Adobe และ Red Hat ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งขับเคลื่อนดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันและเสริมศักยภาพระบบความปลอดภัยของข้อมูลองค์กรแบบเรียลไทม์ โดยเน้นโฟกัสที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ภายใต้เป้าหมายในการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลตลอดเส้นทางผู้บริโภค (customer journey) ช่วยมัดใจและเพิ่มความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ รวมถึงเพิ่มความสามารถในการทำกำไรขององค์กร
ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ เดินหน้าสู่ดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันและย้ายเวิร์คโหลดหลักขึ้นคลาวด์ ผู้บริหารต่างต้องเผชิญกับการปรับบทบาทของตนเองใหม่เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้า โดยมีเรื่องระบบความปลอดภัยเป็นด่านหน้าและหัวใจสำคัญ การมุ่งเน้นการตลาดบนพื้นฐานของข้อมูล (data-driven marketing) ทำให้ผู้บริหารสูงสุดสายการตลาดและดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานในอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างธนาคารและการดูแลสุขภาพ มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญขององค์กรและลูกค้า และทำให้การปกป้องข้อมูลในขณะที่ส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายแก่ลูกค้ากลายเป็นเรื่องสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
• การส่งมอบการทำงานอย่างยืดหยุ่นผ่านไฮบริดคลาวด์: Adobe IBM และ Red Hat มองถึงการช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถบริหารจัดการ รวมถึงส่งมอบคอนเทนต์และแอสเซทต่างๆ ผ่านสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์แบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะหรือดาต้าเซ็นเตอร์แบบ on-premise โดยการ certify และนำ Adobe Experience Manager 6.5 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Adobe Experience Cloud ไปรันบนแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สคอนเทนเนอร์ชั้นนำสำหรับองค์กร Red Hat OpenShift ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของไอบีเอ็มสามารถเลือกใช้โฮสต์ เข้าถึง หรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่น ตามรูปแบบสภาพแวดล้อมของระบบที่ต้องการ
• Adobe สำหรับบริการด้านการเงิน: Adobe ได้เข้าร่วมอีโคซิสเต็มพันธมิตรของไอบีเอ็มในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยจะเปิดให้บริการโซลูชัน CX ต่างๆ บน IBM Cloud for Financial Services ให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Adobe Experience Manager เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลแก่ลูกค้าได้ โดยมั่นใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ
• Adobe และ IBM เซอร์วิสเซส: IBM iX ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการออกแบบธุรกิจของไอบีเอ็ม เซอร์วิสเซส จะขยายบริการสู่แอพพลิเคชันองค์กรหลักๆ ของอะโดบี พร้อมด้วยบริการซัพพอร์ทที่ครอบคลุมทั้ง Adobe Creative Cloud, Adobe Experience Cloud และ Adobe Document Cloud เพื่อช่วยสนับสนุนให้แบรนด์ระดับโลกสามารถนำข้อมูลมาออกแบบ ใช้งาน และต่อยอดประสบการณ์เฉพาะบุคคลแก่ลูกค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าในทุกการเข้าถึง
“วันนี้องค์กรต่างเดินหน้ามัดใจลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” อนิล จักรวาร์ธี รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ ดิจิทัลเอ็กซ์พีเรียนซ์ Adobe กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้จับมือกับไอบีเอ็มและ Red Hat เพื่อช่วยให้องค์กรที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลสามารถเดินหน้าใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าแบบเรียบไทม์ ในการส่งมอบประสบการณ์ผ่านทุกช่องทางดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย โดยรองรับการขยายการใช้งานและเป็นไปตามกฎข้อบังคับที่กำกับดูแลอยู่”
“ความเป็นจริงคือวันนี้ ธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมต่างกำลังอยู่ในโลกที่เน้นการสร้างประสบการณ์ และสามารถสร้างคุณค่าได้มหาศาลจากข้อมูลหากมีเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่นและน่าเชื่อถือรองรับ” บริดเจ็ท แวน คราลินเก็น รองประธานอาวุโสของไอบีเอ็ม โกลบอล มาร์เก็ต กล่าว “ความร่วมมือครั้งนี้โฟกัสบนหลักการเหล่านี้ คือเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในการใช้ข้อมูลในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ภายใต้การผนึกความเชี่ยวชาญด้านมาร์เก็ตติ้งของ Adobe ความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรมต่างๆ ของไอบีเอ็ม และนวัตกรรมแบบโอเพนของ Red Hat”
“การจะแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลได้ จำเป็นต้องอาศัยความสามารถในการส่งมอบนวัตกรรมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว” อัสเชช บาดานี รองประธานอาวุโส ธุรกิจคลาวด์แพลตฟอร์มของ Red Hat กล่าว “ความร่วมมือระหว่าง Adobe IBM และ Red Hat ในครั้งนี้ จะช่วยให้องค์กรสามารถส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลเหนือระดับได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็วในทุกสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์แบบ on-premise หรือคลาวด์สาธารณะ”
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ไอบีเอ็มยังได้แต่งตั้ง Adobe เป็น “พันธมิตรระดับโลกด้านการสร้างประสบการณ์” และจะเริ่มมีการนำ Adobe Experience Cloud และแอพพลิเคชันองค์กรต่างๆ เข้าพลิกโฉมส่วนงานการตลาดภายในของไอบีเอ็มด้วยต่อไป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด