ADYEN ยักษ์ใหญ่ FinTech ขยายธุรกิจสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว จับมือ Grab | Techsauce

ADYEN ยักษ์ใหญ่ FinTech ขยายธุรกิจสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว จับมือ Grab

ช่วงนี้ต้องยอมรับว่า FinTech ยักษ์ใหญ่ซีกโลกตะวันตกเริ่มให้ความสำคัญในตลาดเอเชียมากขึ้น ก่อนหน้านี้ Stripe ก็มีพนักงานอยู่ที่สิงคโปร์แล้ว Transferwise ก็เช่นกัน ล่าสุด Adyen หนึ่งใน FinTech Unicorn ด้าน Payment จากเนเธอแลนด์ก็ประกาศเปิดสาขาในสิงคโปร์ เตรียมเจาะตลาดภูมิภาคนี้ ที่น่าสนใจคือได้พาร์เนอร์ตัวแรงอย่าง Grab ด้วย

Adyen

Adyen ตั้งออฟฟิสในใจกลางสิงคโปร์นำเสนอโครงข่าย (infrastructure) ด้าน payment แบบครบวงจรสำหรับบริษัทชั้นนำต่างๆ ของโลก ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชื่อดัง อาทิ Cathay Pacific, Daniel Wellington และ Spotify สามารถรับการชำระเงินหลากหลายรูปแบบจากผู้ใช้ชาวเอเชีย

การมาสิงคโปร์ครั้งนี้จับมือกับบริษัท Startup ชื่อดังอย่าง Grab เพื่อขยายธุรกิจ GrabPay แพลตฟอร์มในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม ซึ่ง Adyen นั้นรองรับการชำระเงินจากทั่วโลกกว่า 250 รูปแบบ

Screen Shot 2559-08-25 at 11.53.25 PM

ลูกค้าของ Grab นอกจากเดิมที่จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตได้อยู่แล้ว ลูกค้าที่เดินทางมาจากต่างประเทศสามารถใช้ช่องทางการชำระเงินของประเทศตัวเองที่  Adyen รองรับได้ด้วย อย่างไทยก็จะรองรับการชำระผ่าน 123 (จ่ายผ่านเคาเตอร์ได้) และจ่ายผ่าน Online Banking

Screen Shot 2559-08-25 at 11.53.58 PM

ในขณะที่บริษัทสามารถออกค่าใช้จ่ายให้กับพนักงานได้ด้วยการใช้บริการผ่าน Grab for Work

Screen Shot 2559-08-25 at 11.53.06 PM

 

โดยWarren Hayashi หัวเรือใหญ่ของ Adyen ใน APAC กล่าวว่า ตลาดเอเชียมีความ active ด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาก ซึ่งบริษัทเห็นโอกาสนี้และจะช่วยผลักดันทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซและ omni-channel ในภูมิภาคนี้ให้เติบโต ด้วยโซลูชั่นสำหรับผู้ขาย โดยนำเสนอประสบการณ์การใช้งาน mobile payment ที่ดีให้กับลูกค้าทั้งจากในแอปฯ และผ่านโมบายเวปฯ ด้วยการใช้แพลตฟอร์มของ Adyen ผู้ขายสามารถเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่ cross-channel ได้ด้วย

การเปิดออฟฟิสในสิงคโปร์ถือเป็นสาขาที่ 3 ของภูมิภาคนี้ตามมาจากเซี่ยงไฮ้และซิดนี่  ปีที่แล้ว Adyen มี transaction volume ทั้งหมดอยู่ที่ 50 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และรายได้อยู่ที่ 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเติบโตจากเดิมกว่า 100% จากปีก่อนหน้า โดยบริษัทนั้นทำกำไรได้ตั้งแต่ปี 2011 ปัจจุบันมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และหนึ่งในนั้นมีนักลงทุนในสิงคโปร์ลงทุนด้วยอย่าง Temasek

ที่มา: Fintechnews.sg

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...

Responsive image

Apple ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 55% ตั้งเป้าสู่ Net Zero ในปี 2030

Apple เผยรายงานความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม และประกาศปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2024...

Responsive image

สร้างวิดีโอสมจริง ใช้แค่รูปนิ่งกับคลิปเสียง รู้จักโมเดล VASA-1 ที่ Microsoft กำลังวิจัย

แค่ใช้รูปถ่ายกับคลิปเสียง ก็สามารถสร้างวิดีโอของเราได้แบบสมจริง ด้วยโมเดล VASA-1 ตัวใหม่จาก Microsoft ที่ต้องบอกว่าทั้งน่าทึ่ง น่าประทับใจ และน่ากลัวด้วย...