DBS Bank ธนาคารสัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนามของผู้ให้เช่าสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดเสนอขาย STO* (Security Token Offering) เป็นครั้งแรก ในราคา 11 ล้านดิจิทัลดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 259 ล้านบาท) ผ่านข้อเสนอแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลของ DBS (DBS digital exchange)
สำหรับการทำ STO ครั้งแรกของ DBS Bank เป็นการออกโทเค็นตราสารหนี้ ที่เป็นการเสนอขายให้แก่นักลงทุนในวงจำกัด หรือ Private Placement อายุ 6 เดือน โดยมีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (coupon rate) 0.60 % ต่อปี ซึ่งจะจ่ายในรูปแบบเงินสดเข้าไปในบัญชีของนักลงทุนแต่ละราย
การออก STO ในรูปแบบดังกล่าวมีกระแสตอบรับที่ดีและถูกจองจนหมด ซึ่งคาดว่าโมเดลนี้จะเป็นแบบจำลองสำหรับบริษัทอื่นๆในการระดมทุนผ่านการแปลงหลักทรัพย์และสินทรัพย์เป็นโทเค็นในอนาคต
ทั้งนี้เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา DBS Bank ได้เปิดตัวระบบการแลกเปลี่ยนทางดิจิทัลของ DBS ซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อจัดหาโทเค็น การซื้อขาย และระบบนิเวศการดูแลทรัพย์สินดิจิทัล จนปัจจุบันได้ขยายสู่แพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกในการซื้อขายแบบ spot trading ระหว่าง 4 สกุลเงินทั่วไป (SGD, USD, HKD, JPY) และ 4 สกุลเงินดิจิทัล (Bitcoin, Ethereum, Bitcoin Cash, XRP) ดังนั้นการออก STO ในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของธนาคารในการขยายธุรกิจแลกเปลี่ยนดิจิทัลให้ก้าวไปอีกขั้น
Eng-Kwok Seat Moey หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนของ DBS กล่าวถึงการออก STO ของบริษัทว่าเป็นการเน้นย้ำถึงระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลในการอำนวยความสะดวกในการปลดล็อคมูลค่าให้กับผู้ออกและนักลงทุน และยังคาดการณ์ถึงการแปลงโทเค็นสินทรัพย์ว่าจะกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าเริ่มยอมรับการออกโทเค็นความปลอดภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการระดมทุนของ DBS ที่เชื่อว่าจะช่วยให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลในเอเชีย
สำหรับกลยุทธ์แปลงสินทรัพท์เป็นดิจิทัลนับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของธนาคารในสิงคโปร์ ส่งผลมาจากการวิเคราะห์แนวโน้มทางการเติบโตของโทเค็นในตลาดสินทรัพย์ และการขยายข้อเสนอการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิทัลของ DBS
ด้าน Oi Yee Choo ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของ ADDX แพลตฟอร์มควบคุม digital banking ของ MAS (องค์การเงินตราแห่งประเทศสิงคโปร์) กล่าวถึงการลงทุนผ่านโทเค็น ว่าทำให้กระบวนการออกพันธบัตรเป็นไปอย่างราบรื่น มีต้นทุนต่ำ และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังช่วยให้พันธบัตรแยกออกเป็นสัดส่วนสำหรับนักลงทุนแต่ละราย ทำให้บริษัทต่างๆประหยัดต้นทุนและเวลา เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมาจัดการกับตัวกลางมากมายอย่างกระบวนการระดมทุนแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น
อ้างอิง : forkast.com
**STO (Securities Token Offering)คือ เป็นการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุนตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลตามปกติ เพียงแต่ทำออกมาในรูปแบบดิจิทัลโดยอาศัยเทคโนโลยีBlockchainซึ่งนักลงทุนจะได้รับโทเคน (Token) แทนหลักฐานแสดงสิทธิในทรัพย์สินอย่างที่เคยได้รับในอดีตอย่างเช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หรือหุ้นสามัญส่วนผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับก็จะเหมือนกับการลงทุนในหลักทรัพย์นั้นจริงๆ คือ กำไรจากการขึ้นลงของราคาToken รวมถึงเงินปันผลหรือดอกเบี้ย (ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiBMA)
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด