LingoAce บริษัทสตาร์ทอัพด้านการศึกษา (Edtech) สัญชาติสิงค์โปร์ ผู้ก่อตั้งริเริ่มแพลตฟอร์มการเรียนภาษาจีนออนไลน์ชั้นนำของโลก พร้อมประกาศความสำเร็จล่าสุดด้วยการได้รับเงินระดมทุนอีกครั้งในรอบ Series A+ มูลค่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯจากกองทุน Sequoia ประเทศอินเดีย หลังจากได้รับเงินระดมทุนรอบ Series A เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มาแล้วจากกองทุน Shunwei ประเทศจีน มูลค่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทำให้วันนี้ LingoAce สามารถขยายขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี และบุคลากรได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งของโลก ด้านการเรียนภาษาออนไลน์สำหรับเด็ก ที่ใช้เทคโนโลยี AI และ gamification features สร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่แตกต่าง ปัจจุบันมีนักเรียนแล้วมากกว่า 100,000 คนใน 80 ประเทศทั่วโลก และประกาศจัดตั้งสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการการเรียนรู้ภาษาที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคอาเซียน
เนื่องด้วยกรณีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยิ่งแสดงให้เห็นว่าการศึกษาในรูปแบบดิจิทัลมีความจำเป็น จากข้อมูลของ Singstat เผยว่า 25.7% ของประชากร 700 ล้านคนในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ นั้นเป็นนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 5-19 ปี ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคนี้ทำให้การเรียนต้องชะงักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการปิดโรงเรียน ซึ่งมีเด็กและเยาวชนเกือบ 363 ล้านคนเสียโอกาสในการเรียนอย่างต่อเนื่องไปและนั่นก็คือปัญหาของการเรียนที่มีประสิทธิภาพ
LingoAce ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2560 เป็นระบบการสอนที่สามารถออกแบบได้เฉพาะสำหรับเด็กแต่ละคน ด้วยสื่อการสอนแบบอินเตอร์แอคทีฟที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงานของLingoAceเอง สร้างความแตกต่างจาก ออนไลน์แพลตฟอร์มด้านการศึกษาอื่นๆ
จุดแข็งอีกด้าน คือการมีทีมงานด้านการศึกษาในการ พัฒนาหลักสูตร และสื่อการสอน ตามมาตรฐานกระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์และจีน สามารถปรับเปลี่ยนบทเรียนได้ตามวัตถุประสงค์การเรียนของผู้ปกครอง เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่ 4-15 ปี สอนสดโดยครูชาวจีนที่ผ่านการอบรม ตามมาตรฐาน มีให้เลือกเรียนทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่มย่อย สิ่งที่ทำให้ LingoAce แตกต่างจากการสอนที่อื่นคือ การใช้มัลติมีเดีย และ AI-powered tools ในการสร้างสรรค์ฟีเจอร์ gamification ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และ พัฒนาการภาษาสำหรับเด็ก ให้เป็นการเรียนที่สนุก ดึงดูดความสนใจ และทำให้เด็กรักภาษาใหม่ อย่างไม่รู้ตัว
Mr. Hugh Yao, (มิสเตอร์ ฮิวจ์ เหยา) ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ LingoAce กล่าวว่า “ เรามีความยินดีที่ได้รับความเชื่อมั่นจาก Sequoia อินเดีย และได้รับการร่วมลงทุนจากนักลงทุนในรอบก่อนหน้าอย่าง Shunwei Capital เงินลงทุนรอบนี้เป็นจังหวะที่ดีในการขยายตลาดของเรา ให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในยุคโควิด เรามีความตั้งใจ ที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการลงทุนสร้างศูนย์วิจัยด้านการศึกษาที่สิงคโปร์เป็นแห่งที่สองอีกด้วย เพื่อให้เราเป็นแพลตฟอร์มการเรียนภาษาจีนที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนทั่วโลก
ทางด้าน Mr. Abheek Anand (อาพีค อานันด์) กรรมการผู้จัดการกองทุน Sequoia กล่าวว่า “LingoAce ได้สร้างแพลตฟอร์มการเรียนภาษาออนไลน์ที่ยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมและผลลัพธ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจสำหรับเด็กนักเรียนทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยสถิติทางเศรษฐศาสตร์ที่แข็งแกร่งมาก มีเด็กกว่า 100 ล้านคนที่อยู่นอกประเทศจีน ซึ่ง 27 ล้านคนเป็นนักเรียนในชั้น K1-K12 ที่ควรจะได้เรียนรู้ภาษาจีน คิดเป็นร้อยละ 20 ของเด็กทั้งหมด และหากพวกเขาได้เรียนผ่านแพลตฟอร์มนี้เราจะเติบโตขึ้นคิดเป็นร้อยละ 30 ต่อปี ทั้งนี้เมื่อได้เห็นศักยภาพของ Mr. Hugh Yao และทีมงาน LingoAce แล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนภาษา ออนไลน์จะตอบโจทย์ความต้องการด้านการเรียนในยุคสมัยนี้และอนาคตได้อย่างแน่นอน”
สำหรับประเทศไทยนั้น LingoAce เล็งเห็นว่า มีคนเชื้อสายจีนอยู่เป็น จำนวนมาก หลายครอบครัวมีธุรกิจที่ต้องติดต่อกับประเทศจีน อีกทั้งในไทยก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนที่มาขยายตลาดในหลายอุตสาหกรรม การที่บุตรหลานสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว ย่อมส่งผลดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในองค์กรข้ามชาติ หรือการสานต่อธุรกิจครอบครัว นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีน ซึ่งเป็นรากฐานของรุ่นปู่ย่าตายายในเวลาเดียวกัน ซึ่งหากเด็กไทยสามารถพูดภาษาจีนได้ จะทำให้เข้าถึงโอกาสในการทำงานในต่างประเทศได้คล่องตัว พร้อมเพิ่มขีดความสามารถเพื่อการแข่งขันในเวทีโลกได้มากขึ้น
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด