HIVE GROUND สตาร์ทอัพ Agritech จับมือ ยนต์ผลดี ลุยโมเดลนาข้าวอัจฉริยะ ปั้นคนเกษตรพันธุ์ใหม่ สร้างเกษตรมูลค่าสูง | Techsauce

HIVE GROUND สตาร์ทอัพ Agritech จับมือ ยนต์ผลดี ลุยโมเดลนาข้าวอัจฉริยะ ปั้นคนเกษตรพันธุ์ใหม่ สร้างเกษตรมูลค่าสูง

ไฮฟ์กราวนด์ (HIVE GROUND) จับมือ ยนต์ผลดี ลุยโมเดลนาข้าวอัจฉริยะ ปั้นคนเกษตรพันธุ์ใหม่ สร้างเกษตรมูลค่าสูง

HIVE GROUND

 ไฮฟ์กราวนด์ เทค สตาร์อัพ สัญชาติไทย จับมือ ยนต์ผลดี บูรณาการเกษตรดั่งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่และหลักบริหารธุรกิจ หนุนเกษตรกรไทยผลิกฟื้นสังคมเกษตรแบบเก่าสู่โมเดลธุรกิจ Agritech สู่การเกษตรแม่นยำ “ทำน้อยแต่ได้มาก” ปั้นคนเกษตรรุ่นใหม่ ดึงคนรุ่นใหม่กลับบ้านเกิด สร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่ ดันไทยสู่ผู้นำเทคโนโลยีการเกษตรโลก 

นำร่องโมเดลสาธิตนาข้าวอัจฉริยะ 35 ไร่ ใน ต.หนองกรด จ.นครสวรรค์ ใช้เทคโนโลยีโดรน วิเคราะห์พื้นที่ วางแผนการเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตสูงสุด และดูแลพ่นปุ๋ย กำจัดศัตรูพืชพร้อมเทคโนโลยีเพาะปลูกดูแลอัตโนมัติ และโซล่าเซลล์ เปิดเกษตรกรเข้ามาเรียนรู้ ตั้งเป้ามีผู้ศึกษาเข้าชมงานกว่า 750 ครอบครัวในปีแรก พร้อมต่อยอดนำโดรน ออกให้บริการชุมชนฟรี  และเปิดให้เช่าโดรนเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรไทยเข้าถึงเทคโนโลยีการเกษตรได้ง่ายขึ้น

 ดร.ศิริชัย พรสรายุทธ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไฮฟ์กราวนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่ประชากรไทยครึ่งหนึ่งทำเกษตรกรรมประกอบกับภาคการเกษตรมีบทบาทสำคัญต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากแต่ที่ผ่านมาการเกษตรเผชิญอุปสรรคด้านสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน และศัตรูพืช ทำให้ผลผลิตมีปริมาณและคุณภาพลดลง 

ส่งผลให้การเกษตรสมัยใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน หรือ Agritech กลายเป็นโอกาสและทางรอด เพื่อนำมาบูรณาการเข้ากับการเกษตรแบบดั่งเดิมต่อยอดด้วยหลักการบริหารธุรกิจ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ผู้นำเทคโนโลยีการเกษตรของโลก ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน  ไฮฟ์กราวนด์ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ บริษัท ยนต์ผลดี จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสีข้าวครบวงจรที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย 

ซึ่งรับความไว้วางใจจากโรงสีข้าวและโรงปรับปรุงคุณภาพข้าวชั้นนำทั่วประเทศไทยและต่างประเทศ ดำเนินการโมเดลสาธิตนาข้าวอัจฉริยะนำร่องปีแรกบนเนื้อที่ 35 ไร่ ในพื้นที่ตำบลหนองกรด จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเปลี่ยนประสบการณ์สำหรับเกษตรกร ตั้งเป้ามีผู้ศึกษาเข้าชมงาน เรียนรู้ ผ่านโมเดลสาธิตนาข้าวอัจฉริยะกว่า  750 ครอบครัว แบ่งเป็นเกษตรกรที่เข้าศึกษาดูงาน 250 ครอบครัว และให้บริการชุมชนด้วยไทเกอร์โดรน 500 ครอบครัวในปีแรก

HIVE GROUND

โดยจะมีการนำโดรน Vespa Hex เข้ามาบนวิเคราะห์พื้นที่ ร่วมวางแผนการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด พร้อมกับนำโดรน TIGERDRONE โดรนการเกษตรช่วยดูแลจัดการด้านการพ่นปุ๋ยและกำจัดศัตรูพืช ตามระยะเวลาการเพาะปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีแรกจะเริ่มด้วยการสำรวจระดับพื้นที่ด้วยโดรนสำรวจ เพื่อสร้างฐานข้อมูล หลังจากนั้นใช้โดรนฉีดพ่นปุ๋ยตามระยะการปลูก และช่วยในการกำจัดศัตรูพืช ทดแทนแรงงานที่ขาดแคลนในภาคการเกษตรซึ่งจะช่วยให้การทำนาประหยัดและง่ายขึ้น ซึ่งในระหว่างที่ดำเนินการแปลงสาธิต จะนำโดรนออกออกไปให้บริการชุมชนในพื้นที่ ต.หนองกรด ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

“การจับมือกันครั้งนี้เป็นจุดเริ่มของการนำเอาองค์ความรู้ ความชำนาญของทั้งสองบริษัทมาร่วมกันพัฒนาต่อยอด สร้างโมเดลธุรกิจเกษตรรูปแบบใหม่ Agritech โดยจะเป็นสนามเรียนรู้พัฒนาต่อยอดสู่ “เกษตรแม่นยำ” หรือ Precision Agriculture นำเอาเทคโนโลยีและการจัดการข้อมูลมาใช้ในการบริหารจัดการทางการเกษตรให้มีความเหมาะสมและแม่นยำขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยการผลิต ทำให้ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตทั้งปริมาณและคุณภาพ รวมถึงใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและรักษาสภาพแวดล้อม พร้อมได้ผลผลิตที่มากขึ้น ต้นทุนที่ลดลง สร้างรายได้ที่มากขึ้นให้กับภาคเกษตรกรนำไปสู่การสร้างเสถียรภาพที่มั่นคงในเชิงเศรษฐกิจมหภาค” ดร.ศิริชัยกล่าวทิ้งท้าย

ดร.กานต์ จิตสุทธิภากร ผู้อำนวยการหลักสูตร การบริหารจัดการโรงสีข้าวทันสมัย และ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยนต์ผลดี จำกัด เปิดเผยว่า “โรงเรียนโรงสี” เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ประสบการณ์ในด้านการผลิตเครื่องจักรสีข้าว โรงสีข้าว ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี และเพื่อสร้างเครือข่ายโรงสีข้าวชุมชนและเอกชนทั่วประเทศไทยให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน นอกจากกระบวนการสีข้าวที่ดีแล้ว 

หัวใจสำคัญที่จะทำให้ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมข้าวมีมูลค่ามากขึ้น คือวัตถุดิบข้าวเปลือกที่มีคุณภาพจากเกษตรกร การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เป็นตัวแปรสำคัญในการช่วยยกระดับความแม่นยำในการปลูกเพื่อนำมาซึ่งผลผลิตปริมาณสูงที่มีคุณภาพดี ซึ่งจังหวัดนครสวรรค์ เป็นจังหวัดที่ปลูกข้าวเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีพื้นที่ปลูกมากที่สุด จำนวน 2,410,166 ไร่มี มีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรที่ปลูกข้าว จำนวน 97,873 ครัวเรือน 

“ความร่วมมือนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมข้าวไทยให้ก้าวข้ามอุปสรรคการทำการเกษตรแบบเดิมที่แปรผันไปตามสภาพอากาศ ไปสู่การทำงานเกษตรแม่นยำสูง ให้ผลผลิตคุณภาพ ในปริมาณที่สูงขึ้น เป็นการเกษตรมูลค่าสูง ช่วยสร้างความมั่งคั่ง ยั่งยืนให้กับเกษตรกรและเศรษฐกิจประเทศไทย รักษาความเป็นผู้นำด้านการเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าการเกษตรคุณภาพสูงอันดับต้น ๆ ของโลก พร้อมทั้งดึงเอากลุ่มคนรุ่นใหม่ ลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านเกิด ช่วยกันต่อยอดอาชีพเกษตรกร ด้วยการผสานองค์ความรู้ดั่งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีและหลักกการบริหาร สร้างนักธุรกิจเกษตรรุ่นใหม่ พาประเทศก้าวเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเกษตรของโลก”

RELATED ARTICLE

Responsive image

Tesla รามคำแหง ศูนย์บริการแห่งแรกในไทย พร้อมให้บริการครบวงจร กรกฎาคม 2566 นี้

Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลกเตรียมเปิดศูนย์บริการ Tesla แห่งแรกในประเทศไทย ขยายสถานี Supercharging เพิ่มเติม และเปิดบริการศูนย์ซ่อมรถ Tesla โดยศูนย์บริการ Tesla แห่งใหม่...

Responsive image

THAILAND HR TECH 2023 14-15 มิถุนายนนี้ รอยัลพารากอน ฮอล์ล ชั้น 5 สยามพารากอน

Thailand HR Tech 2023: Everything Everywhere Augmented รวมเอา ธุรกิจ - คน - และ เทคโนโลยี เข้าไว้ด้วยกัน เชิญชวน “คนทำงาน” ทุกสาขาอาชีพ จากทุกอุตสาหกรรมมาร่วมรับ ประสบการณ์ และสัมผ...

Responsive image

INNOPOWER ตั้งกองทุน Energy Ignition Ventures EV Charger และ Renewable Energy Certificate (REC)

กลุ่มบริษัท กฟผ. ดัน INNOPOWER ขับเคลื่อน Roadmap Energy Transition เปลี่ยนผ่านไทยสู่ยุคนวัตกรรมพลังงาน...