Booking.com เผย 7 คาดการณ์ อนาคตการท่องเที่ยวไทยในปี 2565 | Techsauce

Booking.com เผย 7 คาดการณ์ อนาคตการท่องเที่ยวไทยในปี 2565

บริบทของการเดินทางท่องเที่ยวได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากและยังคงเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา โดยส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อทุกแง่มุมในชีวิตประจำวันของเรา  ทั้งหมดเป็นผลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของครั้งใหญ่ของโควิด-19 ที่ได้ผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าและปรับตัวให้เข้ากับ "New Normal" หรือความปกติใหม่ที่เกิดขึ้น และแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แต่หลายๆ คนก็เริ่มมีความหวังต่อสถานการณ์ในตอนนี้และพร้อมคัมแบคกลับไปท่องเที่ยวกันแล้ว

ปี 2565 จะเป็นปีที่เราเริ่มคุ้นชินและปรับตัวรับกับสถานการณ์ไม่คาดคิดได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเริ่มเดินหน้าวางแผนการเดินทางเพื่อชดเชยการท่องเที่ยวที่หายไป โดยจำนวนของผู้เดินทางทั่วโลกที่รู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องวางแผนการเดินทางเพิ่มขึ้นถึง 52% จากปีที่แล้ว* โดยการคาดการณ์ของ Booking.com1 เผยให้เห็นว่า ผู้คนจะเริ่มจุดประกายจิตวิญญาณในการท่องเที่ยวให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง และในปีหน้าผู้เดินทางจะทำทุกทริปการเดินทางของพวกเขาให้มีความหมายมากกว่าที่เคย ซึ่ง Booking.com ขอเผย 7 การคาดการณ์ต่ออนาคตการเดินทางท่องเที่ยวไทยในปี 2565 ดังนี้

ทริปเติมพลัง และวิตามินของจิตใจ

ในปี 2565 การได้ออกเดินทางท่องเที่ยวจะได้รับการยกระดับให้เป็นวิถีของการเยียวยาร่างกายและปลอบประโลมจิตใจ ที่เห็นผลกว่าการออกกำลังกายหรือการนั่งสมาธิเป็นประจำ โดย 86% ของผู้เดินทางชาวไทยระบุว่า การเดินทางส่งผลดีต่อจิตใจและอารมณ์ของพวกเขาได้มากกว่าการผ่อนคลายในรูปแบบอื่นๆ เนื่องจากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเราทุกคนต่างต้องเจอกับการเดินทางที่ถูกจำกัด จากกฎเกณฑ์ที่ปรับและเปลี่ยนไปแบบวันต่อวัน และทำให้เราได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการเดินทางที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของเราเป็นอย่างดี ซึ่งเกือบสองในสาม (62%) ของผู้เดินทางชาวไทย ได้ค้นพบว่าการเดินทางมีความสำคัญต่อสุขภาพกายและใจอย่างมาก ในช่วงที่ไม่สามารถออกเดินทางได้ และ 89% ของผู้เดินทางระบุว่า การได้มีแผนท่องเที่ยวหรือวางแผนไว้แล้วสำหรับวันหยุด ส่งผลที่ดีต่อจิตใจของพวกเขา

นิยามใหม่ของขอบเขตการทำงานนอกออฟฟิศ

ในช่วงที่การแพร่ระบาดส่งผลกระทบอย่างหนัก บ้านในแทบจะทุกมุมโลกได้กลายเป็นที่ทำงานของพวกเราทุกคนไปด้วย และตอนนั้นเองที่ผู้คนได้เริ่มสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการทำงานนอกออฟฟิศ อย่างไรก็ตามในปี 2565 ที่จะถึงนี้ เราจะได้เห็นผู้คนจำนวนมากลุกขึ้นมาทวงคืนอำนาจในการควบคุมเวลาของชีวิตตัวเอง เพื่อขีดเส้นแบ่งระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตให้มีความชัดเจนและสมดุลยิ่งขึ้น โดยในปี 2565 นั้น สามในสี่ของผู้เดินทาง (76%) จะทำให้ทริปพักผ่อนเป็นช่วงเวลาที่ปลอดงานอย่างแท้จริง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แทบจะทำไม่ได้จริงในปี 2564 ด้วยความที่การใช้ชีวิตภายในบ้าน และการทำงานเป็นกิจกรรมที่ต้องทำสลับกันไปภายในที่เดียว

แม้ว่าการทำงานนอกออฟฟิศจะทำให้เราบริหารเวลาได้เอง แต่ในปี 2565 จำนวนครึ่งหนึ่งผู้เดินทางชาวไทย (50%) ก็เลือกที่จะลดเวลาพักร้อนให้สั้นลง ถ้าพวกเขาสามารถปิดการสื่อสารเรื่องงานในทุกช่องทางได้ ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง (50%) เลือกที่จะเพิ่มเวลาพักร้อนให้ยาวขึ้น และทำงานในระหว่างพักผ่อนสลับกันไป

สัมผัสความรู้สึก 'ครั้งแรก' กันอีกครั้ง

ยังจำความรู้สึกตอนที่คุณขึ้นเครื่องบินครั้งแรกได้ไหม แล้วความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เช็คอินเข้าพักโรงแรมล่ะ เป็นอย่างไร? หลังจากที่รู้สึกเหมือน "ถูกขัง" มายาวนาน แทนที่จะรีบร้อนออกเดินทางตามรูปแบบเดิมๆ ผู้เดินทางจำนวนมากเลือกที่จะแต่งเสริมเติมความสุขของการเดินทางในปี 2565 ให้มีสีสันและมีความหมายมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น การจัดเพลย์ลิสต์ไปฟังบนรถเช่า หรือค้นหาของอร่อยที่มีจำหน่ายในร้านค้าปลอดภาษีแบบล่วงหน้า เรื่องเดิมๆ ที่ดูน่าเบื่อของการเดินทางในอดีตอย่างการนั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่างรถไฟ เพื่อชมทิวทัศน์ข้างทางที่เลื่อนผ่านแบบเบลอๆ หรือการเดินหลงทางบนถนนขรุขระแถมต้องเดินต้านลมกระโชกแรงเพียงเพื่อไปรับกุญแจบ้านพักที่เช่าไว้ จะกลายเป็นเรื่องที่น่าสนุกของกลุ่มผู้เดินทางจำนวน 80% ที่ระบุว่าการท่องเที่ยวจะสนุกขึ้น ถ้าในระหว่างการเดินทางมีเรื่องราวให้น่าจดจำเหมือนเป็นหนึ่งในกิจกรรมของทริปนั้นๆ

 

"ครั้งแรก" ของแต่ละทริปในปี 2565 จะเป็นช่วงเวลาอันหอมหวานน่าจดจำ ซึ่งการที่ผู้เดินทางได้สัมผัสถึงความสุขใจ และความพึงพอใจกับเรื่องเล็กๆ ก็จะช่วยปรับอารมณ์ให้สดใสขึ้นได้ในทันที โดยผู้เดินทางส่วนใหญ่กล่าวว่าความพึงพอใจแบบเรียบง่ายอย่างเช่น การออกไปเจอแสงแดดสดใส (69%) ที่กำลังกระทบผิว หรือได้เห็นสายน้ำสุดลูกหูลูกตา ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเล หรือทะเลสาบ (91%) ก็สามารถทำให้พวกเขามีความสุขขึ้นมาอย่างง่ายดาย หรือแม้จะต้องเผชิญกับประสบการณ์การหลงทิศ หลงทาง ขึ้นรถไฟ หรือรถเมล์ผิดสายในเมืองใหม่ที่ไม่มีใครเข้าใจภาษาเรา แต่ 80% ของผู้เดินทางต่างบอกว่า พวกเขาก็จะสนุกไปกับสิ่งเหล่านั้นอยู่ดี  

ชุมชนต้องมาก่อน

ในปี 2565 ความต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดจะกลายมาเป็นความต้องการของผู้เดินทางในระหว่างท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน เนื่องจากเราจะพยายามวางแผนเที่ยวอย่างใส่ใจในทุกครั้ง และทำให้แน่ใจว่าเราสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสถานที่ที่เราไปเที่ยวพักผ่อน และผู้อยู่อาศัยในย่านนั้น 

โดย 74% ของผู้เดินทางชาวไทยเห็นด้วยว่า การเดินทางของพวกเขาควรจะสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นที่เป็นจุดหมายของการเดินทาง และ 82% อยากให้มีแอปหรือเว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่ชุมชนท้องถิ่นจะได้รับประโยชน์ในเชิงบวก หากธุรกิจท่องเที่ยวภายในชุมชนนั้นเติบโตขึ้น นอกจากนี้ 85%3 ต้องการให้เงินที่ใช้จ่ายไประหว่างท่องเที่ยวของพวกเขาส่งผลเชิงบวก หรือพัฒนาชุมชนท้องถิ่นนั้นๆ และ 85%3 ก็ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สะท้อนวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นนั้นๆ อย่างแท้จริง

ปัดขวาให้กับจุดหมายใหม่ ๆ และผู้คนหน้าใหม่

สำหรับหลายคนนั้นการแพร่ระบาดทำให้ได้ใช้เวลานานขึ้นอย่างจริงจังกับเพื่อนสนิทหรือคนที่รัก แต่การท่องเที่ยวในปี 2565 จะเป็นโอกาสของการขยับขยาย สานสายสัมพันธ์ใหม่ๆ  เนื่องจาก 76% ของผู้เดินทางชาวไทยระบุว่า ต้องการพบปะผู้คนใหม่ ๆ ระหว่างเดินทาง เราจึงคาดว่าจะได้เห็นผู้เดินทางเปลี่ยนทริปพักร้อนให้เป็นช่วงเวลาทองของการต่อเติมเสริมเครือข่ายทางสังคมของพวกเขาให้กว้างไกลยิ่งขึ้น โดยผู้เดินทาง 81% ตั้งตารอการเข้าสังคม และพบปะผู้คนระหว่างช่วงท่องเที่ยว และ 74% ต้องการเข้าพักในที่พักไหนก็ได้ที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน

ผู้คนต่างต้องการความสัมพันธ์เพื่อเติมเต็มความหมายของชีวิต เราจึงคาดการณ์ถึงโอกาสฟื้นตัวของการท่องเที่ยวพักผ่อนแบบโรแมนติก เพราะต่างคนต่างก็เริ่มเบื่อกับการปัดเลือกคู่เดตหน้าเดิมๆ ในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา และหลังจากนี้ผู้คนจะเริ่มใช้แอปพลิเคชันโปรดของพวกเขาในการหาคู่เดตได้อย่างเต็มที่ในระหว่างทริปพักผ่อนของปี 2565 เพราะการเดินคือปัจจัยสำคัญสู่โอกาสในการออกตามหารักกัน ผ่านสถานที่ใหม่ๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยผู้คนหน้าใหม่ โดยมีผู้เดินทางถึง 75% ที่หวังว่าจะพบกับโอกาสสุดโรแมนติกนั้นในทริปครั้งต่อไป 

แค่ตอบว่า 'ไปสิ' 

หลังจากที่ถูก “ห้าม” มานาน ตอนนี้ผู้เดินทางต่างเริ่มหันมาคิดในเชิงบวกและมองสถานการณ์ของปี 2565 อย่างมีความหวังมากขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้ว 69% ของผู้เดินทางจะพยายามหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก และเลือกทริปท่องเที่ยวแบบยืดหยุ่น ที่สามารถปรับแต่งไปตามสถานการณ์ตรงหน้าได้ มากกว่าการวางแผนเที่ยวแบบละเอียดอัดกิจกรรมจนแน่นตารางในทุกวัน ในปี 2565 ที่จะมาถึงนี้การเดินทางจะเป็นแบบไร้แผนมากขึ้น เพราะผู้คนเคยรับมือกับเรื่องหักมุมหรือไม่คาดฝันมาแล้ว ดังนั้นหากต้องเจอเหตุการณ์เหนือความคาดหมายเมื่อออกทริปผู้เดินทางก็จะตอบว่า “แล้วไงล่ะ ลุยเลย!” อย่างมั่นใจ สำหรับการเลือกเพื่อนร่วมทาง พวกเขาจะเลือกเพื่อนที่พร้อมจะตอบว่า "ไปสิ” แบบไม่ต้องคิดเยอะ โดยกว่าครึ่งของผู้เดินทาง (55%) ต่างวางแผนที่จะออกเดินทางไปกับเพื่อนที่พร้อมไปไหนไปกันแม้จะต้องปรับแผนตามสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันสักกี่ครั้งก็ตาม

เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านการเดินทาง ผู้เดินทางจำนวน 83% เห็นด้วยว่า พวกเขาพร้อมจะตอบว่า ‘ไปสิ’ กับทุกแผนเที่ยว ถ้ามีงบเหลือเพียงพอ และสำหรับ 59% ที่คอยเก็บเล็กผสมน้อยด้วยการไม่ไปทริปใหญ่ ๆ เลยนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการแพร่ระบาด เรื่องเงินก็ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจของพวกเขาสำหรับทริปที่จะไปในปีหน้า ส่วน 77% ของผู้เดินทางระบุว่าพวกเขา เปิดกว้างมากขึ้น และพร้อมท่องเที่ยวในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม 

และในปี 2565 เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้เดินทางพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ด้วยการนำเสนอตัวเลือกที่รองรับการจองในระหว่างการเดินทาง และความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผน โดย 75% ของผู้เดินทางมองหานวัตกรรมล้ำหน้าที่สามารถนำเสนอ "สิ่งที่เหนือความคาดหมาย" หรือตัวเลือกสุดเซอร์ไพรส์สำหรับประสบการณ์เดินทางรูปแบบใหม่ที่ระบบคัดเลือกขึ้นมาแนะนำ โดยอิงจากรูปแบบการเดินทางที่เคยเลือก หรืองบประมาณที่ใช้ในทริปที่ผ่านๆ มา เพื่อช่วยให้ผู้เดินทางไม่พลาดโอกาสที่จะได้เปิดหูเปิดตา และเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่

ยอมรับสิ่งที่คาดเดาไม่ได้

ความไม่แน่นอนของการเดินทางจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2565 โดยที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือปัญหาอะไรที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระหว่างทาง แต่ผู้คนก็พร้อมที่จะรับมือกับทุกสิ่ง โดยกว่า 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่า เทคโนโลยีช่วยคลายความกังวลในระหว่างเดินทางได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดหวังที่จะเห็นการใช้เทคโนโลยีเชิงพยากรณ์ที่แพร่หลายยิ่งขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้เดินทางมีข้อมูลเพียงพอสำหรับการตัดสินใจ โดย 83% ของผู้เดินทางสนใจในนวัตกรรมการให้บริการที่คาดการณ์รายชื่อประเทศที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางได้ แม้จะเป็นการคาดการณ์หลายเดือนล่วงหน้าก็ตาม และ 85% สนใจในเทคโนโลยีที่ช่วยแนะนำจุดหมายปลายทางที่เดินทางเข้าประเทศได้ง่าย ณ ปัจจุบันแบบอัตโนมัติ โดยอ้างอิงจากกฎข้อบังคับล่าสุดที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแต่ละประเทศ และจุดหมายปลายทาง 

 ถึงแม้ว่าการคาดการณ์จากแมชชีนเลิร์นนิงจะแม่นยำเพียงใด แต่การที่จะทำให้ทุกคนเปิดใจยอมรับชีวิตวิถีใหม่ที่แทบไม่มีอะไรแน่นอนเลยนั้น อุตสาหกรรมท่องเที่ยวควรจะร่วมมือกันให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาและมอบความยืดหยุ่นด้านการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว เพราะสิ่งที่ผู้เดินทางให้ความสำคัญมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ การที่มั่นใจว่าจะไม่เสียเงินไปเปล่า ๆ (33%) สามารถยกเลิกได้ (27%) และสามารถเลื่อนวันได้ฟรี (32%)  

นางสาวมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงของ Booking.com กล่าวว่า “ในขณะที่มองการณ์ไกลไปถึงวันข้างหน้า เรามองเห็นคลื่นของความตื่นตัว และความใจจดใจจ่อของผู้คนที่เฝ้ารอวันจะได้กลับไปเดินทางกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศก็ตาม หรืออาจจะเป็นความตื่นเต้นของการได้ตอบว่า 'ไปสิ' กับแผนการเดินทางตรงหน้า ไม่ว่าจะแผนเล็กหรือแผนใหญ่ ซึ่งเราจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยพันธกิจของเราที่มุ่งมั่นอำนวยความสะดวกให้ทุกคนได้ทำอย่างที่ใจต้องการได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น โดยเราพร้อมที่จะสนับสนุนผู้เดินทาง ด้วยการนำเสนอตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลายที่สุด คุ้มค่าคุ้มราคา ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการจองที่ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะทำการจองจากที่ไหน และอุปกรณ์ใดก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้คนได้ทวงคืนพลังจากการเดินทาง และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ท่องเที่ยวและสำรวจโลกกว้างที่มีคุณค่าและน่าจดจำกันอีกครั้ง”


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ครบรอบ 20 ปีในไทย ย้ำจุดยืนผู้นำ AI-IoT และ “Edge AI” ยกระดับ Smart Manufacturing, Smart City และ ESG สู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน AI, IoT และคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง ได้จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ...

Responsive image

ยกระดับบริการลูกค้าด้วย AI BOTNOI Voice บน AWS ช่วยองค์กรไทยสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

AWS ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS...

Responsive image

ดีอี ผนึก ‘อว.- ศธ.’ ร่วมมือ UNESCO นำเวที UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025

ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพงาน “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายใต้แนวคิด “Ethical Governance of AI in Motion” ย้ำบทบาทผู้นำจริยธรรม AI ระดั...