เจาะลึก Hell Weeks 13 สัปดาห์กับการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต ของเหล่า WEDO Young Talent 2022 | Techsauce

เจาะลึก Hell Weeks 13 สัปดาห์กับการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต ของเหล่า WEDO Young Talent 2022

ด้วยความเชื่อของ WEDO หน่วยงาน Digital Office ภายใต้ธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเอสซีจี ว่า “เด็กไทยมีของ และเป็น Talent ที่มีศักยภาพ” จึงเกิดเป็นแนวคิดพัฒนาพื้นที่แห่งโอกาสและพัฒนาศักยภาพเด็กไทยให้พร้อมรับกับโลกอนาคต ด้วยโครงการ “WEDO Young Talent Program 2022” โครงการเฟ้นหา Talent ทั่วไทยเพื่อมาร่วมฝึกฝนทักษะรอบด้านผ่านการทำงานจริงกับ WEDO ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สอง หลังได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากปีแรก

ซึ่งกว่าที่แต่ละคนจะได้เข้าร่วมโครงการเพื่อทำงานจริงนั้นก็ต้องผ่านหลากหลายโจทย์สุดท้าทายจากแต่ละด่าน และวันนี้เรามาดูกันว่าทักษะแห่งอนาคตที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการคืออะไรบ้าง

เส้นทางของ WEDO Young Talent 2022 จาก Hell Day สู่ Hell Weeks จำนวน 13 สัปดาห์ 

Hell Day 2022 ถือเป็นส่วนหนึ่งของ WEDO Young Talent Program 2022 เป็นภารกิจด่านสุดท้ายที่ชวนผู้เข้าร่วมโครงการมาร่วมกันท้าทายขีดจำกัด โดยจัดขึ้นในรูปแบบ Online Virtual Event ภายใต้ธีม “Chaotic Gateway to Discover the Hidden Power” ที่เรียกได้ว่าโหด หิน และท้าทายกันแบบ Non-stop 24 ชั่วโมง 

โดยกิจกรรม Hell Day 2022 นั้นถือว่าเป็นการทดสอบอย่างรอบด้านทั้ง Skillset และ Mindset รวมถึงความรู้รอบแบบ T-Shape ทั้งในด้าน Design, Business และ Technology ทั้งระดมความคิด ไอเดีย เพื่อนำเสนอ Solution และ Pitching กับคณะกรรมการ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาของการทำภารกิจจะมีทั้งภารกิจกลุ่มและเดี่ยวสลับกันไปมา พร้อมสารพัดด่านที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว กดดันทั้งทางอารมณ์และร่างกาย 

แต่ก็ต้องขอปรบมือให้กับผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 47 คนที่เป็น “สุดในรุ่น” และกลายเป็น WEDO Young Talent 2022 ซึ่งหลังจากผ่านเข้ารอบกันมาแล้ว ทุกคนก็ต้องไปลุยกันต่อกับ WEDO Young Talent Program 2022 โครงการทำงานจริงในรูปแบบ Micro Enterprise ในรูปแบบ Hell Weeks จำนวน 13 สัปดาห์ ประกอบไปด้วยการฝึกฝน และพัฒนาทักษะ T-shape ทั้ง Design, Business และ Technology เพื่อช่วยผลักดันความฝันในการสร้างนวัตกรรมของน้อง ๆ ให้เกิดขึ้นจริง 

อัดแน่นแบบครบด้านกับทักษะ T-shape เพื่อ Talent แห่งอนาคต

เพื่อสร้าง Talent แห่งอนาคต WEDO มุ่งเน้นที่จะผลักดันทักษะสำคัญผ่านกิจกรรมและคลาสเรียนที่หลากหลายทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ครอบคลุมทั้ง 3 ทักษะ T-shape คือ Design, Business และ Technology พร้อมสอดแทรก Mindset สำหรับ Talent ยุคใหม่ และเจาะลึกการทำงานในแต่ละอาชีพ  

เพื่อให้น้อง ๆ ได้ติดอาวุธพร้อมสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นจริงกับคลาสกว่า 13 คลาส ที่สอดแทรกเนื้อหาที่มุ่งเน้นไปสู่หัวใจของการสร้างนวัตกรรมที่ดี ด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง คือ (1) Desirable (ตรงกับความต้องการ) (2) Practical (ทำได้จริง) และ (3) Feasible (เป็นไปได้ทางธุรกิจ) ผ่านหลากหลายคลาสที่มีทั้งการระดมไอเดีย ทดลองทำจริง ลงพื้นที่เพื่อดูสถานที่ทำงานจริงเพื่อให้น้อง ๆ ได้เกิดความเข้าใจในสายงานแต่ละประเภท นอกจากนี้ยังต้องฝึกทักษะการสื่อสารและการเล่าเรื่องที่ดี ผ่านกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการทำความรู้จักเพื่อนร่วมงานและองค์กร การพูดคุยกับ Mentor และ Mingle session

เรียนรู้จริงจากพี่ ๆ แต่ละสายงาน และลงพื้นที่เพื่อสร้างนวัตกรรม

โดยในระหว่างการเรียน 13 คลาสและกิจกรรมอื่น ๆ ตลอด 13 สัปดาห์ น้อง ๆ ทั้ง 47 คนที่มีทั้งหมด 11 กลุ่มจะต้องสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เพื่อนำเสนอไอเดีย (Pitching) ในตอนจบโครงการ ซึ่งจะมีพี่ ๆ Mentor คอยให้การช่วยเหลือตลอดเส้นทาง โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้บริหารจัดการเวลาเอง และยังสามารถติดต่อไปยังพี่ ๆ ที่มีความถนัดเฉพาะในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงพี่อาร์ท อภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer (CDO) แห่ง WEDO ด้วย 

และยิ่งไปกว่านั้นน้อง ๆ ทั้งหมดยังมีโอกาสในการเรียนรู้ประเภทของงานทั้งด้าน Design Business และ Technology แบบเจาะลึก และเยี่ยมชมสถานที่ทำงานจริงเพื่อสร้างความเข้าใจในสายงานแต่ละอาชีพ โดยมีพี่ ๆ มาเล่าตั้งแต่ลักษณะประเภทงาน รูปแบบการทำงาน ประสบการณ์ที่ผ่านมา รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาในแต่ละกรณีศึกษาที่เจอ

จาก 13 สัปดาห์สู่การสร้างผลงานนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และเกณฑ์ตัดสินที่วัดผลจริง

จาการสะสมทั้งทักษะและเรียนรู้จากพี่ ๆ เหล่า WEDO Young Talent ทุกคนจะต้องนำเสนอผลงานในวัน Pitching Day เพื่อเป็นการแสดงนวัตกรรมที่สร้างร่วมกันมากว่า 13 สัปดาห์ โดยในงานจะมีการประกาศผู้ชนะซึ่งเรียกได้ว่าเข้มข้นสุด ๆ โดยผู้คว้าแชมป์ไปก็คือ ทีม ‘Never Fall’ ผู้สร้างผลงานนวัตกรรมป้องกันการล้มในผู้สูงอายุ ซึ่งกว่าจะมาเป็นผลงานนั้น ผู้เข้าร่วมโครงการต้องไปเรียนรู้จริงจากผู้ใช้งานผ่านมาทำงานกันอย่างหนักมากว่า 3 เดือน สำหรับความท้าทายที่พบเจอนั้น หลายคนต่างบอกว่าทักษะการสื่อสารและทำงานเป็นทีมถือเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้ 

นอกจากนี้ยังมีผลงานน่าสนใจจากทีมที่สองอย่างเทคโนโลยี VR ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวให้ปลดล็อคขีดจำกัดต่าง ๆ โดยกว่าจะมาเป็นผลงานนี้ แต่ละทีมต้องพบกับ Mentor หลายรอบเพื่อเคาะหาไอเดียและวิธีการที่เหมาะสมที่สุด ถึงจะท้าทายแค่ไหนก็ยังขอชวนเพื่อน ๆ มาร่วมกันเข้าโครงการในปีถัดไป โดยกล่าวว่าถึงแม้จะเจอความยากลำบากแต่ความยากเหล่านี้จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น 

“จากกิจกรรม Pitching รู้สึกประทับใจกับน้อง ๆ เพราะว่าผลงานของทุกคนมีความเป็นรูปธรรม จับต้องได้ ซึ่งส่วนหนึ่งพี่มองว่ามาจาก Passion ของน้อง ๆ บวกกับอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปล่อยให้ทุกคนได้ทำงานจริง มีทั้งเทคโนโลยี มีพี่ ๆ ที่คอยดูแล และส่วนสำคัญคือทักษะในการสื่อสารเล่าเรื่องราวถือว่าเป็นจุดแข็งมาก อีกทั้งน้องยังสามารถตอบคำถามโหด ๆ จากกรรมการได้ด้วย นอกจากนั้นคือผลงานที่มีคุณค่าจริง มีโอกาสทางธุรกิจที่ชัดเจน มีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้จริง

โดยเกณฑ์การให้คะแนนครั้งนี้วัดจากการสร้างนวัตกรรมที่ดีต้องตอบโจทย์ 3 องค์ประกอบคือ ต้องมี Desirable หมายถึงเป็นที่ต้องการและสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ต้อง Practical คือธุรกิจต้องหยิบมาทำได้จริง โดยรวมไปถึงการคิดเรื่องการผลิตและต้นทุน และ Feasible คือต้องมีกลุ่มคนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ ”  พี่อาร์ท อภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าว 

WEDO ชวนคนมีของมาลุยกันต่อในปีถัดไป

พี่อาร์ต อภิรัตน์ เล่าว่า “หลายปีที่ผ่านมาเราเห็นงานประกวดเยอะมาก แต่มักจบที่ Desirable คือการเน้นแค่ไอเดียและแสดงผลงาน แต่ไม่เคยมีการต่อยอดไปที่ Practical และ Feasible โครงการของเราต้องการต่อยอดทุกส่วนให้ครบภายใน 13 สัปดาห์ของน้อง ๆ โดยมองว่าอยากให้มีโครงการแบบนี้เกิดขึ้น ในไทย และขอเชิญชวนหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาร่วมมือกับเรา 

นอกจากนี้การจัดงานจนเข้ามาสู่ปีที่สองเราได้เรียนรู้ 3 เรื่องหลัก ๆ คือเราได้เรียนรู้ว่า (1) เราจะดึงดูดน้อง ๆ รุ่นใหม่อย่างไร ให้ถูกจุด สิ่งไหนที่ทำให้เขาสนุกและอยากทำ และกล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างที่สองคือน้อง ๆ เหล่านี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าในอนาคตของเรา ทำให้เราได้เห็นความต้องการของรุ่นใหม่ว่าเขาต้องการอะไร อย่างที่สามคือการที่พี่ ๆ ใน WEDO เองได้เรียนรู้ที่จะทำงานกับความหลากหลาย ทั้งเรื่องของอายุ และความแตกต่าง การได้สัมผัสกับคนรุ่นใหม่ทำใหม่ทำให้เราถึงเห็นถึงพลังและศักภาพที่พวกเขามี 

อยากให้คนที่มี Passion ในนวัตกรรม เริ่มต้นลงมือทำ ยุคนี้มี Incubation มากมาย อยากให้เลือกเข้าร่วมสักที่ อย่าทำให้นวัตกรรมเป็นแค่ไอเดีย สำหรับ Passion ถือเป็นสิ่งที่หายากที่สุด ถ้าน้องสนใจเข้ามาที่ WEDO มาร่วม WEDO Young Talent มาทดลองไปกับเรา” 

นี่คือภาพรวมทั้งหมดของ Hell Weeks จากโครงการ WEDO Young Talent Program 2022 มาติดตามกันต่อไปว่าปีหน้า (ปี 2023) จะโหด จะท้าทายขนาดไหน  และ WEDO จะนำภารกิจอะไรมาทดสอบและ Groom เพื่อปั้น Talent แห่งอนาคตบ้าง 


บทความนี้เป็น Advertorial 



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สองวิธีเรียกคืนอำนาจบริหารจากบริษัทตัวเอง ถกประเด็นน่ารู้จากซีรีส์ Queen of tears

เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร ...

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...