กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัลโซลูชัน เปิดยุทธศาสตร์ใหม่กับการประกาศพันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE มุ่งสร้างอนาคตอันยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย ควบคู่ไปกับการเดินหน้าภารกิจ Mission to the Sun เต็มพิกัด เพื่อยกระดับองค์กรสู่เป็นบริษัทเทคโนโลยี (Technology Company) ในปี 2567
คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดประเด็นว่า
เราเป็นองค์กรที่ทำโครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศ หลังจากที่เรา Build The Future สร้างธุรกิจจนมีรายได้นับแสนล้าน ณ วันนี้เราต้อง Shape The Future ต่อยอดภารกิจที่เราเรียกว่า 'Mission To The Sun' เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนพร้อมมุ่งสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 ให้พร้อมทะยานสู่อนาคต ด้วยการร่วมสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ
พันธกิจ We Shape the Future คือแนวคิดที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในการเป็นผู้สร้าง สร้างทั้งความเจริญที่ก่อให้เกิดการจ้างงานและรายได้ ตลอดจนถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในสังคมเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มุ่งสู่เป้าหมายสูงสุด คือ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยศักยภาพจากระบบ Ecosystem ที่ครบวงจรและแข็งแกร่งของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป และสามารถใช้ในการต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรม ส่งผลให้จากเดิมที่ WHA คือ Warehouse Asia Alliance มีการปรับวัตถุประสงค์ของแบรนด์ (Brand Purpose) เพื่อให้สอดรับกับแนวทางข้างต้นดังนี้
“เรามองว่าเรื่องเทคโนโลยีสำคัญมาก เมื่อก่อนเราทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเรื่องน้ำและพลังงาน ที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ต่อมาได้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน เราต้อง Shape The Future โดยการสร้างอนาคตของประเทศให้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้โซลูชันต่างๆของ WHA เพื่อให้เกิดการเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดรับกับพันธกิจ The Ultimate Solution for Sustainable Growth” คุณจรีพรกล่าวเพิ่มเติม
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่จะเปลี่ยนผ่าน หรือพลิกโฉมไปเติบโตในอีกรูปแบบของการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากต้องอาศัยหลากหลายปัจจัย ทั้งวิสัยทัศน์องค์กร ความพร้อมทางการเงิน ความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหารและพนักงาน ตลอดจนการปรับวัฒนธรรมองค์กรและพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะความรู้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง นี่จึงเป็นโอกาสของ WHA ในการยกระดับการพัฒนาองค์กรและบุคลากรภายในองค์กร พร้อมกับการทรานสฟอร์มองค์กรสู่บริษัทเทค ด้วยภารกิจ ‘Mission To The Sun’ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ในทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจเพื่อยกระดับความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตลอดจนเสริมสร้างการพัฒนาองค์กร และบุคลากรของบริษัท ด้วยโครงการต่าง ๆ 9 โครงการ ซึ่งขณะนี้ มี 3 โครงการที่เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ได้แก่
WHA เริ่มจากการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาปรับใช้ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัท โดยให้บุคลากรภายในทดลองทำและใช้ก่อน แล้วจึงนำมาใช้จริง อาทิ การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในการขนส่งสินค้า การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การใช้พลังงานหมุนเวียนจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่อยู่บนหลังคาเป็นแหล่งพลังงานของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นศูนย์กลางในการควบคุมการดำเนินงานของยานยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศได้ในระยะยาว
WHA ยกระดับการเข้าถึงบริการและโซลูชันการดูแลสุขภาพ โดยพัฒนา WHAbit หรือซูเปอร์แอปเพื่อการดูแลสุขภาพผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งช่วยให้บุคลากรหรือผู้ที่สมัครใช้บริการสามารถจัดการสุขภาพของตัวเองแบบองค์รวมได้ง่ายขึ้น เช่น การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพย้อนหลังซึ่งทำได้ทุกที่ทุกเวลา การขอคำปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์ผ่านทางวิดีโอคอลล์ การตรวจเชิงป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงาน (Occupational Medicine) ไปจนถึงการออกแบบลักษณะหรือท่าทางการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยโครงการนี้ WHA ทำงานร่วมกับพันธมิตร อาทิเช่น โรงพยาบาลสมิติเวช
เป็นไอเดียของพนักงานที่เกิดจากการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดของธุรกิจในเครือ WHA ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน และยังนำไปสู่การสร้างธุรกิจใหม่ได้ เช่น ไอเดียการนำวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตของโรงงานหนึ่งไปเป็นวัตถุดิบของโรงงานอีกแห่งหนึ่ง ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนได้อย่างลงตัว หรือเรื่อง การบริหารทรัพยากรน้ำ (Waste Water Treatment) ที่บริษัทพัฒนาดิจิทัลโซลูชันสำหรับการจัดสรรการใช้น้ำ ใช้นวัตกรรมช่วยบำบัดน้ำเสีย ลดการปล่อยน้ำเสียออกสู่ภายนอก หรือในเรื่อง พลังงาน นอกจาก WHA ใช้โซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในนิคมอุตสาหกรรมเองแล้ว ยังมี การพัฒนาแพลตฟอร์มเทรดพลังงาน (Peer-2-Peer Trading Platform) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานและบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอนปี 2560 เราบอกพนักงานว่า เราจะทรานสฟอร์มเป็น Tech Company และสามารถ Adopt เทคโนโลยีมาใช้กับโครงสร้างพื้นฐานที่เรามีอยู่ โดยทำการพัฒนาและทดลองนำ Digital Solutions และ Enabler มาใช้ในธุรกิจและ Ecosystem ของเรา ให้เป็น Success case ของ WHA เอง
ในการทรานสฟอร์มธุรกิจ WHA มาเป็น Tech Company กลุ่มธุรกิจดิจิทัลจึงมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพการขับเคลื่อนให้กับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง และมุ่งสร้างพันธมิตรใหม่ๆ ในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับ 3 กลุ่มธุรกิจในเครือ ในการนำเทคโนโลยีมาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าเพิ่ม อาทิ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ หรือการบริหารจัดการด้านพลังงาน โดยมีการใช้แดชบอร์ดแสดงผลการทำงานของแผงพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ตรวจวัดประสิทธิภาพการทำงานของแผงโซลาร์ รวมไปถึงเครื่องมือวิเคราะห์ ระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ที่ใช้ในระบบจัดส่งน้ำ ในส่วนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภคที่ได้มาตรฐานระดับโลก พร้อมด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมล่าสุดต่าง ๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง การรักษาความปลอดภัย การผลิตและการบำบัดน้ำเสีย ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมต่อกับศูนย์ควบคุมส่วนกลางของดับบลิวเอชเอ (Unified Operation Center หรือ UOC) ที่อาคารดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่
นอกจากนี้ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายภาครัฐ กอปรกับความเข้าใจและความตื่นตัวในด้านการผลิตพลังงานสะอาดขององค์กรมากมายในไทย จึงยิ่งทำให้ประเทศไทยโดดเด่นในสายตานักลงทุนทั่วโลก ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ทั้งยังเป็นการสร้างความยั่งยืนให้แก่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หรือ อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) กับการบังคับใช้มาตรการ CBAM ที่ผู้ประกอบการไม่ว่ารายย่อย รายเล็ก หรือรายใหญ่ ก็ต้องร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็น The World’s Best Investment Destination สำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศทั่วโลก เพราะ WHA ตระหนักดีว่า การกระตุ้นให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างประสิทธิภาพและมั่นคงต่อไป
“ดังนั้นจากการ Build สู่การ Shape มีเป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน สังคม ประเทศชาติ และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน “ คุณจรีพรกล่าวทิ้งท้าย
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด