คุณยาย Daisy แชทบอต AI สัญชาติอังกฤษ มือปราบ กำราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่อาจนำไปสู่ด้านมืด ในที่สุด AI ก็ได้ปรากฏตัวในรูปแบบที่ใครๆ ก็ต้องรัก กับ “คุณยาย AI” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ!

AI

บริษัทโทรคมนาคม Virgin Media O2 ของอังกฤษ ได้เปิดตัว "คุณยาย Daisy หรือที่เรียกกันว่า dAIsy" แชทบอท AI ที่สามารถสนทนาโต้ตอบแบบเรียลไทม์ โดย Daisy ทำงานโดยเลียนแบบพฤติกรรมของ "scambaiter" ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่คอยแกล้งทำเป็นเหยื่อล่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ติดกับ เพื่อถ่วงเวลา เปิดโปงวิธีการหลอกลวง รวบรวมข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ และสร้างความสับสนให้กับอุปกรณ์ของมิจฉาชีพ

ทำไมต้องเป็น "คุณยาย"?

นักพัฒนาเลือกใช้คาแรกเตอร์ "หญิงชรา" เพราะเป็นกลุ่มที่มักตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ง่าย และที่สำคัญ Daisy ไม่เหนื่อย ไม่หิว ไม่ง่วง สามารถคุยโทรศัพท์กับมิจฉาชีพได้ทั้งวันทั้งคืน!

เบื้องหลังความอัจฉริยะของ Daisy

บริษัท Virgin Media O2 เผยว่า Daisy สามารถถ่วงเวลาแก๊งคอลเซนเตอร์ได้หลายร้อยชั่วโมง โดยมีสายเรียกเข้ามากกว่า 1,000 สาย และมิจฉาชีพบางรายต้องเสียเวลาคุยกับ Daisy นานกว่า 40 นาทีเลยทีเดียว! แล้วเบื้องหลังความสำเร็จของ Daisy เกิดขึ้นได้อย่างไรและทำงานอย่างไร?

  • เทคโนโลยี AI สุดล้ำ: Daisy ทำงานด้วยการผสานรวมโมเดล AI หลายรูปแบบ ทั้งโมเดลจดจำเสียงพูด โมเดลภาษา และโมเดลสร้างบุคลิกภาพ เพื่อให้สามารถโต้ตอบบทสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • เสียงพากย์จากคุณยายตัวจริง: เพื่อเพิ่มความสมจริง ทีมพัฒนาได้ใช้เสียงของคุณยายท่านหนึ่งซึ่งเป็นญาติของทีมงานในบริษัท VCCP Faith เอเจนซี่ผู้สร้าง Daisy มาเป็นต้นแบบเสียงของ Daisy
  • ฝึกฝนโดย “scambait” มืออาชีพ: Daisy ได้รับการฝึกฝนโดย Jim Browning ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 4.3 ล้านคน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

แม้ Daisy จะไม่สามารถกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทั้งหมด แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยชะลอและลดโอกาสในการหลอกลวงได้ โดยอนาคตทางบริษัทผู้พัฒนามีแผนที่จะพัฒนา Daisy ต่อไป โดยเพิ่มบุคลิกภาพใหม่ ๆ และความสามารถในการรับมือกับกลโกงรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้สามารถป้องกันภัยจากมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แล้วเมืองไทยล่ะ? มี "คุณยาย AI" แบบนี้บ้างไหม?

จากข้อมูลของ Whoscall พบว่าคนไทย 89% เจอมิจฉาชีพทุกเดือน! และกว่า 28% เคยตกเป็นเหยื่อในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยสูงถึง 36,000 บาท แม้คนไทยกว่า 55% จะมั่นใจว่ารู้ทันกลโกง แต่ก็ยังโดนหลอกอยู่ดี เพราะมิจฉาชีพมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอยู่ตลอดเวลา

ภัยคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทย ดังนั้น เราจึงควรมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

แล้วคุณล่ะ คิดว่าเมืองไทยควรมีมาตรการอะไรบ้าง?

อ้างอิง forbes

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีนพัฒนา ‘Vision Heat’ เซนเซอร์มองทะลุควัน-หมอก ความละเอียด 4K ไม่ต้องใช้ความเย็น เห็นภาพความร้อนเหมือนตาของงู!

นักวิจัยจีนพัฒนาเซนเซอร์อินฟราเรด 4K แรงบันดาลใจจากตาของงู ใช้ Quantum Dots ผสาน CMOS ทำงานได้ที่อุณหภูมิห้อง เตรียมปฏิวัติกล้องสมาร์ทโฟนและรถไร้คนขับให้มองเห็นทะลุความมืดและหมอกคว...

Responsive image

เด็ก 19 สร้างนวัตกรรม ถุงมือพิมพ์งานในอากาศ จากการเรียนคอร์สออนไลน์ฟรี MIT จนคว้ารางวัล SxSW Sydney 2025

พบกับ Freesia Gaul เด็กวัย 19 ที่ย้ายโรงเรียนถึง 13 ครั้ง แต่ใช้คอร์สเรียนฟรีจาก MIT สร้างถุงมือ VR พิมพ์งานกลางอากาศจนคว้ารางวัล SxSW และเปิด Startup ได้สำเร็จ...

Responsive image

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent สาย Productivity เลขาส่วนตัวอัจฉริยะ สรุปงาน–ส่งเมล–นัดประชุมให้เสร็จในคลิกเดียว

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent ผู้ช่วยสาย Productivity ที่เชื่อม Gmail, Calendar และ Drive เข้าด้วยกัน ช่วยสรุปงาน ร่างอีเมล และจัดการนัดหมายแบบอัตโนมัติ เปลี่ยน Inbox ให้กลายเป...