Buzzebees รุกตลาด Consumer Products ตอบโจทย์การสร้าง Loyalty แบบครบวงจร | Techsauce

Buzzebees รุกตลาด Consumer Products ตอบโจทย์การสร้าง Loyalty แบบครบวงจร

ในยุคดิจิทัล หลายองค์กรต่างก็พัฒนานำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาปรับใช้ในเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค หรือเซ็กเมนต์ของ Consumer Product ที่แบรนด์ต่างๆ เร่งหากลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ๆ ออกมาแข่งขัน รวมถึงทุ่มงบโฆษณาบนสื่อออฟไลน์และออนไลน์ คิดโปรโมชั่น ออกแคมเปญใหม่ๆ เพื่อมัดใจผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าของตน ซึ่งการทำตลาดรูปแบบนี้ นักมาร์เก็ตติ้งจำเป็นต้องทุ่มงบการตลาดเพื่อโปรโมทแคมเปญในทุกๆ ครั้งอยู่ตลอดเวลา นับเป็นการสูญเสียงบประมาณมูลค่ามหาศาล

การทำแพลตฟอร์ม Loyalty Program จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจ Consumer Product เพราะจะทำให้   แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาปัจจุบัน นักการตลาดเองไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ทั้งผู้บริโภค (End Consumer) และตัวแทนจำหน่าย (Dealer) เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของ Consumer Product โดย Buzzebees ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและได้พัฒนา Consumer Loyalty and Engagement Solution ให้กับธุรกิจนี้ ทำให้นักการตลาดสาย Consumer Product ได้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงของ End Consumer และ Dealer ในรูปแบบดิจิทัล

Buzzebees เริ่มจาก Tech Startup ผู้บุกเบิกและผู้นำในด้านการออกแบบพัฒนาแพลตฟอร์มด้าน Loyalty Program ตั้งแต่ปี 2012 ปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดด้าน CRM Privilege บนมือถือมากกว่า 90% และมีลูกค้าระดับองค์กรกว่า 60 แห่ง อาทิ ซัมซุง, น้ำดื่มสิงห์, มี้ด จอห์นสัน, ทรู คอฟฟี่, เบอร์เกอร์คิง, บางจาก, ซิตี้แบงก์, กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, ทีเอ็มบี, เอสเอ็มอีแบงก์, กรุงไทยแอกซ่า, อลิอันซ์ อยุธยา, ธนชาตประกันภัย เป็นต้น รวมถึงได้ขยายตัวออกไปยังตลาดต่างประเทศ 9 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย แอฟริกา กาน่า แคมมารูน และไอวอรี่โคสต์ และปัจจุบันได้ขยายโอเปอเรชั่นในตลาด AEC ใน 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

คุณณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Buzzebees กล่าวว่า “Buzzebees เป็นอันดับหนึ่งในด้าน Loyalty program ให้กับธุรกิจด้านประกัน และธุรกิจด้านการธนาคาร และมีแผนขยายธุรกิจด้านคอนซูเมอร์ เนื่องด้วยหลายแบรนด์เริ่มเข้าใจผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น ว่าต้องการสิ่งที่รวดเร็ว สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แบรนด์จึงต้องหันมาหากลยุทธ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้โดนใจ คุ้มค่า ซึ่งยุคนี้ใครเร็วใครรอด ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแบรนด์จึงควรมีแพลตฟอร์มเป็นของตนเองเพราะจะช่วยให้เข้าถึงและเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ทราบว่าคนนี้ชอบซื้อสินค้าอะไร เวลาไหน ช่วงเทศกาลหรือซื้อเป็นประจำ ชอบซื้อช่วงจัดโปรโมชั่น หรือช่วงเวลาราคาสินค้าปกติหรือไม่ เป็นต้น หรือที่เรียกว่า unstructured data ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ฐานข้อมูลที่รู้เพียงชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ครอบครัวมีกี่คน รายได้เท่าไหร่ ในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป”

นอกจากนี้ นวัตกรรมการพิมพ์โค้ดในรูปแบบต่างๆ บนแพคเกจจิ้ง สามารถตอบรับกับการสร้าง Loyalty Platform บนแพลตฟอร์มดิจิทัลของ Buzzebees ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้นักการตลาดสามารถเรียนรู้ได้ว่าใครเป็นกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง โดยที่แบรนด์ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบการตลาดมหาศาลในทุกๆ ครั้ง ยกตัวอย่างกรณีที่  แบรนด์นั้นๆ มีแพลตฟอร์มฐานลูกค้ารวมถึงมีระบบสะสมแต้มเป็นของตนเอง และจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่และอยากให้ผู้บริโภคอยากทดลอง ก็สามารถกระตุ้นยอดขายผ่าน  Loyalty Program บนมือถือได้ อาทิ ถ้าผู้บริโภคซื้อสินค้าใหม่ ภายในเดือนนี้ก็จะได้รับแต้มสะสมมากถึง 3 เท่า เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษมากมาย และยังมีสิทธิ์ลุ้นเข้าชมคอนเสิร์ตค่ายดัง ฟรี! เป็นต้น ซึ่งระบบสามารถกำหนดเวลาตั้งให้แจ้งเตือนลูกค้าบนแพลตฟอร์มได้ หรือถ้า     แบรนด์ต้องการกระตุ้นยอดขายในวันหรือช่วงเวลาที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ก็ย่อมทำบนระบบแพลตฟอร์มมือถือได้เช่นกัน โดยระบบสามารถจะจัดเก็บบันทึกของพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นรายบุคคล เพื่อเชื่อมโยงกับการออกแบบแคมเปญในครั้งถัดๆ ไป เพื่อให้แบรนด์มีผลตอบรับที่ดียิ่งขึ้น

คุณณัฐธิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับปี 2019 นี้ บัซซี่บีส์มีแผนที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับตลาด consumer product อย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัว platform ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2019 นี้เป็นต้นไป โดยจะเริ่มจาก Nestle และ Philips Lighting ซึ่งเป็น platform ที่พัฒนาบน LINE application ทำให้ใช้งานง่ายและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยก่อนหน้านี้ บัซซี่บีส์ได้พัฒนาและออกแบบให้กับ A+ Genius Baby ของมี้ด จอห์นสัน และ Singha Rewards ของน้ำดื่มสิงห์ ซึ่งแคมเปญต่างๆ บนแพลตฟอร์มสามารถกระตุ้นยอดขายได้เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ม.มหิดล ชูความสำเร็จผลงานนวัตกรรมวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี ชนิดเข็มเดียว เตรียมผลักดันออกสู่ตลาดโลก

โรคไข้เลือด เป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นในทุกประเทศเขตร้อนของโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายหรือยุงรำคาญเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน และในปัจจุบันมีประชากรประม...

Responsive image

ททท. ประกาศผู้ชนะ TAT Travel Tech Startup 2024 ทีม HAUP คว้าชัย ร่วมผลักดัน ท่องเที่ยวไทยกับ 11 ทีม Travel Tech

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลผู้ชนะโครงการ TAT Travel Tech Startup 2024 กิจกรรมบ่มเพาะและโจทย์ด้านการท่องเที่ยวสุดท้าทาย ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด WORLD...

Responsive image

ทำความรู้จักกับซิม IoT จาก SoftBank และ 1NCE จ่ายครั้งเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ปี

รู้จักซิมการ์ด IoT จาก 1NCE เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั่วโลกใน 173 ประเทศ ด้วยค่าใช้จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10 ปี เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันคุ้มค่าและจัดการง่าย...