การสำรวจของสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBV) ชี้ผู้บริหารระดับสูงของไทยกำลังวางแผนที่จะลงทุนในแพลตฟอร์มไฮบริดมัลติคลาวด์ (hybrid multi-cloud platform) เพื่อขับเคลื่อนทรานส์ฟอร์เมชันและปลดล็อกคุณค่าทางธุรกิจ โดย IBV ได้สำรวจผู้บริหารทั่วโลกกว่า 6,000 รายในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงผู้บริหารไทย 100 ท่าน เพื่อทำความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งานระบบไฮบริดมัลติคลาวด์ในปัจจุบัน รวมถึงแนวทางในการจัดการระบบมัลติคลาวด์ เพื่อจัดทำเป็นรายงาน ‘ข้อได้เปรียบของแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์: ดาวที่ส่องนำทางองค์กรไทยไปสู่ทรานส์ฟอร์เมชัน’
ร้อยละ 20 ของผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทย เปิดเผยว่าได้จัดสรรค่าใช้จ่ายด้านไอทีของตนไว้สำหรับระบบคลาวด์ โดยมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้จ่ายเกี่ยวกับไฮบริดคลาวด์จากร้อยละ 44 ในปัจจุบันเป็นร้อยละ 49 ภายในปี 2566 ทั้งนี้ งบประมาณด้านคลาวด์ส่วนใหญ่จะถูกจัดสรรให้กับแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ และมีการตั้งเป้าที่จะลดค่าใช้จ่ายในด้านพับลิคคลาวด์ (public cloud) ลงจากร้อยละ 42 ในปัจจุบันให้เหลือเพียงร้อยละ 39 ภายในปี 2566 ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นการเติบโตของคลาวด์ในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่จะเป็นการเติบโตในแง่จำนวนคลาวด์ที่ใช้ ซึ่งอาจเพิ่มไปถึง 11 แห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการประกันภัย โทรคมนาคม ค้าปลีก ธนาคาร และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล่านี้จะขยายการใช้งานระบบมัลติคลาวด์อย่างต่อเนื่องในอีกสามปีข้างหน้า
นอกจากนี้ การศึกษายังยืนยันถึงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของการใช้แพลตฟอร์ม โดยผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า คุณค่าที่ได้รับจากการนำเทคโนโลยีแพลตฟอร์มไฮบริดมัลติคลาวด์และโมเดลปฏิบัติการมาใช้ในวงกว้าง มากกว่าคุณค่าที่ได้จากแพลตฟอร์มเดียวบนระบบคลาวด์เดียว ถึง 2.5 เท่า โดยรูปแบบการใช้งานแบบแพลตฟอร์มถูกมองว่าจะเป็นตัวเร่งการสร้างคุณค่าในวงกว้าง
คุณกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคลาวด์และโซลูชันค็อกนิทิฟ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจว่า “การนำระบบคลาวด์มาใช้คือหัวใจสำคัญในการพัฒนาโมเดลธุรกิจแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ระบบไฮบริดมัลติคลาวด์จะเป็นตัวช่วยพื้นฐานที่สำคัญของโมเดลปฏิบัติการขององค์กรต่างๆ ช่วยให้องค์กรเริ่มต้นการเดินทางสู่การเป็นองค์กรแบบค็อกนิทิฟในอนาคต นอกจากนี้ ระบบไฮบริดคลาวด์ยังช่วยเสริมการดำเนินงานทางธุรกิจและเพิ่ม ROI ให้สูงยิ่งขึ้น เหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ดังตัวอย่างของธุรกิจชั้นนำต่างๆ ที่สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้สำเร็จด้วยการใช้แพลตฟอร์มการจัดการแบบไฮบริดคลาวด์ รวมถึงแพลตฟอร์มการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ”
“ในประเทศไทย ธุรกิจชั้นนำประสบความสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแพลตฟอร์มไฮบริดมัลติคลาวด์ที่พร้อมมากับเอไอ ไอบีเอ็มทุ่มเทอย่างมากกับการสร้างระบบไฮบริดคลาวด์ที่มีความปลอดภัย ทำงานเชื่อมโยงกันได้ เปิดกว้าง และเป็นอิสระจากพันธนาการในเรื่อง vendor lock-in” คุณกิตติพงษ์เสริม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด