ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น สะท้อนอะไร ? | Techsauce

ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น สะท้อนอะไร ?

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งเราก็จะเห็นได้มีทุกอย่างมีความผันผวนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะตลาดหุ้น ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าทั่วทั้งโลกนั้น ไม่ได้สะท้อนสภาพความเป็นไปของเศรษฐกิจจริงที่ปรากฎอยู่เลย  และถือว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมทำให้นักลงทุนที่ต้องการหาความมั่นคง กระจายการลงทุนไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น นั่นคือ ทองคำ จนทำให้ราคาทองคำในตอนนี้ปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

ทองคำ

ทำไมราคาทองคำถึงสูงขึ้น?

เหตุผลหลักคืออัตราผลตอบแทนที่ลดลงอย่างมากในปีนี้จาก ธนาคารกลางของสหรัฐที่มีระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่คาดการณ์ไว้ หลังจากการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯในช่วงเดือนมีนาคมเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้ให้ที่ต่ำสุดและเพิ่มการปล่อยให้ซื้อพันธบัตรหลายร้อยพันล้านดอลลาร์  ทำให้ดึงมูลค่าอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ลดลงอย่างมากทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำแทน ด้วยเหตุนี้เองทำให้ความสนใจของนักลงทุนหันมาสนใจการลงทุนใน ทองคำ เเทนการลงทุนในพันธบัตรหรือเงินฝากธนาคาร เมื่อทองกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนทั่วโลกราคาจึงพุ่งสูงขึ้น ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกตอนนี้ ทองคำ อาจเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนระยะยาวความเสี่ยงน้อยสุด

ราคาทองคำจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่?

ระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาการเงินของสหรัฐฯ เริ่มเกิดภาวะเงินเฟ้อผลักดันให้การลงทุนและความเชื่อมั่นของนักลงทุนหันมาเพิ่มมูลค่าให้ทองคำมีราคาที่สูงขึ้น เรื่อยๆ ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ ผู้อำนวยการโรงกษาปณ์สหรัฐฯในเวลานั้นคาดการณ์ไว้ว่า ราคาทองจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเเนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวอย่างช้าๆและจะไม่มีเงินเฟ้อ ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเกินกำหนดตามที่ คุณเฟอร์เกลโอคอนเนอร์ นักเศรษฐศาสตร์ที่ University College Cork ผู้ซึ่งเคยศึกษาประวัติตลาด ได้ให้ข้อมูลไว้หลังจากเหตุการระบาดของไวรัสครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นนักลงทุนสถาบันกำลังเพิ่มการถือครองทองคำของพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมนอกจากนี้ ความต้องการเครื่องประดับของประเทศอินเดียและจีนยังเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ราคาทองเพิ่มขึ้นในอีกทางหนึ่ง

ราคาทองคำพุ่งสูงสะท้อนอะไร ? 

สำหรับการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำนั้น ไม่ได้แปลว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีเท่าไหร่นักกับระบบเศรษฐกิจทั่วทั้งโลก เพราะถ้าผู้คนมองหาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าสภาพความเป็นอยู่ของเขาย่อมไม่ปลอดภัย และมีความเสี่ยงสูง ซึ่งการลงทุนก็เช่นเดียวกัน ถ้าถามว่าตอนนี้ทั่วโลกกังวลปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง ต้องบอกว่าปัญหาหลัก คือ เรื่องของเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก จากการแพร่ระบาดของไมรัส COVID-19  ที่ล่าสุดก็มีผู้ติดเชื้อดังกล่าวเกือบ 20 ล้านรายแล้ว ขณะที่ภาคการจ้างงานทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ออกมาดีมากนัก 

นอกจากนี้ยังมีประเด็นของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อค่อนข้างสูง อีกทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเงินสกุลหลักของโลกก็อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง มากไปกว่านั้น จากปัญหาเดิมที่มีอยู่แล้ว สหรัฐอเมริกา มหาอำนาจของโลกยังไม่ผ่อนคลายที่จะมีข้อพิพาทกับจีน โดยล่าสุดก็เกิดเป็นสงครามด้านเทคโนโลยี อย่างการที่เตรียมจะแบน Tiktok เพราะความกังวลต่อการขโมยข้อมูลของรัฐบาลจีน และจะให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft เข้าซื้อกิจการของ Tiktok ในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด แต่ทางรัฐบาลจีนไม่ยอมที่จะขายบริษัทเทคโนโลยีของตัวเองให้กับสหรัฐเด็ดขาด ดังนั้นจึงเกิดเป็นข้อพิพาทที่หาความลงตัวไม่ได้เกิดขึ้น 

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะลงทุนในทองคำในระยะนี้จากการมองเห็นว่าราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ควรจะลงทุนอย่างระมัดระวัง และติดตามสถานการณ์ความเป็นไปของโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะไม่เกิดความเสี่ยงจากการลงทุน เพราะท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าทองจะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หรือ Safe  Haven แต่ถ้าหากไม่มีความระมัดระวังในการลงทุนก็อาจจะไม่ได้ปลอดภัยสำหรับใครหลาย ๆ  คน เช่นกัน เพราะอย่าลืมว่า การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ 


อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก WSJ


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Willow ชิปควอนตัมจาก Google แรงทะลุจักรวาล ประมวลผลเรื่องยากได้ในเวลา 5 นาที เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ล้านล้านเท่า

Willow คือชื่อชิปควอนตัมใหม่ที่ Google พัฒนาสำเร็จ โดยแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้ง ชิปตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้เร็ว...

Responsive image

ไทยตื่นตัวเซมิคอนดักเตอร์ ปิดดีลไปแล้วกว่า 22,000 ล้าน ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนสิ้นปี

ไทยก้าวสู่ยุคเซมิคอนดักเตอร์เต็มตัว! 4 เดือนก่อนสิ้นปี ปิดดีลลงทุนไปกว่า 22,000 ล้านบาท เสริมฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมผลักดันบุคลากรสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต...

Responsive image

ลิซ่า ซู จาก AMD คว้า CEO แห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME

ลิซ่า ซู ซีอีโอ AMD ได้รับเลือกให้เป็นซีอีโอแห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME โดยได้รับการยกย่องในวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำที่สามารถพลิกฟื้น AMD จากการเกือบล้มละลายเมื่อ 10 ปีก่อน กลายเ...