LINE ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา ภายใต้วิสัยทัศน์ Life on LINE เปิดเผยตัวเลขการใช้งานในไทยเติบโตกว่า 2 ล้านคนใน 1 ปี ทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่ผู้ใช้งานใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม โดยเฉลี่ยถึง 1/3 ของเวลาที่ผู้ใช้ออนไลน์ มุ่งเดินหน้าเสริมความสะดวกผู้ใช้งานและศักยภาพธุรกิจไทยในยุคดิจิทัล พร้อมเป็นแพลตฟอร์มที่ใช่สำหรับ New Normal Lifestyle
ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2562 LINE ประเทศไทย ได้ประกาศวิสัยทัศน์ Life on LINE ด้วยการเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของคนไทย (Life Infrastructure) โดยได้ดำเนินกการพัฒนาต่อยอดบริการใหม่ๆ ตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ส่งผลให้เกิดผู้ใช้งานใหม่จำนวนเพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 2 ล้านคนในเวลาเพียง 1 ปี
ความสำเร็จของ LINE ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตสำหรับ New Normal Lifestyle นั้น เห็นได้ชัดเจนจากการใช้บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม LINE ในช่วงสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีผลกับการดำเนินชีวิตเกือบ 100% ทั้งการดำเนินชีวิตประจำวันที่ต้องมีการรักษาระยะห่าง การทำงานแบบ Work From Home การใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งภายใน Ecosystem ของ LINE นั้น มีบริการครบถ้วนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น
นอกจากนั้น ความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง คือ LINE ได้ทำหน้าที่ของแพลตฟอร์มเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เมื่อกลไกทางเศรษฐกิจหลายย่างต้องหยุดชะงักเนื่องจากสถานการณ์ของโควิด-19 LINE ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้กลไกเหล่านั้นเดินหน้าต่อ อาทิ โครงการ Find Food ที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางระหว่างเกษตรกรและผู้ซื้อ โครงการ "ห้าง ททท. ช้อปฟินกินเที่ยวทั่วไทย" ที่นำงานแฟร์ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์ม LINE ให้ลูกค้าได้ช้อปกันง่ายขึ้น กระจายรายได้ไปยังโรงแรม และธุรกิจบริการทั่วประเทศได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่ธุรกิจยานยนต์ที่นำแพลตฟอร์ม LINE ไปใช้ประโยชน์ในการสื่อสารข้อมูลรถยนต์กับลูกค้า รวมถึงการทำนัด Test Drive ได้ถึงบ้าน รวมถึงแบรนด์เครื่องสำอางใหญ่ๆ ก็ยังหันมาทำธุรกิจอีคอมเมิรซกันมากขึ้นในช่วงที่หน้าร้านในห้างสรรพสินค้าไม่สามารถเปิดให้บริการได้
จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ดร.พิเชษฐ ได้เน้นย้ำถึงปัจจัยสำคัญการผลักดัน LINE ประเทศไทยให้เติบโต
“ถึงแม้ที่ผ่านมา LINE จะประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจมาก เป็นที่นิยมจนเรียกได้ว่ากลายเป็นปัจจัย 5 ในการใช้ชีวิตของคนไทย แต่ LINE ยังเห็นถึงความท้าทายอยู่มากในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดเดาไม่ได้ เช่นเมื่อเกิดวิกฤต โควิด-19 ขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับมัน ใครที่ปรับตัวได้เร็วก็จะได้เปรียบ LINE สามารถตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานได้ทั้งหมดของการใช้ชีวิต วิกฤตนี้ถึงแม้จะกระทบในหลายภาคส่วน แต่ LINE ก็ยังสามารถสร้างการเติบโตได้ด้วย ecosystem ที่ครบวงจรและพร้อมรองรับทุกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ในฐานะผู้นำองค์กร เราจะต้องมี leadership mindset ที่จะพร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา ผู้นำไม่ใช่คนเดียวที่จะนำพาองค์กรไปถึงปลายทาง แต่พนักงานต่างหากที่คือฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันองค์กรให้ก้าวหน้า เราต้องเป็นผู้นำที่พร้อมจะเรียนรุ้ไปพร้อมๆ กับทุกคน เพื่อให้LINE เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจคนไทยมากที่สุด และพร้อมเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของคนไทย (Life Infrastructure) จริงๆ เป็นแพลตฟอร์มที่ใช่ ทั้งสำหรับลูกค้าทั่วไป และลูกค้าภาคธุรกิจ พร้อมเป็นแพลตฟอร์มทรงพลังที่จะช่วยให้คนไทยใช้ชีวิตแบบ New Normเป็นal Lifestyle ได้อย่างสะดวกสบาย และมีความสุขทุกวัน” ดร.พิเชษฐ กล่าวทิ้งท้าย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด