CISCO เผยโฉมนวัตกรรมล่าสุด รวมถึง Cisco Silicon One สถาปัตยกรรมซิลิคอนสำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ CISCO ยังได้เปิดตัว Cisco 8000 Series ซึ่งเป็นเราเตอร์ระดับผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก (The world’s most powerful carrier class router) ขับเคลื่อนด้วยซิลิคอนดังกล่าว รวมถึงทางเลือกในการจัดซื้ออุปกรณ์รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานเทคโนโลยีภายใต้โมเดลธุรกิจแบบแยกส่วนได้ (Disaggregated business model)
คุณชัค ร็อบบินส์ ประธานและซีอีโอของ CISCO กล่าวว่า “การสร้างสรรค์นวัตกรรมจำเป็นต้องอาศัยการลงทุนที่ชัดเจนและแน่วแน่ รวมถึงทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของจินตนาการ CISCO มุ่งมั่นทุ่มเทในการพัฒนา เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเพื่อสร้างอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่สำหรับยุค 5G โซลุชั่นนวัตกรรมล่าสุดของเราในด้านซิลิคอน ออปติก และซอฟต์แวร์ เป็นผลงานจากความพยายามในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราก้าวล้ำเหนือคู่แข่ง สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และเหนือชั้นสำหรับลูกค้าและผู้ใช้ทั่วไปในทศวรรษหน้า”
ในทศวรรษหน้า ประสบการณ์ดิจิทัลจะถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ไม่ว่าจะเป็น Virtual Reality, Augmented Reality, สตรีมมิ่ง 16K, AI, 5G, ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing), ระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่สามารถปรับเปลี่ยนและคาดการณ์ล่วงหน้า, IOT แบบอัจฉริยะ หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จะถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นในอนาคต แอพพลิเคชั่นรุ่นอนาคตเหล่านี้จะก่อให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่ในปัจจุบันจะสามารถรองรับได้
ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา CISCO ได้ผลักดันกลยุทธ์ทางด้านเทคโนโลยีในการสร้างอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จด้านธุรกิจในอนาคตในโลกดิจิทัลที่ก้าวล้ำ กลยุทธ์ดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหาที่ยากลำบากที่สุดที่เกิดขึ้นจากดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ซึ่งเกินขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในปัจจุบัน กลยุทธ์ที่ว่านี้จะนำไปสู่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตรุ่นใหม่ที่ผสานรวมสถาปัตยกรรมซิลิคอนรูปแบบใหม่ของ CISCO เข้ากับเทคโนโลยีออปติกแห่งอนาคต กลยุทธ์ของ CISCO จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางด้านเศรษฐกิจสำหรับการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อรองรับความต้องการของแอพพลิเคชั่นดิจิทัลในอนาคต และจะช่วยให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพบนเครือข่ายที่ใช้งานสะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่ากลยุทธ์ของ CISCO มุ่งเน้นการพัฒนาและการลงทุนในเทคโนโลยีหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ซิลิคอน ออปติก และซอฟต์แวร์
คุณเดวิด เกอเคเลอร์ รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยของ CISCO กล่าวว่า “การขยายขอบเขตการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้ไกลเกินกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบันคือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอนาคต เราเชื่อว่าซิลิคอน ออปติก และซอฟต์แวร์คือเทคโนโลยีหลักที่ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ดังกล่าว กลยุทธ์ทางด้านเทคโนโลยีของ CISCO ไม่ได้มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่จริงแล้ว ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราได้ลงทุนในเทคโนโลยีที่หลากหลายซึ่งจะถูกรวมเข้าด้วยกันในอนาคต และในท้ายที่สุดแล้ว จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาที่ยากที่สุดสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลที่เหนือชั้น กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้เกิดโครงการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับ CISCO”
Cisco Silicon One จะเป็นรากฐานของกลุ่มผลิตภัณฑ์เราติ้งของ CISCO ในอนาคต โดยในระยะแรกจะให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด 25 เทราบิตต่อวินาที (Tbps) ทั้งนี้ Cisco Silicon One เป็นชิปสำหรับอุปกรณ์เครือข่ายรุ่นแรกสุดในอุตสาหกรรมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น ตอบสนองความต้องการของตลาดผู้ให้บริการและ Web-Scale ชิปดังกล่าวออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์มทั้งแบบตายตัวและแบบโมดูลาร์ สามารถจัดการความต้องการที่ท้าทายที่สุดในแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน โดย Cisco Silicon One รุ่นแรก นั่นคือ ‘Q100’ มีประสิทธิภาพด้านเราติ้งสูงเกินกว่า 10 Tbps สำหรับแบนด์วิธเครือข่าย โดยไม่บั่นทอนขีดความสามารถด้านการตั้งค่า บัฟเฟอร์ การประหยัดพลังงาน การปรับขนาด หรือความยืดหยุ่นของฟีเจอร์
โดยทั่วไปแล้ว ซิลิคอนหลายชนิดที่มีความสามารถแตกต่างกันถูกใช้งานอยู่ตามจุดต่างๆ บนเครือข่าย และแม้กระทั่งในอุปกรณ์เครื่องเดียวกัน ดังนั้นการพัฒนาและทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ จึงอาจต้องใช้เวลานานและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ ซิลิคอนแบบครบวงจรที่สามารถตั้งค่าได้จะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมาก ทั้งยังเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอบริการใหม่ๆ อีกด้วย
คุณอามิน วาห์ดัท ผู้เชี่ยวชาญและรองประธานฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานระบบของ Google Cloud กล่าวว่า “เราพร้อมที่จะร่วมมือกับ CISCO สำหรับการรุกเข้าสู่ตลาดเราติ้งซิลิคอนระดับไฮเอนด์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเครือข่ายรุ่นใหม่ ทั้งในเรื่องความเร็วและความจุที่มากกว่า”
คุณนาจาม อาหมัด, รองประธานฝ่ายวิศวกรรมเครือข่ายของ Facebook กล่าวว่า“ Facebook เป็นผู้สนับสนุนการทำงานของเน็ตเวิร์กที่แยกเป็นสัดส่วน (network disaggregation) และอีโคซิสเต็มแบบเปิด (open ecosystem) เราได้เริ่มโครงการสำคัญเช่น Open Compute Project และ Telecom Infrastructure Project เพื่อทรานส์ฟอร์มอุตสาหกรรมเครือข่าย สถาปัตยกรรม Silicon One ใหม่ของ CISCO สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเรา และเราเชื่อว่าโมเดลนี้จะนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย และยืดหยุ่นสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายผ่านแนวทางที่แยกเป็นสัดส่วน (Disaggregated Approach) ได้เป็นอย่างดี”
คุณเรย์ โมโต ซีอีโอและหัวหน้านักวิเคราะห์ของ ACG Research กล่าวว่า “CISCO กำลังพลิกโฉมองค์กรของตนเองและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจสำหรับการขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ต โดยสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เหนือชั้นทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ออปติก และซิลิคอน เพื่อช่วยให้ลูกค้าจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้นสำหรับการทำงานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ในอนาคต ขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2563 การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจ”
Cisco 8000 series เป็นแพลตฟอร์มแรกที่ขับเคลื่อนด้วย Cisco Silicon One Q100 ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการและบริษัท Web-Scale ลดค่าใช้จ่ายในการสร้างและบริหารจัดการเครือข่ายขนาดใหญ่สำหรับ 5G, AI และ IOT โดยคุณสมบัติที่สำคัญมีดังนี้:
• ปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับ 400 Gbps ขึ้นไป โดยเริ่มต้นที่ 10.8 Tbps ในเครื่องแบบแร็คเดียว
• ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเครือข่ายรุ่นใหม่ Cisco IOS XR7 ซึ่งเหมาะกับระบบคลาวด์ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
• ประกอบด้วยระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่เหนือกว่า ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เพื่อปกป้องระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่ง
• ผู้ให้บริการจะสามารถปรับขนาดแบนด์วิธและตั้งค่าได้ง่ายดายมากขึ้น เพื่อเพิ่ม Tbps แม้กระทั่งในจุดที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และพลังงานมากที่สุดบนเครือข่าย
CISCO ทำงานร่วมกับลูกค้ารุ่นบุกเบิกการใช้งานและทดลอง Cisco 8000 Series โดย STC ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือเป็นลูกค้ารายแรกที่ปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ โดยยังมีผู้ให้บริการโทรคมนาคมทดลองอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Comcast และ NTTCom ออปติกสำหรับ 400G ขึ้นไป
การสร้างอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ที่สามารถรองรับนวัตกรรมดิจิทัลในอนาคตจำเป็นต้องอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทางด้านซิลิคอนและออปติกอย่างต่อเนื่อง CISCO มีความพร้อมเหนือกว่าบริษัทอื่นๆ เพราะมีความเชี่ยวชาญและทรัพย์สินทางปัญญาที่แข็งแกร่งในเทคโนโลยีทั้งสองส่วนนี้
เนื่องจากอัตราพอร์ตเพิ่มขึ้นจาก 100G เป็น 400G ขึ้นไป ดังนั้นออปติกจึงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมากในภาระต้นทุนสำหรับการสร้างและจัดการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต CISCO ได้ดำเนินการลงทุนและพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าขณะที่อัตราพอร์ตของเราเตอร์และสวิตช์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง CISCO จะนำเสนอเทคโนโลยีออปติกที่รองรับมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดของอุตสาหกรรมทั้งในด้านคุณภาพและเสถียรภาพ
โครงการรับรองคุณภาพของ CISCO ช่วยให้แน่ใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ออปติกของบริษัทฯ มีคุณสมบัติสอดคล้องตามมาตรฐานอุตสาหกรรมในทุกสภาวะการใช้งานและสามารถใช้งานได้กับโฮสต์ “ทั้งหมด” รวมถึงโฮสต์ที่ไม่ใช่ของ CISCO ภายใต้โครงการดังกล่าว ลูกค้าจะสามารถใช้ออปติกของ CISCO ในจุดที่มีการติดตั้งโฮสต์ที่ไม่ใช่ของ CISCO และมั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่าออปติกดังกล่าวจะเป็นไปตามมาตรฐานด้านเสถียรภาพและคุณภาพอย่างที่ลูกค้าพึงคาดหวังจากเทคโนโลยีของ CISCO
นอกจากนี้ ขณะที่เทคโนโลยีด้านซิลิคอนและ Silicon Photonics มีความก้าวหน้ามากขึ้น ฟังก์ชั่นที่เดิมต้องอาศัยโซลูชั่นในแชสซีที่แยกต่างหากจะสามารถบรรจุไว้ในฟอร์มแฟคเตอร์ที่เชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย ความเปลี่ยนแปลงนี้จะก่อให้เกิดผลดีอย่างมากต่อผู้ให้บริการเครือข่าย เพราะจะเพิ่มความสะดวกในการจัดการและการดำเนินงาน ปัจจุบัน CISCO ดำเนินการลงทุนอย่างจริงจังในเทคโนโลยี Silicon Photonics เพื่อเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมสำหรับเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์และเครือข่ายของผู้ให้บริการ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงานและพื้นที่ และเพิ่มความสะดวกในการจัดการเครือข่าย
พร้อมกันนี้ CISCO ได้เปิดเผยถึงแผนการนำเสนอรูปแบบการใช้งานที่ยืดหยุ่น ซึ่งเริ่มต้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ออปติกของ CISCO ตามด้วยซอฟต์แวร์ Cisco IOS-XR และตอนนี้ครอบคลุมถึง Cisco Silicon One รูปแบบการใช้งานแบบใหม่นี้สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น โดยนำเสนอชิ้นส่วน อุปกรณ์เครื่องเปล่า หรือระบบที่ติดตั้งส่วนประกอบอย่างสมบูรณ์สำหรับการสร้างเครือข่ายตามที่ลูกค้าต้องการ แนวทางดังกล่าวสอดรับกับลักษณะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้ให้บริการในการเลือกใช้ส่วนประกอบเทคโนโลยีแบบแยกส่วน หรือแบบรวมเบ็ดเสร็จสำหรับการขยายเครือข่าย ทั้งยังก่อให้เกิดเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด