ลบภาพจำคนจีนขยันทำมาหากิน เก็บเงินจนร่ำรวย เพราะคนรุ่นใหม่ในจีนเริ่มปลีกตัวออกจากแนวคิด ‘ทุ่มทั้งชีวิตเผื่อทำงาน’ เลิกทะเยอทะยานและใช้ชีวิตให้มี Work life balance ซึ่งเรียกแนวคิดใหม่นี้ว่า ถ่างผิง
ถ่างผิง มีความหมายว่า นอนราบ ซึ่งเป็นสัญญะของการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เพราะการทำงานในประเทศจีนทุกวันนี้มีการแข่งขันสูงและความกดดันมาก มีบัณฑิตที่เรียบจบมหาลัยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ไม่มีงานดี ๆ รองรับพวกเขา รวมถึงนายทุนต้องการให้แรงงานทำงานหนักวันละมากกว่า 10 ชม. แต่ได้ค่าจ้างน้อยนิด
การจะได้งานที่ดีก็เป็นเรื่องยาก ทำงานให้ดีแทบตายก็ไม่รวยสักที ชีวิตไม่มีความสุขและฐานะก็ไม่ดีขึ้น การทำงานที่มีหน้ามีตาในสังคมก็เหนื่อยเกินทน ทำให้กระแสถังผิงระอุขึ้นมาในประเทศจีน บางคนลาออกจากงานประจำเพื่อไปทำงานพาร์ทไทม์ จะได้พอมีเงินและเวลาใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง
ความเรียบง่ายของชีวิต เช่น การทำงานที่ไม่หนักเกินไป ไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่มีหน้ามีตาในสังคม แต่มีเวลาให้ได้ออกไปเที่ยว พักผ่อน ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว คือ แก่นหลักของวิถีถ่างผิง
ยิ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ในจีนมากเท่าไหร่ วิถีถ่างผิงก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เหล่านายทุนใหญ่และรัฐบาลต่อต้านมากเท่านั้น บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนอย่าง Tieba หรือ Weibo (คล้าย Facebook และ Twitter) โพสต์ที่พูดถึงวิถีถ่างผิงจะถูกแบนและปิดการมองเห็น ต่อให้ค้นหาคำเหล่านี้ก็หาไม่เจอ
เนื่องจากผู้ดูแลเว็บไซต์และรัฐบาลไม่อยากให้เทรนด์นี้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวคิดเยาวชนของชาติ คนจีนรุ่นเก่าเชื่อว่า “ลูกหลานชาวจีนต้องทำงานหนัก” ซึ่งแนวคิดนี้ฝังรากลึกอยู่ในสังคมจีนมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อคำว่า Work life balance เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานจึงกลายเป็นภัยคุกคามที่เหล่านายทุนใหญ่และรัฐบาลกลัว
ในปัจจุบันเศรษฐกิจจีนชะลอลงทุกด้านและมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เงินหยวนอ่อนค่าลง อัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวในเขตเมืองเพิ่มกว่า 20% ซึ่งถ้าวิถีถ่างพิงเข้ามาเป็นแนวทางการทำงานที่แพร่หลายในจีนอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เศรษฐกิจจีนไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว และอาจพาเศรษฐกิจจีนไปสู่ภาวะถดถอยระยะยาว
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด