เปิด 5 เหตุผล: ทำไมสตาร์ทอัพควรให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ตั้งแต่วันแรก

ทำไมสตาร์ทอัพควรให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ตั้งแต่การเริ่มต้นทำธุรกิจ ในบทความนี้ เราชวน Freddie Luchterhand-Dar รองประธานฝ่าย Brand Impact บริษัท Openspace มาร่วมแบ่งปันสิ่งที่ธุรกิจสตาร์ทอัพควรรู้เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์

Freddie Luchterhand-Dar มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาผู้บริโภค มานุษยวิทยา และการสร้างแบรนด์ จากประสบการณ์การทำงานในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในสิงคโปร์เป็นเวลา 8 ปี เขาสังเกตเห็นปัญหาที่สำคัญที่สตาร์ทอัพหลายๆ แห่งและนักลงทุนรุ่นใหม่ (VC) มักจะมองข้าม นั่นคือ ความสำคัญของการสร้างแบรนด์ แม้ว่าแบรนด์จะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่มีมูลค่าสำคัญอย่างยิ่ง



สร้างแบรนด์ สร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน

การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่เรื่องของการออกแบบโลโก้และเลือกใช้สีสันที่สวยงาม แต่แบรนด์มีบทบาทสำคัญในการสร้างมูลค่าและการตลาดที่ยั่งยืน แบรนด์ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ โดยสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีจากลูกค้า แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพดีเพียงใด หากแบรนด์ไม่แข็งแกร่ง ก็อาจจะไม่มีการเติบโตอย่างที่คาดหวัง นอกจากนี้ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ ช่วยให้ผู้บริโภคจดจำและนึกถึงธุรกิจเมื่อถึงเวลาตัดสินใจซื้อสินค้า

เมื่อดีมานด์ของผลิตภัณฑ์ในตลาดมาถึงจุดอิ่มตัว แบรนด์จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความต้องการในตลาดที่ยังไม่มองเห็น



นักลงทุนมักจะมองหา "product-market fit" หรือความต้องการผลิตภัณฑ์ในตลาด แต่ในระยะยาว แบรนด์มีบทบาทสำคัญในการสร้างความต้องการที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แบรนด์ที่แข็งแกร่งช่วยให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อซ้ำและแสดงความภักดีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการ แม้ในกรณีที่ไม่มีการเสนอราคาพิเศษ

5 สิ่งที่ควรรู้ ก่อนสร้างแบรนด์

1. แบรนด์สร้างมูลค่าได้

ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แบบดั้งเดิมมักเชื่อว่ามูลค่าถูกสร้างขึ้นเฉพาะในโรงงาน ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจากโรงงานจะมีมูลค่าที่แท้จริง แต่แบรนด์สามารถเพิ่มมูลค่าที่รับรู้ได้อย่างมาก สตีฟ จอบส์ เคยกล่าวไว้ว่าความแตกต่างระหว่างสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าทั่วไปนั้นมาจากแบรนด์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มเติมให้กับลูกค้า นักเศรษฐศาสตร์ Carl Menger และ Ludwig von Mises ได้ตระหนักว่า มูลค่าไม่เพียงแค่เป็นมูลค่าที่แท้จริง แต่ยังรวมถึงมูลค่าที่รับรู้ด้วย แบรนด์ที่ดีสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดึงดูดลูกค้าและทำให้พวกเขายอมจ่ายเงินเพิ่ม ตัวอย่างเช่น น้ำดื่มของ Fiji และ Evain ที่มอบประสบการณ์อันหรูหราให้กับผลิตภัณฑ์พื้นฐานอย่าง 'น้ำ'

2. เปิดพื้นที่สำหรับการทดลองและสร้างสรรค์

สตาร์ทอัพควรมีพื้นที่สำหรับการทดลองและสร้างสรรค์ในองค์กร ทีมงานควรได้รับอิสระในการค้นหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ การทดลองและการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ สามารถนำไปสู่กลยุทธ์แบรนด์ที่สร้างสรรค์และโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่สามารถเห็นได้ในทันที เหมือนกับที่ผึ้งบางตัวบินไปค้นพบแหล่งเกสรใหม่ โดยไม่ได้บินตามผึ้งตัวอื่นๆ การสนับสนุนให้ทีมทำการทดลองสามารถนำไปสู่การค้นพบที่มีคุณค่านั่นเอง

3. มองแบรนด์เป็นเครื่องมือในการสร้างความต้องการ

แบรนด์เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความต้องการในตลาด หากใช้แบรนด์ไม่ถูกวิธี การเติบโตของธุรกิจอาจหยุดชะงัก การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งสามารถช่วยเพิ่มความต้องการในอนาคตและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ที่มีพลังสามารถสร้างแรงดึงดูดที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าและต้องการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการอย่างต่อเนื่อง

4. แบรนด์คือความรับผิดชอบของทุกฝ่าย

การทำให้แบรนด์แข็งแกร่งไม่ใช่หน้าที่ของทีมการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบของพนักงานทุกคนในองค์กร วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการทำลายแบรนด์คือการที่พนักงานไม่เข้าใจหรือไม่ยึดถือแบรนด์ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนรู้จักและเข้าใจแบรนด์อย่างชัดเจน การติดฉลากทางวัฒนธรรมสามารถช่วยให้พนักงานมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบและพฤติกรรมที่คาดหวัง เพื่อให้พนักงานรู้ว่าเขาต้องทำอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับแบรนด์

5. การสร้างแบรนด์ที่ดีย่อมต้องใช้เวลา

การสร้างแบรนด์ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทันที การลงทุนทรัพยากรและเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ผลลัพธ์จากการสร้างแบรนด์จะเริ่มเห็นได้ใน 2-3 ปี จงยอมรับว่าการสร้างแบรนด์ต้องใช้เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ใจเย็นและเข้าใจว่าการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งจะไม่เกิดขึ้นในทันที

การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างความแตกต่างในตลาด การเข้าใจและใช้ประโยชน์จากแบรนด์อย่างถูกวิธีจะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความสำเร็จในระยะยาว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รวมคลื่น Layoff 2025 บิ๊กเทคปลดคนครั้งใหญ่ 300 กว่าวันที่ผ่านมาเจออะไรบ้าง ?

อัปเดตวิกฤต Layoff ปี 2025 ในวงการเทค Intel ปลดกว่า 23,000 คน ตามด้วย Microsoft และ Amazon วิเคราะห์ภาพรวมการลดคนครั้งใหญ่และแนวโน้มตลาดแรงงานยุค AI...

Responsive image

สรุป 17 ดีลใหญ่ AI ที่เกิดขึ้นในปี 2025

สรุปครบ 17 ดีล AI ยักษ์ใหญ่ปี 2025 พร้อมเจาะลึกปม Circular Deals หรือการหมุนเงินลงทุนเป็นวงกลม สัญญาณเตือนฟองสบู่ที่นักลงทุนต้องระวัง...

Responsive image

ทิศทาง Agoda ในยุค AI-First จาก CEO เตรียมปักธงปั้นกรุงเทพฯ เป็น ‘Silicon Valley แห่งเอเชีย’ พร้อมส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2026

เจาะลึกวิสัยทัศน์ Agoda 2025 ปั้นกรุงเทพฯ สู่ Silicon Valley แห่งเอเชีย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ AI-First และ Autonomous Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่คิดแทนคุณได้ เผยข้อมูล Insight เที่ยวไทย...