เปิดลงทะเบียนร่วมงาน Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition | Techsauce

เปิดลงทะเบียนร่วมงาน Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition

กลับมาอีกครั้ง!! กับมหกรรมบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” เปิดโลกสินทรัพย์ดิจิทัลและอุตสาหกรรมบล็อกเชน The World of Digital Asset and Blockchain Ecosystem ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2563 นี้ พร้อมให้ลงทะเบียนแล้ววันนี้

สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จัดเต็ม..ตอกย้ำความสำเร็จเพื่อขับเคลื่อนไทยสู่ยุคใหม่แห่งสินทรัพย์ดิจิทัลกับงานบล็อกเชนที่ทุกคนรอคอย งาน “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” มหกรรมงานบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล (The World of Digital Asset and Blockchain Ecosystem) ในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2563 ณ สามย่านมิตรทาวน์ ภายในงานจะพบกับเวทีให้ความรู้และกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อต่าง ๆ ภายใต้ 4 หัวใจหลัก ได้แก่ 

  • สกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ (Central Bank Digital Currency: CBDC) 
  • ระบบการเงินกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) 
  • สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) 
  • การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อการประกอบการ (Blockchain for Enterprise) 

ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่และเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล..ซึ่งผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมบนแพลตฟอร์ออนไลน์ ผ่านการจัดงานในรูปแบบไฮบริดไลฟ์สดผ่านโปรแกรมซูม โดยสามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ได้ที่ https://btg2020.blockchain-th.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดอบรมได้ที่ https://web.facebook.com/blockchainthailandevent/  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รับประกันว่า คุณจะได้พัฒนาความรู้และทักษะด้านบล็อกเชนตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับโปรกันเลยทีเดียว !!ฝ่ายประชาสัมพันธ์งาน Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition (วัสยษฏิ์ ภิรมย์วรากร 064 289 7823)

อัปเดตเรื่องราวในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล

1. เงินดิจิทัลแห่งชาติ (Central Bank Digital Currency: CBDC)

Bank for International Settlements (BIS) องค์กรการเงินระหว่างประเทศที่มีเจ้าของเป็นธนาคารกลาง 62 ประเทศทั่วโลกได้เปิดเผยข้อมูลการสำรวจในปี 2019 ว่า 80% ของธนาคารกลาง 66 ประเทศทั่วโลกนั้นกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเงินดิจิทัลแห่งชาติ (Central Bank Digital Currency หรือ CBDC) และมีถึง 10% ที่เริ่มโครงการนำร่องไปแล้ว 

ในปี 2020 นี้เองหลายประเทศเริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่ามีความพร้อมที่จะเปิดตัว CBDC ในอนาคตอันใกล้ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศจีนที่เพิ่งมีข่าวว่าพัฒนาระบบหลังบ้านของหยวนดิจิทัลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไทยเองก็มีการศึกษาและทดลองเกี่ยวกับ CBDC มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว การที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างแข่งกันออกเงินดิจิทัลของตัวเองจะส่งผลกระทบวงกว้างไปในทุกมิติของเศรษฐกิจ นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่คนไทยควรจะต้องติดตาม

สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) สินทรัพย์ชนิดใหม่ของโลก

พัฒนาการของเทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดสินทรัพย์รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนนั้นก็คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หลักการก็คือการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาแปลงให้สินทรัพย์ทุกอย่างบนโลกกลายเป็นโทเคน (Token ) โทเคนแหล่านี้สามารถซื้อขายรวมถึงแลกเปลี่ยนกันได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ นั่นหมายความว่า สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นไม่ได้ยึดถือแต่สิ่งที่อยู่บนโลกดิจิทัลเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในโลกจริงและหลักทรัพย์ทางการเงินให้มาเป็นรูปแบบโทเคนดิจิทัลได้ และเนื่องจากโลกของเรามีสินทรัพย์หลากหลายรูปแบบที่มีมูลค่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน งานศิลปะ ทองคำ สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงได้ลงความเห็นว่า การนำสินทรัพย์เหล่านั้นมาแปลงให้กลายเป็นโทเคนดิจิทัลจะก่อให้เกิดตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีมูลค่ามหาศาลและมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคตอันใกล้

นอกจากนี้สินทรัพย์ดิจิทัลเองยังสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทอีกด้วยกัน เช่น สกุลเงิน (Currency), เหรียญที่มีประโยชน์ใช้สอยเฉพาะทาง (Utility Token), เหรียญที่เป็นหลักทรัพย์หรือให้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับระบบและธุรกิจ (Security Token)

3. ระบบการเงินไร้ศูนย์กลาง (Decentralised Finance: DeFi) การเงินของโลกอนาคต 

ในโลกการเงิน เรามักพึ่งพาตัวกลางในการทำธุรกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษา การโอนเงินทั้งในและนอกประเทศ การกู้ยืม การรับดอกเบี้ย และอื่น ๆ อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล ความต้องการในการทำธุรกรรมออนไลน์จึงสูงขึ้น ยิ่งทำให้เราต้องพึ่งตัวกลางมากขึ้นอีกสิ่งเหล่านี้อาจจะเปลี่ยนไป เมื่อแนวคิดของระบบการเงินไร้ศูนย์กลาง (DeFi หรือ Decentralised Finance) ได้ถือกำเนิดขึ้นมา โดยการผนวกนวัตกรรมอย่างระบบกระจายศูนย์ กับระบบการเงิน 

ระบบการเงินไร้ศูนย์กลางคือการยกฟังก์ชันของการเงินโลกเก่าไปบนระบบที่ขับเคลื่อนด้วยระบบที่ทำงานได้ด้วยตัวเองอัตโนมัติตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมง โดยเปลี่ยนจากทรัพยากรคนเป็นคอมพิวเตอร์ เกิดเป็นระบบที่ไร้พรมแดน ไม่มีผู้ใดผูกขาด และเปิดให้ทุกคนที่มีอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ ซึ่งในปัจจุบัน DeFi ก็ได้มีสินทรัพย์มากกว่า $14bn โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 ปี 

แนวคิดระบบการเงินกระจายศูนย์นี้เองมีศักยภาพในการลดตัวกลางได้อย่างมหาศาล และเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆขึ้นมาในโลกธุรกิจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราได้เห็นทั้ง Startup สถาบันการเงิน และองค์กรยักษ์ต่าง ๆ พยายามปรับตัวเข้าสู่โลกการเงินใหม่นี้    

4. การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในธุรกิจ

เทคโนโลยีบล็อกเชนถูกยกให้เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีแห่งยุคที่จะมา Disrupt โลก คนส่วนมากเมื่อได้ยินคำว่าบล็อกเชนก็จะคิดถึงเหรียญบิตคอยน์ (Bitcoin) หรือสกุลเงินดิจิทัลเพียงอย่างเดียว จริงอยู่ที่เทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นเกิดขึ้นมาพร้อมบิตคอยน์ แต่แท้ที่จริงแล้วเทคโนโลยีนี้สามารถนำเอาไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายธุรกิจในหลาย ๆ อุตสาหกรรม เช่น การเงิน ประกันภัย แฟชัน พลังงาน สุขภาพ รีเทล โลจิสติกส์ และ ซับพลายเชน

ปี 2020 เป็นปีที่เราได้ยินข่าวการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมากมายจากหลายองค์กรในประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น การเอาบล็อกเชนไปใช้ในระบบจัดซื้อของ SCG การออกหุ้นกู้บนบล็อกเชนของโตโยต้า การออกพันธบัตรบนบล็อกเชนของธนาคารกรุงไทย การที่บริษัทชั้นนำทั้งหลายเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้มากขึ้นเป็นการยืนยันแล้วว่าเทคโนโลยีชนิดนี้ให้ผลดีจริง ๆ การให้ความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีตัวนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับธุรกิจอื่น ๆ ในประเทศไทย


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เตรียมพบกับงานสัมมนา Social Value thailand Forum 2024 เปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

งานสัมมนาเปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยฐานความรู้ นวัตกรรม และความร่วมมือรัฐ เอกชน สังคม Accelerating Education and Partnership for the SDGs...

Responsive image

เปิดตัวโครงการนำร่อง "กำแพงพักใจ ที่พักใจให้เยาวชน" ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิ Wall of Sharing, Ooca และ สปสช.

โครงการนี้มีเป้าหมายในการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตสำหรับเยาวชน 2,500 คนในกรุงเทพฯ ด้วยบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ฟรี และยังลดภาระในการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต โดยที่เยาวชนจะได้รับก...

Responsive image

“Brother" ยกระดับมาตรฐานบริการรอบด้าน มุ่งสร้างความพึงพอใจลูกค้าพร้อมตั้งเป้าโต 6%

Brother พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากปี 2566 มุ่งตอบโจทย์โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ยกระดับงานให้บริการสู่มาตรฐานขั้นสูง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด พร้อมเสริมแกร่งฐานลูกค้ากลุ่...