ประธานาธิบดี Kersti Kaljulaid ของเอสโตเนีย เผยว่า สตาร์ทอัพเทคหน้าใหม่ในท้องถิ่นของเอสโตเนียนั้นยังคงสามารถขยายตัวเติบโตได้ดีภายในประเทศ เพราะเอสโตเนียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ปราศจากบรรษัทเทคโนโลยีข้ามชาติยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Microsoft อีกทั้งไม่เสนอสิทธิพิเศษใด ๆ กับบริษัทต่างชาติ ซึ่งปรากฏจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลกับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาเปิดสำนักงานใหญ่สูงถึง 20%
เอสโตเนียเป็นประเทศที่มีประชากรกว่า 1 ล้านคน เป็นแหล่งกำเนิดของผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์อย่าง Skype แพลตฟอร์มสนทนาทางวิดีโอที่ภายหลังได้ขายกิจการให้กับทาง eBay และ Microsoft ในเวลาต่อมา
ขณะเดียวกันก็ให้พื้นที่ธุรกิจอื่น ๆ เติบโต เช่น Wise แอปพลิเคชันแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่พึ่งนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่นานมานี้ Bolt แอปพลิเคชันเรียกรถโดยสารที่ได้รับเงินลงทุนจาก VC รายใหญ่ของ Sillicon Valley อย่าง Sequioa Capital
“เอสโตเนียเป็นประเทศที่ไม่เคยเสนอข้อตกลงพิเศษหรือสิทธิพิเศษให้กับบริษัทใด ๆ เลย” ประธานาธิบดี Kersti ให้สัมภาษณ์พิเศษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “ในช่วงเวลาที่ให้คำปรึกษาแก่นายกรัฐมนตรีเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทุกคนจากทั่วภูมิภาคต่างเดินทางเข้ามาและถามถึงสิทธิพิเศษทางธุรกิจในเอสโตเนีย ฉันก็ตอบไปว่า ไม่มี และคิดว่าเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”
ที่ผ่านมา Facebook, Google และ Apple เลือกจ้างพนักงานหลายพันคนและตั้งสำนักงานใหญ่ในไอร์แลนด์ ซึ่งได้จัดเก็บภาษีนิติบุคคลอยู่ที่ราว 12.5% ขณะที่เอสโตเนียจัดเก็บภาษีนิติบุคคลอยู่ที่ 20% ทำให้ยักษ์ใหญ่เทคกลุ่มนี้เลือกจะตั้งสำนักงานใหญ่ทั่วยุโรป ซึ่งรวมถึงสหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์ แต่บริษัทเหล่านี้กลับไม่มีบทบาทสำคัญใด ๆ ในประเทศเอสโตเนีย
ประธานาธิบดี Kersti กล่าวเสริมอีกว่า “นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เอสโตเนียมี Startup ท้องถิ่นเติบโตและสามารถก้าวขึ้นสู่ยูนิคอร์นได้หลายราย”
อ้างอิง CNBC
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด