บริษัทชั้นนำระดับต้นๆ อย่าง Citibank กล่าวว่า ลูกค้าชาวอเมริกาที่ใช้บัตร Citibank ในแพคเกจ Citigold กำลังจะได้ลองบริการใหม่ที่เกี่ยวกับทางการเงิน ในกลุ่ม Citi FinTech initiative ซึ่งเป็น FinTech Unit ของ Citibank
Citigroup Inc. signage is displayed outside of a bank branch in New York, U.S., on Monday, June 20, 2011. Citigroup Inc., the third largest U.S. bank, has issued $3.8 billion in corporate debt this year. Photographer: Robert Caplin/Bloomberg via Getty Imagesแอปพลิเคชั่นบนมือถือของ CitiBank สำหรับไอโฟน มาพร้อมกับความสามารถด้าน Banking, Wealth management และบริการโอนเงินที่มีความปลอดภัยสูง
ในขณะที่ธนาคารส่วนใหญ่จะพยายามร่วมมือกับสารพัด Startups แล้วสร้างสายใยผูกโยงเข้ากับธนาคาร เกิดเป็นสายหลายๆ เส้นนั้นเปรียบเสมือนกับว่าพวกเขากำลังปล่อยให้ลูกค้าไหลไปที่อื่นๆ ด้วย
สิ่งที่ธนาคาร Citibank กำลังทำ รวมถึงผู้เล่นรายใหม่ในตลาดกำลังทำคือ รวมบริการหลายๆ อย่างที่เคยแยกแอปพลิเคชันกันให้รวมเป็นแอปพลิเคชันเดียว
การที่นำบริการโอนเงินกับบริการด้านการลงทุนมารวมไว้ในแอปพลิเคชันเดียวนั้น เป็นการก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านแอปพลิเคชั่นด้านธุรกิจ ลูกค้าสามารถซื้อและขายหุ้น พันธบัตร และกองทุน เป็นการออมเงินอีกทางหนึ่งและสามารถมีเงินออมแบบ Passive ได้ และสามารถโอนเงินไปยังบัญชีอื่นโดยใช้แอปพลิเคชั่นเดียวแทนที่จะใช้ 3 หรือ 4 แอป
ธนาคารปัจจุบันอาจจะมองว่าหากทำแบบนี้แล้ว การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์อาจจะแปลก แต่ความเป็นจริงคือ ตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงพรีเมียมฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ในแอปอื่นๆ ได้ดีนัก
มากกว่า 5 เดือนที่บริษัทได้ทำสำรวจ 2,500 คนถึงความต้องการในตัวแอปพลิเคชั่น นำ Feedback มาปรับปรุงและสร้างฟืเจอร์และพัฒนา โดยแบ่งเป็น Sprint แยกย่อยกันไป Sprint ละ 2 สัปดาห์
"เราทดสอบแอปพลิเคชั่นแบบตัวต่อตัวหลายพันคน โดยเก็บ Feedback และรสนิยมจากลูกค้าซึ่งทำให้เราสามารถสร้างแอปที่มีฟังค์ชั่นที่ตรงใจ มีการออกแบบที่ทุกๆ คนชอบและให้ประสบการณ์การใช้ที่ดึงดูด" Carey Kolaja ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ กล่าว
Citibank มีลูกค้าธนาคารมากกว่า 100 ล้านคนและลูกค้า 2,500 คนที่รวยที่สุดในสหรัฐอเมริกา แถมก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายนยังได้มีการพัฒนาฟังก์ชันร่วมกับผู้นำอื่นๆ เช่น พัฒนาเรื่องการใช้คำสั่งเสียงในการจ่ายบิล ร่วมกับ Amazon Alexa
ที่มา: TechCrunch, Fortune