Sneak Out หนีเที่ยว จัดเสวนาอนาคตท่องเที่ยวไทยภาครัฐและเอกชน พร้อมงานแฟร์ชวนหนีเที่ยว | Techsauce

Sneak Out หนีเที่ยว จัดเสวนาอนาคตท่องเที่ยวไทยภาครัฐและเอกชน พร้อมงานแฟร์ชวนหนีเที่ยว

บริษัท ไดรฟ์ ดิจิทัล จำกัด ผู้ประกอบกิจการธุรกิจสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว เจ้าของ Facebook Fanpage ‘Sneak Out หนีเที่ยว’ เพจท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามกว่า 2.6 ล้านคน ได้ร่วมมือกันกับบริษัท Doctor A to Z จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านการแพทย์ จัดงาน TLW ‘Travel, Lifestyle & Wellness Expo คลิกเดียว เที่ยวทั่วไทย’ 

โดยโครงการนี้เป็นโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ กระตุ้นการท่องเที่ยวและยอดขาย ผ่านการประชาสัมพันธ์การจัดจำหน่ายบัตรกำนัล (Voucher) และข้อเสนอพิเศษ (Deal) ให้ผู้ประกอบกิจการต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมและที่พัก ภัตตาคาร ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ยานพาหนะ เช่น ตั๋วเครื่องบิน รถนำเที่ยว บริษัทนำเที่ยว ตลอดจนธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว 

ทางคณะผู้จัดงานได้ตระหนักถึงความสำคัญในมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว อันเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก โดยมีการนำเทคโนโลยี ‘ปรึกษาหมอออนไลน์’ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงาน ผ่านการรวบรวมหมอจิตอาสา ให้บริการ ‘ปรึกษาโควิดฟรี’ จาก Doctor A to Z  โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมีระยะเวลาให้บริการตั้งแต่วันนี้ จนถึงสิ้นปี 31 ธันวาคม 2563 

แคสเปอร์-ธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน ตัวแทนผู้จัดงานและประธานที่ปรึกษาบริษัท ไดรฟ์ ดิจิทัล จำกัด กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า “ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ทางบริษัทฯ เองก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะธุรกิจหลักของเราคือการเป็นสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันเราก็ได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ว่าไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายย่อย ต่างก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทางทีมจึงเล็งเห็นว่าเราควรใช้สื่อที่มีอยู่แล้วในมือ อย่าง ‘Sneak Out หนีเที่ยว’ เพจท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามกว่า 2.6 ล้านคน ตลอดจนเพจพันธมิตร Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่ และหมีมีหม้อ เป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เป็นอีกวิธีที่เราสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ในสถานการณ์แบบนี้”

ภายใต้งาน ‘Travel, Lifestyle & Wellness Expo’ ทางผู้จัดได้ใช้ความกรอบความคิดที่ว่า “ต้องช่วยพยุงเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็ต้องปลอดภัย” จึงได้ทำงานร่วมกับทาง Doctor A to Z เพื่อที่จะมอบบริการปรึกษาหมอฟรี หากมีข้อสงสัยหรือมีความเสี่ยงอันมาจากเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และใช้รหัสที่ได้จากการเข้าร่วมงานนี้ เข้ารับบริการปรึกษาหมอฟรี อีกทั้งหากพบว่าผู้เข้ารับบริการอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ก็จะมีระบบติดตาม (Tracking) ที่ชัดเจน สามารถส่งต่อให้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ในทันที

ทางบริษัท ไดรฟ์ ดิจิทัล จำกัด ยังได้ทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เป็นผู้ให้ความสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ ผ่านการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการ มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA)  ให้กับผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อที่จะสร้าง “Trusted Thailand” อันเป็นจุดมุ่งหมายในครั้งนี้

งาน Travel, Lifestyle & Wellness Expo จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2563 โดยในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 วันแรกของการจัดงาน ได้มีการจัดการเสวนาขึ้นใน 2 หัวข้อ โดยมีคุณบอส-จักรพันธ์ วงศ์คณิต เป็นผู้ดำเนินการเสวนาในครั้งนี้

หัวข้อแรกเป็นการเสวนาในเรื่อง “New Normal ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการปรับตัวในยุคหลังโควิด” โดยคุณศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนผู้ประกอบจากภาคธุรกิจต่างๆ อาทิ คุณชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด, คุณอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ ผู้ประกอบการที่พัก เจ้าของ แพ 500 ไร่ ทะเลสาบเชี่ยวหลาน และตัวแทนสภาอุตสาหกรรมการการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี และคุณภูมิ นวสิทธิโสภณ ผู้บริหารบริษัท ไดรฟ์ดิจิทัล เจ้าของเพจ Sneak out หนีเที่ยว สื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์

การเสวนาในหัวข้อนี้พูดถึงภาพรวมของการท่องเที่ยว และผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตโควิด ด้านท่านรองฯ ศิริปกรณ์ ให้ความเห็นว่า “จากวิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทางททท. ก็ได้มีความกังวล เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์นี้รุนแรงมาก แต่จากการส่งแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค ถึงการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด พบว่ากว่า 80% ยังยืนยันแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่ โดยมักเลือกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ขณะเดียวกัน จากวิกฤตโควิดที่ได้ส่งผลกระทบให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันหลายอย่าง รวมไปถึงจากเดิมที่ต้องเข้าไปทำงานในออฟฟิศ ตอนนี้สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ซึ่งจากการ Work from Home นี้ทำให้ทำให้วันธรรมดาสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้เหมือนกัน เป็นการท่องเที่ยวไป ทำงานไป ซึ่งสอดคล้องสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ และจาก Work from Home นี้ ถ้าททท. ก็ได้มีแคมเปญ ‘Work from Heart’ แคมเปญบอกรักเมืองไทย เพราะเราเห็นว่าหลายคนทำงานด้วยใจ ยังรักษามาตรฐานรอท่านให้มาเยือน ยังรอการสนับสนุนจากทุกท่านอยู่”

ด้านความคิดเห็นของผู้ประกอบการ คุณอติรัตน์ กล่าวว่า “ความมั่นใจของผู้โดยสารกลับมาเร็วมากๆ เพราะในระหว่างที่สายการบินหยุดบิน ก็ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของผู้โดยสาร โดยมีความคิดเห็นตรงกันว่าต้องการความมั่นใจมากที่สุด ทางไทยสมายล์ก็เลยเพิ่มมาตรการ Perfect Hygine เพื่อให้ทั้งผู้โดยสารและลูกเรือมีความมั่นใจ เป็นเที่ยวบินปลอดภัย แต่ทั้งนี้มองว่าวิกฤตนี้จะผ่านไปได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และผู้บริโภคเช่นกัน”

โดยจากผลกระทบในข้างต้นนั้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องคิดมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยคุณอติรัตน์ เจ้าของแพ 500 ไร่ มองว่า “ในระหว่างที่เกิดวิกฤตนี้ขึ้น ทางผู้ประกอบการต่างๆ ได้ใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุงและพัฒนากิจการให้ดีขึ้น โดยตนเชื่อว่าโควิดจะผลักดันให้มีการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆ เพราะนักท่องเที่ยวต้องการอะไรที่แปลกใหม่ และแน่นอนว่าต้องมาคู่กับความปลอดภัย ทางผู้ประกอบการเองก็ต้องพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น จากเดิมมองฐานลูกค้าเป็นต่างชาติ ตอนนี้ก็ต้องหันมามองคนในประเทศ ต้องนำเสนอสินค้าที่ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ด้วยข้อจำกัดเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศ ตลอดจนรูปแบบวิธีชีวิตเปลี่ยนไป จึงต้องค้นหาวิธีเจาะเข้าสู่ใจของผู้บริโภคให้ได้”

ซึ่งตรงกับความคิดเห็นของคุณภูมิ ว่า “จากเดิมกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย กว่า 2 ใน 3 นั้นเป็นชาวต่างชาติ พอเกิดวิกฤตนี้ขึ้นทางผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัว ต้องมาดูว่าเราพร้อมกับตลาดในไทยหรือยัง ต้องค้นหาวิธีที่จะครองใจคนไทยให้ได้ จะทำอย่างไรให้มีรายได้เท่าเดิม ต้องค้นหาว่าอะไรคือ ‘ความคุ้มค่า’ ที่ผู้บริโภคต้องการ โดยทั้งหมดต้องเป็นแผนที่จะกระตุ้นในระยะยาวเพื่อความมั่นคง ไม่ใช่แค่เดือนสองเดือนเท่านั้น” 

ด้านหัวข้อที่สอง เป็นการเสวนาในหัวข้อ “Trusted Thailand: SHA, Cashless Society, Teleconsult และเทคโนโลยีเชิงประยุกต์” โดยคุณรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว (ททท.), นายแพทย์อนุชา พาน้อย ผู้บริหารบริษัท Start Up ด้าน Health & Wellness ผู้ให้บริการ Platform Doctor A to Z และคุณศรัญ หวังธรรมมั่ง VP, Payments Product Solution & Managment Division Retail Payment Function ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) แลกเปลี่ยนในมิติเทคโนโลยีที่เป็นจะเป็นช่วยในการสร้าง Trusted Thailand กับสายตานักท่องเที่ยว

การเสวนาในหัวข้อนี้ เริ่มต้นที่การพูดคุยในเรื่องของ ‘SHA’ อันเป็นมาตรฐานใหม่ของการท่องเที่ยวที่ริเริ่ม และดำเนินการโดยททท. โดยคุณรุจิรัศมิ์ กล่าวว่า “ผู้ประกอบการต่างๆ สามารถสมัครเพื่อเข้ารับการประเมินมาตรฐาน SHA ได้ หากผ่านก็จะได้รับตราสัญลักษณ์ โดยเป็นมาตรฐานที่ทำให้ทั้งผู้ประกอบการ และผู้บริโภคมีความมั่นใจ และสบายใจมากขึ้น เพราะผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ความสะดวกสบายเท่านั้น ความสะอาดและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในลำดับต้นๆ ในวิกฤตครั้งนี้ จึงอยากให้ผู้ประกอบการคำนึงและมีร่วมมือกัน เพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยง”

นอกหนือไปจากนี้ ยังได้พูดคุยกันถึงเรื่อง ‘Healthcare’ ที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยนายแพทย์อนุชา ได้กล่าวว่า “ช่วงสถานการณ์โควิด หลายคนมีความวิตกกังวลว่าตนจะติดเชื้อไหม เลยได้ระดมแพทย์อาสามาให้คำปรึกษาโควิดฟรี ผ่านการสแกน QR Code ทำให้การแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เป็นการต่อยอดจากมาตรฐาน SHA ให้คนที่มีความเสี่ยงสามารถปรึกษาหมอได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

ด้านคุณศรัญ ตัวแทนจากผู้ให้บริการทางการเงินอย่างธนาคารไทยพาณิชย์นั้น ให้ความเห็นในเรื่องของเทคโนโลยีการชำระเงินว่า “เทคโนโลยีการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส (Contactless) นั้นมีมาสักระยะแล้ว แต่จากวิกฤตโควิดที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าตัวเลขของผู้ใช้บริการเยอะขึ้นเป็นสองเท่า เพราะเงินสดเป็นสื่อหนึ่งในการส่งต่อเชื้อโรค และมองว่าในอนาคตจะไม่ได้หยุดแค่มือถือ แต่จะรวมไปถึงนาฬิกา และสายรัดข้อมืออีกด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดสัมผัส และลดการส่งต่อเชื้อโรคแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายอีกด้วย”

โดยทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการท่องเที่ยว ตลอดจนมุมมองในการสร้าง ‘Trusted Thailand’

ส่วนระบบในการจัดจำหน่ายบัตรกำนัล (Voucher) และข้อเสนอพิเศษ (Deal) ในงาน Travel, Lifestyle & Wellness ครั้งนี้ จะเป็นการจัดจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.sneaksdeal.com อันเป็นช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัท ไดรฟ์ ดิจิทัล จำกัด โดยการสมัครเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ทางผู้ประกอบการไม่ต้องชำระค่าสมัคร และค่าคอมมิชชั่น (Commission Fee) หรือค่าธรรมเนียมการวางขายในโครงการแต่อย่างใด อันเป็นผลมาจากวัตถุประสงค์ของผู้จัดงานตามที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น คือการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และอำนวยความสะดวกเพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทย

ทางผู้จัดงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วน และจะนำไปต่อยอดในการช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศต่อไป

ติดตามชมคลิปย้อนหลังของงานเสาวนาได้ที่ https://web.facebook.com/sneakoutclub/videos/206956187370248/

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

KBank-Orbix Tech จับมือ ptt พัฒนานวัตกรรมใหม่บน Blockchain สำหรับออกตราสารหนี้

KBank-Orbix Tech จับมือ ptt ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรมรูปแบบใหม่บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) สำหรับธุรกรรมทางการเงินในการออกตราสารหนี้...

Responsive image

KCE เปิดบ้านรับ BOI และคณะผู้ประกอบการกว่า 36 องค์กร ชมการผลิตแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์

KCE จัดเปิดบ้านต้อนรับบีโอไอและคณะผู้ประกอบการ 36 องค์กร เยี่ยมชมกระบวนการผลิตแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์...

Responsive image

ICONSIAM x TikTok ดัน Thai Soft Power สู่เวทีโลก

ไอคอนสยาม ผนึกกำลัง TikTok สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผลักดัน Thai Soft Power สู่เวทีโลก...