Microsoft Thailand เปิดตัวออฟฟิศใหม่ในโครงการ One Bangkok ใจกลางเมือง นับเป็นการอัปเกรดแนวคิดการทำงานให้เข้ากับยุค Hybrid Work ที่ไม่ใช่ว่าต้องนั่งออฟฟิศทุกวัน แต่ก็ยังทำงานร่วมกันได้ลื่นไหล ซึ่งถือเป็นการย้ายออฟฟิศครั้งสำคัญในรอบ 20-30 ปี
ทีม Techsauce มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศของออฟฟิศแห่งใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและพื้นที่การทำงานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัล โดยคุณ ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ Microsoft Thailand เผยว่า นี่คือ “ออฟฟิศแห่งอนาคต” ที่สะท้อนถึงแนวคิด Data-Driven, Growth Mindset และการทำงานที่ Flexible & Collaborative อย่างแท้จริง
ก่อนอื่นหลายๆ คนคงสงสัยว่า ทำไม Microsoft (Thailand) ถึงต้องย้ายออฟฟิศ ด้านคุณธนวัฒน์ ให้คำตอบมาว่า เนื่องจากออฟฟิศเก่ากำลังจะหมดสัญญาในช่วงปลายปี และในขณะที่กำลังคิดกันว่า จะไปต่อที่เดิม หรือหาที่ใหม่ดี ? เราก็กลับมาดู Data จริงๆ ของพนักงาน ซึ่งพบว่า…
พอเห็นแบบนี้ ทางทีมจึงคุยกันว่า "งั้นเราลองมองหาที่ใหม่ที่ใช่กว่านี้มั้ย?" ให้เป็นสถานที่ที่ช่วยดึงดูด คนเก่งๆ ให้อยากมาร่วมงาน และช่วยให้พนักงานปัจจุบันรู้สึกมีพลังในการทำงานมากขึ้น
ออฟฟิศแห่งนี้จึงถูกออกแบบมาจากการใช้ข้อมูลจริง (Data-Driven) โดยได้สำรวจองค์กรชั้นนำใน 9 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา บราซิล และเม็กซิโก รวมถึงมีการวิเคราะห์พฤติกรรมของพนักงานว่า เขาอยากทำงานยังไง? อยากได้พื้นที่แบบไหน? แล้วออกแบบออกมาให้ตอบโจทย์ที่สุด
ซึ่งสิ่งที่ Microsoft ให้ความสำคัญคือ Growth Mindset หรือแนวคิดที่ว่า “คนเราสามารถพัฒนาได้เสมอ” ออฟฟิศนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมให้ทุกคนได้เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ไอเดียระหว่างทีม การเปิดรับมุมมองใหม่ๆ หรือการใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น
ห้องประชุมอัจฉริยะ
ดังนั้น จากออฟฟิศเก่าสองชั้นใหญ่ๆ เราตัดสินใจลดขนาดลง ให้เหลือแค่ชั้นเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็ เพิ่มมูลค่าด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทำให้การทำงานสะดวกขึ้น อาทิ
และที่น่าสนใจมากๆ คือ ห้องประชุมของ Microsoft (Thailand) จะมีส่วนที่ใช้ชื่อเป็นอาหารไทย เพราะบริษัทอยากให้ที่นี่สะท้อนถึง "เทค + ไทย" ไปด้วยกัน ทุกชื่อเป็นเมนูจากทุกภาคของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำ ผัดไทย ข้าวซอย แกงเขียวหวาน
โดยออฟฟิศใหม่ถูกออกแบบให้เป็น Hot Seat 100% ในอัตราส่วน 3:1 เพื่อให้การใช้พื้นที่เกิดประโยชน์สูงสุด และรองรับความยืดหยุ่นในการทำงาน Microsoft ตั้งเป้าหมายให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 50% โดยยังคงแนวทาง Hybrid Work ที่ให้พนักงานสามารถเลือกวิธีการทำงานที่เหมาะสมกับตนเองได้
ด้านคุณธนวัฒน์ เผยว่า ออฟฟิศใหม่แห่งนี้มี 4 หัวใจสำคัญที่ช่วยให้การทำงานสนุกขึ้น สะดวกขึ้น และตอบโจทย์มากขึ้น โดยเน้นไปที่ความสุขของ ‘คน’ ควบคู่ไปกับความใส่ใจ ‘สิ่งแวดล้อม’ อาทิ
ห้องให้นมบุตร
Microsoft เชื่อว่าการทำงานที่ดีต้องควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาวะของพนักงาน ออฟฟิศแห่งใหม่นี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายและมีสุขภาพที่ดีขึ้น
ห้องละหมาด
Microsoft ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการออกแบบสถานที่ทำงานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
ออฟฟิศแห่งใหม่นี้รองรับแนวคิดการทำงานแบบ Hybrid Work ที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ พร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แผงกั้นตกแต่งที่สานจากพลาสติกรีไซเคิล
Microsoft ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกเหนือจากการออกแบบออฟฟิศให้ทันสมัยแล้ว Microsoft Thailand ยังนำ เอกลักษณ์ความเป็นไทย มาผสานเข้ากับเทคโนโลยี ผ่านการออกแบบพื้นที่และองค์ประกอบต่างๆ เช่น ลวดลายและวัสดุที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะไทยตกแต่งตามผนังออฟฟิศ
แนวทางนี้สะท้อนถึงมุมมองของ Microsoft ที่มองว่า...
ออฟฟิศไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้คน เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้าด้วยกันพร้อมสนับสนุนให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด