รู้จักกับวิธีที่เหนือกว่า Multitasking รับมืองานหนักอย่างมีแบบแผน

งานกองอยู่ตรงหน้า แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี บางทีได้รับโปรเจกต์หลายตัวพร้อม ๆ กัน ตั้งตัวไม่ทัน ยิ่งทำให้เครียดเข้าไปอีก จนต้องนั่งทำใจมากกว่าทำงาน ปัญหา Workload นี้นานไปจะทำให้เครียดสะสมจนพัฒนาไปสู่ภาวะหมดไฟ (Burnout)

การทำงานหลาย ๆ ชิ้นไปพร้อมกันอาจทำให้นึกถึงการใช้ทักษะ Multitasking เป็นทักษะที่มีความจำเป็นมากในปัจจุบัน แต่สำหรับคนที่ไม่มีทักษะนี้ก็อย่าพึ่งตกใจไป เพราะบทความนี้ Techsauce จะพามารู้จักกับวิธีการรับมืองานรุมเร้าที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้

วิธีรับมืองานหนักที่ดีกว่า Multitasking 

คนส่วนใหญ่เชื่อว่า Multitasking เป็นทักษะที่ช่วยให้งานเดินเร็วขึ้นและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่แท้จริงแล้ว การทำงานหลายอย่างพร้อมกันอาจไม่ได้มีประสิทธิภาพอย่างที่คิด 

David Meyer ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาเผยว่า การทำงานหลายอย่างพร้อมกันนอกจากจะไม่สามารถโฟกัสกับงานไหนได้เลย ผลลัพธ์ของงานก็จะอยู่ครึ่ง ๆ กลางไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเสียทั้งเวลาและสุขภาพจิต คนที่ทำงานแบบ  Multitasking มีโอกาสสูงที่จะมีภาวะเครียดสะสม 

ดังนั้นการรับมือกับงานที่เข้ามาพร้อมกันมากมาย การวางแผนการทำงานจึงเป็นวิธีที่ดีกว่า Multitasking 

วางแผนก่อนเริ่มทำ

เมื่อมีงานมากมายที่ต้องทำ สิ่งสำคัญคือ การมองภาพรวมของงานทั้งหมด แทนการจดจ่ออยู่ที่งานเพียงชิ้นเดียว เพราะจะทำให้เรารู้ว่าในตอนนี้เราถืองานชิ้นไหนอยู่บ้าง และงานแต่ละชิ้นดำเนินการไปถึงขั้นไหนแล้ว เพื่อเตรียมตัวที่จะลงมือทำในขั้นตอนต่อไป

เมื่อเราเห็นภาพรวมของงานทั้งหมดแล้ว จึงเริ่มจัดลำดับความสำคัญของงาน สิ่งนี้จะช่วยให้เราวางแผนการทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงรู้ว่าควรทำอะไรก่อน งานไหนด่วนมาก งานไหนรอได้ งานไหนต้องประสานหลายฝ่ายก็จะสามารถวางแผนการทำงานและเผื่อเวลาให้ทัน Deadline ได้ เมื่อเรามีแผนที่วางไว้และทำตามก็ช่วยให้สามารถโฟกัสกับงานทีละชิ้นได้เต็มที่

มอบหมายงานตามความถนัด

งานบางชิ้นเราจำเป็นต้องทำร่วมกันกับหลายฝ่าย ดังนั้นการเรียนรู้ว่าตัวเราถนัดอะไรและคนอื่น ๆ ในทีมถนัดอะไร ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นและผลลัพธ์ของงานก็มีประสิทธิภาพด้วย รวมถึงได้รู้จุดบอดของทีมว่าขาดทักษะในเรื่องอะไรบ้าง เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาในงานหน้า

หากคุณเป็นหัวหน้าทีมที่ต้อง Assign งานให้กับลูกทีมข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าหากหัวหน้า Assign งานที่ยากเกินความสามารถของลูกทีม พวกเขาต้องแบกรับความคาดหวัง ความกังวล และความเครียด ผลลัพธ์ของงานที่ออกมาก็อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร และอาจนำไปสู่ปัญหา Burnout และการลาออกในที่สุด

หรือแม้แต่คนเก่งของทีมที่มักจะได้รับ Assign งานมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะถูกมองว่าเก่ง รับผิดชอบได้ การแบกรับงานและความคาดหวังที่มากกว่าก็ทำให้บรรดาคนเก่งเหล่านี้เครียดและเข้าสู่ภาวะ Burnout ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งบริษัทของคุณอาจจะเสียบุคลากรที่ดีแบบนี้ไป หากไม่มอบหมายงานให้เหมาะสมกับความสามารถของคน หรือเอางานจำนวนมากไปกองที่คนๆ เดียว 

พูดคุยและอัปเดตอยู่เสมอ

งานทุกงานมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญ คือ การสื่อสารให้คนที่เกี่ยวข้องกับงานทุกคนเข้าใจถึงเป้าหมายของงาน เช่น งานนี้ทำไปเพื่ออะไร, ต้องการบรรลุเป้าหมายอะไร, ใครมีหน้าที่ทำอะไร, ต้องเริ่มทำเมื่อไหร่, และ Deadline คือวันไหน

เมื่อทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้าใจงานตรงกันแล้ว ในระหว่างที่เริ่มดำเนินงานก็ควรรายงานความคืบหน้าของงานให้คนในทีมรู้ด้วย เพื่อทุกคนจะได้รู้ว่างานนี้อยู่ในขั้นตอนไหนหรือติดปัญหาอะไรไหม รวมถึงตัวเราเองก็จะได้รู้ด้วยว่างานที่ถืออยู่ทั้งหมดเดินหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งช่วยคลายความเครียดและความกังวลให้ตัวเองได้

อ้างอิง: isabelleroughol, franciscanhealth, hbr.org, theconversation

ถึงเป็นธุรกิจเล็ก วัฒนธรรมองค์กรก็สำคัญ
เริ่มเปลี่ยนวันนี้ก่อนสาย

.
หากองค์กรของคุณกำลังเจอปัญหา … พนักงานหมดไฟ…ทุกการตัดสินใจล่าช้าเพราะต้องรอ CEO … พนักงานลาออกเยอะ แต่ไม่รู้สาเหตุ และอีกมากมายปัญหาในองค์กรที่คุณแก้ไม่ตก
.
Peoplesauce ช่วยธุรกิจ SMEs /Startups ที่กำลัง Scale up สร้าง “คน” และ“Culture” เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

เริ่มเปลี่ยนไปพร้อมกับเราได้ตั้งแต่วันนี้ที่

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แพง...แต่ทำไมใครๆ ก็ยอมจ่าย? เบื้องหลังความสำเร็จของ Garmin "ไม่สู้ตรงๆ แต่ชนะขาด"

เจาะลึกกลยุทธ์ธุรกิจของ Garmin ที่พลิกชะตาจากวิกฤตการณ์สมาร์ทโฟน สู่การเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทวอทช์เฉพาะทาง อ่านบทเรียนการปรับตัวครั้งสำคัญที่ไม่สู้ตรงๆ แต่กลับชนะขาด และสร้างการเติบโต...

Responsive image

Duolingo ใช้ AI เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เร่ง Productivity โดยไม่ลดคน

Duolingo ใช้ AI ขับเคลื่อน Culture Transformation เปลี่ยนวิธีทำงาน เพิ่ม Productivity ได้มากขึ้น 5 เท่า โดยไม่ต้องปลดพนักงานสักคนเดียว...

Responsive image

เรียนจบใหม่แต่ไม่มีที่ให้เริ่ม เพราะ AI แย่งจุดเริ่มไปแล้ว ความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญในองค์กรยุคใหม่

AI กำลังเปลี่ยนโลกการทำงาน โดยเฉพาะตำแหน่งระดับเริ่มต้นที่หายไปกว่า 35% ทำให้คนรุ่นใหม่ขาดโอกาสเริ่มต้นอาชีพ คำถามคือ เราจะออกแบบบันไดอาชีพแบบใหม่อย่างไรให้ทุกคนยังมีพื้นที่เติบโต ...