หากธุรกิจมองว่าปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยวข้องและไม่น่าจะส่งผลกับธุรกิจของตัวเอง คงต้องคิดใหม่ เพราะผลสำรวจล่าสุดยืนยันว่าผู้บริโภคเรียกร้องให้ธุรกิจต้องมีผลิตภัณฑ์และนโยบายที่รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

บริษัทวิจัยระดับโลก Morning Consult ได้ทำการสำรวจในนามของบริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ HP โดยสํารวจพ่อแม่กว่า 5,000 คนจากประเทศอินเดีย เม็กซิโก สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ในระหว่างวันที่ 18 - 26 พฤษภาคม

พ่อแม่ 53% ไม่ต้องการมีลูกเพิ่ม กลัวปัญหาโลกร้อน

ผลการสำรวจพบว่า เกือบร้อยละ 91 ของผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่มีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate change) และผลกระทบที่จะตามมา ตั้งแต่อุณหภูมิที่สูงขึ้น การขาดแคลนน้ำ ระดับน้ำทะเลเปลี่ยนแปลง ฯลฯ

โดยร้อยละ 53 ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจในการมีลูกเพิ่ม

ยอมจ่ายแพงกว่า ถ้าได้ช่วยโลก 

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจดังกล่าวยังเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกระทบการเลือกที่ทำงานด้วยเช่นกัน โดยร้อยละ 43 กล่าวว่า ตนเลือกทํางานกับบริษัทที่เอาใจใส่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

กลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจมีแนวโน้มที่จะจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนกว่า ถึงแม้ว่าค่าครองชีพจะสูงขึ้นและพวกเขาต้องใช้เวลามากขึ้นกับขั้นตอนที่มากขึ้นในการดูแลสิ่งแวดล้อมก็ตาม

ผลการสํารวจนี้บอกอะไรกับธุรกิจ ? มันช่วยย้ำว่าผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันมีการตระหนักรู้และใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หลายคนยอมจ่ายแพงหากได้สินค้าที่รักษ์โลก หลายคนเลือกทำงานให้กับบริษัทที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ธุรกิจและบริษัทต่าง ๆ จึงต้องปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าโดยการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และเตรียมนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมให้พร้อมรับความต้องการนี้

อ้างอิง : CNBC