ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ขอกำกับดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีให้ต่างจากที่สหรัฐฯ และจีนทำ | Techsauce

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ขอกำกับดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีให้ต่างจากที่สหรัฐฯ และจีนทำ

เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุฝรั่งเศสขอแก้ตัวด้วยการสร้างรูปแบบการกำกับดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยี ให้แตกต่างจากที่สหรัฐฯ และจีนกำลังทำอยู่ พร้อมติดตามทุกๆ 6 เดือนว่าบริษัทด้านเทคโนโลยีจะสร้าง "เทคโนโลยีเพื่อสิ่งดีๆ" ให้เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่

Emmanuel Macron, France President | Photo: VivaTech

เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวในงาน VivaTech ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แสดงความคิดเห็นโดยว่า ยุโรปควรจะมีการพูดถึงเรื่องกฎระเบียบ และไม่ควรพูดแค่เรื่องเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy) เท่านั้น แต่เขายังพูดถึงเรื่องภาษี, การกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต (Cyberbullying), การคุ้มครองแรงงานอิสระ และอื่น ๆ

สิ่งที่เดิมพันอยู่ตอนนี้ คือ วิธีที่เราสร้าง 'ยุโรปโมเดล' ให้สอดคล้องกับนวัตกรรมและประโยชน์ส่วนรวม - Emmanuel Macron

มาครงเริ่มต้นด้วยข้อมูลด้านตัวเลขใน Tech Ecosystem ของฝรั่งเศส นั่นคือ ปีที่แล้ว Startup ในฝรั่งเศสระดมทุนไปได้ 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.5 พันล้านยูโร) ซึ่งเพิ่มขึ้นสามเท่าในปี 2015

"ผมต้องการพูดคุยกับผู้ที่อยู่ใน Ecosystem ของฝรั่งเศสทั้งหมดตั้งแต่วันนี้ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อประเทศ[ฝรั่งเศส]และโลกของเรา" เขากล่าว

จากนั้นเขาได้ระบุการเปลี่ยนแปลงล่าสุดที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลฝรั่งเศส เช่น ภาษีนิติบุคคล, นโยบาย Open Data และ Tech Visa

เขาไม่ได้พูดถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก คุณรู้สึกว่าเขามีจำนวนมากบนจานของเขาในขณะนี้และเทคโนโลยีที่มีมากหรือน้อยภายหลัง.

"ฝรั่งเศสเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่ง และนั่นคือเหตุผลที่เราสามารถพูดได้ว่าฝรั่งเศสกลับมาแล้ว" มาครงพูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อสรุปสุนทรพจน์ส่วนแรก

"Message ที่สองของผม คือ เพื่อแอฟริกา เพราะคุณตัดสินใจที่จะเชื้อเชิญให้แอฟริกา VivaTech ในปีนี้" เขากล่าว

มาครงได้ประกาศว่า ฝรั่งเศสกำลังจะนำงบประมาณสาธารณะไปลงทุนในสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มดำเนินกิจการในแอฟริกา

โดยอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้ หน่วยงานด้านการพัฒนาของฝรั่งเศส (French Development Agency) กำลังเตรียมประกาศโครงการพิเศษที่มีเงินลงทุนจำนวน 65 ล้านยูโร (76 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อแบ่งไปลงทุนในสตาร์ทอัพ[แอฟริกา]แต่ละรายด้วยเงิน 30,000 ยูโร ถึง 50,000 ยูโรอีกด้วย

Message จากประธานาธิบดีฝรั่งเศส ถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี

France President Emmanuel Macron in VivaTech 2018 | Photo: Twitter @EmmanuelMacron

นอกจากนี้ มาครงยังได้พูดถึงการกำกับดูแลด้านเทคโนโลยีในภาพรวมว่า "ขณะนี้เรากำลังประสบกับการปฏิวัติครั้งใหญ่ ผมเชื่อมั่นในการปฏิวัติครั้งนี้และประเทศของเราก็เชื่อมั่นในเรื่องนี้อย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน "เขากล่าว "แต่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าบางคนในประเทศ[ฝรั่งเศส]และในโลกของเรายังกลัวการเปลี่ยนแปลงอยู่"

"บริษัทด้านเทคโนโลยีก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างเสมอที่ดีเสมอไป บางรายยังไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากรและยังสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นไม่ได้ - แม้แต่ผู้ประกอบการชาวฝรั่งเศสก็ด้วยเช่นกัน" มาครงกล่าว

จากนั้น Macron ก็ขอแก้ตัวด้วยการเสนอโครงการของฝรั่งเศสที่ต้องการ "European tax" สำหรับบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยระบุต่อว่าถ้าหากรัฐบาลฝรั่งเศสสามารถโน้มน้าวรัฐบาลประเทศอื่นๆ ให้คล้อมตามประเด็นนี้ได้ ก็จะทำให้บริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ถูกหักภาษีจากรายได้ในท้องถิ่นของแต่ละประเทศในยุโรปได้ด้วยเช่นกัน อาจเป็นวิธีหลีกเลี่ยงแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษีด้วยเช่นกัน

ซึ่งประเทศในยุโรปที่มีอัตราภาษีธุรกิจที่ไม่สูงมาก ดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่นัก

"ผมเป็นคนมองโลกในดีต่อบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และประเทศ[ฝรั่งเศส]นี้เชื่อมั่นในนวัตกรรม" เขากล่าว "แต่[การเชื่อมั่น]ก็ไม่เพียงพอต่อการสร้างรายได้, การสร้างงาน และการทำให้ผู้ถือหุ้นในบริษัทเกิดความพึงพอใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก โดยเฉพาะการสร้างงานในส่วนที่ผมยังเป็นห่วงอยู่"

มาครง ยังได้วิพากษ์วิจารณ์การกำกับดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ด้วยว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้ทำอะไรมากพอสำหรับการล่วงละเมิดทางออนไลน์, ภาษี, แรงงานและอื่น ๆ

จากนั้นเขาก็วิพากษ์วิจารณ์การกำกับดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีในจีนว่า รัฐบาลจีนไม่ได้ทำอะไรมากพอ เมื่อมีประเด็นเรื่องของความเป็นส่วนตัว, สิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคทางเพศ

"สิ่งที่เดิมพันอยู่ตอนนี้ คือ วิธีที่เราสร้าง 'ยุโรปโมเดล' ให้สอดคล้องกับนวัตกรรมและประโยชน์ส่วนรวม" เขากล่าว "เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างกรอบการทำงานนี้ร่วมกัน"

นอกจากนี้มาครงยังระบุว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะติดตามบริษัทด้านเทคโนโลยีทุกๆ 6 เดือนเพื่อดูว่าได้ทำตามสิ่งที่สัญญาไว้ว่าจะสร้าง "เทคโนโลยีที่ดี" ให้เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่อีกด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก TechCrunch

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Gemini 2.0 คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ? สรุปของใหม่กับ AI ที่เก่งที่สุดของ Google

หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 1.0 ซึ่งเป็น AI แบบ Multimodal และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้มากถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น...

Responsive image

พลังงานจากหลุมดำ พุ่งชนวัตถุลึกลับในกาแล็กซี เกิดรอยปริศนารูปตัว V

NASA พบร่องรอยแปลกประหลาดจากการพุ่งชนของลำแสงพลังงานสูงที่มาจากหลุมดำขนาดมหึมาในกาแล็กซี Centaurus A (Cen A) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 12 ล้านปีแสง การค้นพบนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ...

Responsive image

LINE MAN Wongnai จับมือททท. ดันเชียงใหม่ ศูนย์กลางเทศกาลอาหาร ดึง 70 ร้านดังทั่วไทย ร่วมงาน "ฟู้ดเฟสติเว่อร์"

LINE MAN Wongnai เผยอินไซต์ ‘เชียงใหม่’ เป็นเมืองที่มีศักยภาพเติบโตสูงเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนร้านอาหารกว่า 76,000 ร้าน และไลน์แมนไรเดอร์กว่า 4,100 ราย ทำให้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการผล...