NIA โชว์ผลงาน 10 ทีม Startup สาย ARI-Tech พัฒนาภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC | Techsauce

NIA โชว์ผลงาน 10 ทีม Startup สาย ARI-Tech พัฒนาภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เร่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ผ่านการผลักดันสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึก หรือ DeepTech สตาร์ทอัพในสาขา ARI-Tech เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยการเติมเต็มเทคโนโลยีใหม่จากสตาร์ทอัพ พร้อมยกระดับความโดดเด่นในด้านการเป็นฐานแห่งการผลิต และดึงดูดให้นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสนใจที่จะลงทุนหรือขยายธุรกิจในอนาคต โดยจับคู่ 10 สตาร์ทอัพให้ได้มีโอกาสทำงานร่วมภาคอุตสาหกรรมจริงกับหน่วยงานและบริษัทเทคโนโลยีในพื้นที่ EEC รวมถึงการจัดกิจกรรม DEMO DAY เพื่อเป็นเวทีการนำเสนอผลงานและแผนธุรกิจของของสตาร์ทอัพกับนักลงทุนขนาดใหญ่ผ่านช่องทางออนไลน์ 

นายทรงศักดิ์ สายเชื้อ กรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ NIA และที่ปรึกษาพิเศษด้านการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า “กิจกรรมหลักของโครงการตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการเร่งสร้างและยกระดับความสามารถของสตาร์ทอัพด้าน ARI-Tech ให้เป็นที่ประจักษ์ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องระยะเวลาและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่สตาร์ทอัพเหล่านั้นก็สามารถแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการแก้ปัญหาและทำงานจริงร่วมกับหน่วยงานหรือองค์กรในพื้นที่ EEC ได้เป็นอย่างดี โดยสามารถตอบโจทย์ให้กับอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าตลาดสูง เช่น ตลาด Smart Energy, Smart Retail, Industry 4.0, Digital Transformation และเชื่อมโยงกับศักยภาพของพื้นที่ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตและเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งอนาคตที่สำคัญของประเทศที่มีนโยบายสนับสนุนด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม และทุกภาคส่วนทั้งการเกษตรและชุมชน”

ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA เปิดเผยว่า “NIA ได้จัดกิจกรรมบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึก ภายใต้โปรแกรม Global Startup Hub: EEC ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวเป็นการต่อยอดธุรกิจสตาร์ทอัพให้มีโอกาสได้รับการลงทุน และมีช่องทางการทำตลาดกับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC รวมถึงเพื่อยกระดับพื้นที่ EEC ให้เป็นพื้นที่แห่งการเติบโตของสตาร์ทอัพ เนื่องจากมีความพร้อมทั้งเรื่องนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ บริษัทและหน่วยงานมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงเป็นพื้นที่แห่งการผลักดัน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล โดยในปีนี้ NIA นำร่องสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกด้าน ARI-Tech ซึ่งประกอบด้วย Artificial Intelligence หรือ AI เทคโนโลยีทีมีความสามารถในการทำความเข้าใจและเรียนรู้องค์ความรู้เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา Robotic หรือ หุ่นยนต์ และ Immersive ซึ่งเป็นนวัตกรรมเสมือนจริง รวมถึงการใช้ระบบอินเทอร์เน็ตควบคุมสรรพสิ่ง (IoT) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานเทคโนโลยีเชิงลึกที่สามารถเชื่อมโยงกับ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC ที่จะนำไปสู่การสร้างความสามารถในการแข่งขันและเติมเต็มมูลค่า ช่วยยกระดับความโดดเด่นในด้านการเป็นฐานแห่งการผลิต ตลอดจนเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสนใจที่จะลงทุนหรือขยายธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าวได้ต่อไป” 

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า “NIA ได้คัดเลือกสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ จำนวน 10 ทีม เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีโอกาสได้เข้าไปพัฒนากระบวนการทางอุตสาหกรรมร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในพื้นที่ EEC ในรูปแบบ co-creation เพื่อทำให้สตาร์ทอัพเข้าใจความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และนำเทคโนโลยีที่มีไปต่อยอดในอุตสาหกรรมที่อาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน จนสามารถนำไปขยายผลในเชิงธุรกิจได้จริง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาศักยภาพนวัตกรรมให้กับสตาร์ทอัพผ่านกระบวนการเรียนรู้ การให้คำปรึกษา และการลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งก่อให้เกิดโอกาสที่สำคัญใน 3 มิติ ได้แก่ 

  1. โอกาสการขยายตลาดใหม่ 
  2. โอกาสการสร้างความความร่วมมือกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ต่อเนื่องถึงการสร้างธุรกิจใหม่ร่วมกับบริษัทขนาดใหญ่ 
  3. โอกาสการปรับเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์การใช้งานและความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่จะนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจ ตลาด และห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญต่อการยกระดับระบบนวัตกรรมของประเทศ รวมถึงพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกของไทยที่ในอนาคตสามารถขยายธุรกิจในระดับนานาชาติต่อไป”

ด้าน ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า “สตาร์ทอัพแต่ละทีมได้พัฒนาโครงการอย่างเข้มข้นผ่านการทำงานจริงร่วมกับองค์กรพันธมิตรชั้นนำในพื้นที่ EEC โดยได้รับคำแนะนำทั้งทางด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาร่วมแก้โจทย์ปัญหาหรือต่อยอดธุรกิจ อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาจากบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดระยะเวลาโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพแบบเจาะลึก และการจับคู่สตาร์ทอัพและบริษัทพันธมิตรซึ่งประกอบด้วย 

  1. AltoTech: AIoT แพลตฟอร์มวิเคราะห์ ตรวจสอบ และจัดการการใช้พลังงานภายในโรงแรม หรืออาคารแบบอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับ บริษัท บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด 
  2. AUTOPAIR: แพลตฟอร์มบริหารจัดการชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดซื้อและบริหารค่าใช้จ่าย ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ทำงานร่วมกับ บริษัท เอ็น ดี รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) 
  3. BlueOcean XRSIM+: แพลตฟอร์มจำลองการฝึกเสมือนจริง ส่งมอบประสบการณ์การฝึกปฎิบัติงาน (OJT) ทะลายข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ ทำงานร่วมกับ EEC Automation park ม.บูรพา และสถาบันไทย-เยอรมัน 
  4. Crest Kernel: ระบบตรวจสอบความปลอดภัยและวิเคราะห์ข้อมูลการบริโภคบนข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ด้วย DeepEyes ทำงานร่วมกับ บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) 
  5. ENRES: AIoT แพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายอาคารและโรงงานสู่ยุค 4.0 ทำงานร่วมกับ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 
  6. GENSURV: รถฟอร์คลิฟท์ไร้คนขับนำทางด้วยเลเซอร์ สำหรับการขนย้ายพาเลทในคลังและสายการผลิต ทำงานร่วมกับ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ (1991) จำกัด(มหาชน) 
  7. IFRA: เครื่องมือช่วยวิศวกรในโรงงานเก็บข้อมูลเครื่องจักรและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง ทำงานร่วมกับ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด 
  8. MOVEMAX: แพลตฟอร์มบริหารงานขนส่งและกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ทำงานร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 
  9. VERILY VISION: ระบบกล้อง AI เก็บข้อมูล ทะเบียนรถขนส่ง และหมายเลขตู้คอนเทนเนอร์สินค้าอัตโนมัติ สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ ทำงานร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 
  10. ZEEN: ระบบ AI สำหรับบริหารและจัดการขายสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับร้านค้าปลีกอย่างถูกต้องและแม่นยำ ทำงานร่วมกับ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด”

โดยหลังจากสิ้นสุดการ Pitching เพื่อนำเสนอผลงานของสตาร์ทอัพต่อหน้ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 ท่าน ได้มีการประกาศผลชนะจำนวน 2 รางวัล คือ The Best Performance ARI-Tech Startup Award 2021 คือ ทีม AltoTech และรางวัลที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากผู้ร่วมงาน The Popular ARI-Tech Startup Award 2021 คือ ทีม MOVEMAX



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อว.-บพข. ร่วมผลักดัน Deep Tech Startup ไทยเจาะตลาดนอร์ดิก

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดยหน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดงาน "OKRs Workshop: From Epicenter to Th...

Responsive image

Wavemaker และ กรุงศรี ฟินโนเวต ลงทุน Series B ใน 24X เดินหน้ายกระดับตลาดซ่อมบำรุง

24X ประกาศความสำเร็จครั้งใหม่ในการระดมทุนรอบซีรีส์ บี โดยสองกลุ่มนักลงทุนระดับชั้นนำอย่าง เวฟเมคเกอร์ เวนเจอร์สและกรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือกรุงศรี ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ 24X ในการ...

Responsive image

ทีทีบี ยกระดับ "ยินดี-Yindee" ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ ตอบทุกคำถามฉับไว บน Mobile Banking ด้วย Azure OpenAI ครั้งแรกในไทย

ทีทีบี มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย Digital Transformation โชว์ความสำเร็จการพัฒนาผู้ช่วยบนมือถือ “ยินดี-Yindee” เวอร์ชันใหม่ ถือเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่นำ Generative AI ผ่าน Microsoft A...