กรุงไทยกำไรจากการดำเนินงานไตรมาสแรก 7,301 ล้านบาท | Techsauce

กรุงไทยกำไรจากการดำเนินงานไตรมาสแรก 7,301 ล้านบาท

ธนาคารกรุงไทยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2562 จำนวน 7,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน จำนวน 33,593 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 13.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น โดย ณ 31 มีนาคม 2562 Coverage Ratio เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 126.86 ขณะที่ NPLs Gross Ratio ลดลงจากร้อยละ 4.53 ณ 31 ธันวาคม 2018 เป็นร้อยละ 4.50 ณ 31 มีนาคม 2019

คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 7,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน จำนวน 33,593 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 13.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 เนื่องจากธนาคารได้รับเงินบางส่วนจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนอง และผลจากรายได้จากการดำเนินการอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 จากกำไรในการขายทรัพย์สินรอการขายและกำไรจากเงินลงทุน ในส่วนของค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.9 จาก ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสำรองการด้อยค่าทรัพย์สินรอการขายตามเกณฑ์ระยะเวลาการถือครองของธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมิได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองในเรื่องอัตราค่าชดเชยเพิ่มเติมกรณีนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง ฯ ในงบการเงินเฉพาะสำหรับไตรมาส 1/2562 เนื่องจากธนาคารอยู่ภายใต้ พรบ. แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ปี 2000 ซึ่งหากพรบ. ดังกล่าวมีการปรับปรุงใดๆ ธนาคารจะดำเนินการตามที่กำหนดต่อไป

สำหรับสินเชื่อของธนาคาร ณ 31 มีนาคม 2019 อยู่ที่ 2,032,879 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.4 จากสิ้นปีที่ผ่านมา โดยสินเชื่อรายย่อยขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย รวมทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น เงินฝากอยู่ที่ 2,077,071 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ขณะที่อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (NIM) ที่ไม่รวมรายได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนอง อยู่ที่ร้อยละ 3.13 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.07 ในไตรมาส 1/2561 จากการมุ่งเน้นการบริหารพอร์ตสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับการบริหารความเสี่ยง และการรักษาระดับต้นทุนทางการเงิน

จากนโยบายการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญอย่างสม่ำเสมอ ตามหลักความระมัดระวัง ธนาคารได้ทยอยเพิ่มระดับของอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 126.86 ณ 31 มีนาคม 2019 ขณะที่ธนาคารมี NPLs Gross Ratio ลดลงเล็กน้อย อยู่ที่ 4.50 % และมี NPLs Net Ratio คงที่อยู่ที่ 1.94 % สำหรับเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงและมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 (งบการเงินเฉพาะธนาคาร) อยู่ที 18.12 % และ 14.29 % ตามลำดับ ซึ่งธนาคารได้ประเมินความเพียงพอของอัตราส่วนดังกล่าวในอนาคตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และครอบคลุมถึงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ติดท็อป 5 ‘Best Taiwan Global Brands’ 7 ปีซ้อน ขับเคลื่อน Edge AI ด้วยมูลค่า 2.8 หมื่นล้าน

แอดวานซ์เทค (Advantech Co., Ltd.) ผู้นำด้านอุตสาหกรรม IoT ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกของ "2024 Best Taiwan Global Brands" ด้วยมูลค่าแบรนด์ 851 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

PLEX MES ก้าวสู่อนาคต ยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต ด้วย Smart Manufacturing Solutions

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา วงการอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการแนะนำ PLEX MES โซลูชันที่เปรียบเสมือน "สมองดิจิทัล" สำหรับโรงงานยุคใหม่ ระบบนี้ถูกออกแบบ...

Responsive image

ทีทีบี คว้ารางวัลธนาคารที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าธุรกิจ Thailand Best Bank for Corporates

ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) คว้ารางวัล Thailand Best Bank for Corporates จาก Euromoney Awards 2024 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจไทยด้วยโซลูชันดิจิทัลและความยั่งยืนผ่านกรอบ B+ESG พร...