วมกันในการการสร้างสรรค์ ขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน และสร้างความเชื่อมั่นในยุคดิจิทัลไปพร้อมกับการรับมือกับความท้าทายต่างๆ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รวมคลื่น Layoff 2025 บิ๊กเทคปลดคนครั้งใหญ่ 300 กว่าวันที่ผ่านมาเจออะไรบ้าง ?

อัปเดตวิกฤต Layoff ปี 2025 ในวงการเทค Intel ปลดกว่า 23,000 คน ตามด้วย Microsoft และ Amazon วิเคราะห์ภาพรวมการลดคนครั้งใหญ่และแนวโน้มตลาดแรงงานยุค AI...

Responsive image

สรุป 17 ดีลใหญ่ AI ที่เกิดขึ้นในปี 2025

สรุปครบ 17 ดีล AI ยักษ์ใหญ่ปี 2025 พร้อมเจาะลึกปม Circular Deals หรือการหมุนเงินลงทุนเป็นวงกลม สัญญาณเตือนฟองสบู่ที่นักลงทุนต้องระวัง...

Responsive image

ทิศทาง Agoda ในยุค AI-First จาก CEO เตรียมปักธงปั้นกรุงเทพฯ เป็น ‘Silicon Valley แห่งเอเชีย’ พร้อมส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2026

เจาะลึกวิสัยทัศน์ Agoda 2025 ปั้นกรุงเทพฯ สู่ Silicon Valley แห่งเอเชีย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ AI-First และ Autonomous Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่คิดแทนคุณได้ เผยข้อมูล Insight เที่ยวไทย...