
ในโลกที่เทคโนโลยีคือหัวใจของทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมรภูมิการเงินที่เปลี่ยนแปลงทุกวินาที การเป็นเพียงผู้ตามหรือผู้ใช้เทคโนโลยีอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ล่าสุด SCB TechX บริษัทเทคโนโลยีในเครือ SCBX ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจสั่นสะเทือนวงการธนาคารไทย ด้วยการประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะพลิกบทบาทของตัวเองจากผู้ให้บริการไอทีเบื้องหลัง (IT Provider) สู่การเป็น “ผู้ขับเคลื่อนเทคโนโลยีทางการเงินเชิงกลยุทธ์” หรือ “Strategic FinTech Enabler”
นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อตำแหน่งหรือสโลแกนสวยหรู แต่มันคือการปฏิวัติแนวคิด จากการเป็น “ศูนย์ต้นทุน” (Cost Center) ที่คอยสนับสนุนธุรกิจ สู่การเป็น “ขีดความสามารถหลัก” (Core Capability) ที่จะออกแบบ พัฒนา และเป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่จะกำหนดทิศทางอนาคตของกลุ่ม SCBX ทั้งหมด
คุณสุทธิพงศ์ กนกากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด (SCB TechX) ฉายภาพการเดินทางครั้งใหม่นี้อย่างชัดเจนว่า “เราไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการอีกต่อไป ภารกิจของเรา คือ การเป็นหัวใจของนวัตกรรมเทคโนโลยีของกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ ที่ช่วยให้กลุ่มสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และมีความเป็นอิสระมากขึ้นในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

หัวใจของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อยู่ที่ปรัชญาการ “เป็นเจ้าของเทคโนโลยี” (Owning the Technology) SCB TechX กำลังจะยุติบทบาทการเป็นเพียงผู้ติดตั้งหรือประกอบร่างระบบจากภายนอก แต่จะหันมาสร้างเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง โดยมีรากฐานสำคัญคือ โครงสร้างแบบโมดูลาร์ (Modular Architecture)
แนวคิดนี้เปรียบเสมือนการสร้างบ้านด้วยตัวต่อเลโก้ที่ออกแบบมาอย่างดี แทนที่จะสร้างตึกทึบที่ไม่สามารถทุบแก้ได้ สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์จะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยน, อัปเกรด หรือสลับสับเปลี่ยนฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามความต้องการของธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเติบโตและต่อยอดนวัตกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่ถูกพันธนาการด้วยเทคโนโลยีเก่าที่กลายเป็นอุปสรรคในอนาคต
SCB TechX เลือกเส้นทางที่ท้าทายแต่ยั่งยืนกว่า ด้วยโมเดลการเติบโตแบบ “Inside-Out” โดยยึดหลักการเป็น “Customer Zero” หรือ “ลูกค้ารายแรก” ของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าทุกโซลูชันและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น จะต้องถูกนำมาทดลองใช้และพิสูจน์คุณค่ากับธุรกิจภายในกลุ่ม SCBX ก่อนเป็นอันดับแรก
แนวทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบผลิตภัณฑ์ในสมรภูมิจริงที่เดิมพันสูง แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นอย่างถึงที่สุดว่าสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นสามารถแก้ปัญหาและสร้างมูลค่าได้จริง ก่อนที่จะนำออกไปให้บริการกับพันธมิตรภายนอก
“เราเชื่อว่าหนทางที่ดีที่สุดในการเติบโต คือ การแก้ปัญหาจริงที่อยู่ใกล้ตัว และทำให้ดีจนคนอื่นต้องหันมามอง” คุณสุทธิพงศ์กล่าวเสริม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ก่อนการขยายตัว
เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง SCB TechX ได้วางรากฐานการดำเนินงานผ่าน 3 เสาหลักที่สำคัญ ซึ่งจะยกระดับบริษัทจากการเป็นเพียงผู้พัฒนา สู่การเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาที่กลุ่ม SCBX ขาดไม่ได้
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี SCB TechX ตระหนักดีว่าสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดคือ “คน” ด้วยเหตุนี้ กลยุทธ์ “Talent-First” จึงถูกชูขึ้นเป็นธงนำ บริษัทมุ่งมั่นที่จะลงทุนอย่างเต็มที่เพื่อดึงดูดบุคลากรชั้นนำที่มีแรงขับเคลื่อนจากพันธกิจ, พัฒนาผู้นำที่มีดีเอ็นเอของผู้ประกอบการ และที่สำคัญคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและเอื้อให้ Tech Talent ของไทยได้เติบโตและปลดปล่อยศักยภาพสูงสุด
“เรากำลังสร้างมากกว่าแค่เทคโนโลยี เรากำลังสร้างองค์กรที่คนอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เป้าหมายของเรา คือการสร้างระบบนิเวศที่หล่อหลอมให้บุคลากรของ SCB TechX กลายเป็นผู้นำฟินเทครุ่นใหม่ของประเทศ” คุณสุทธิพงศ์ทิ้งท้าย
SCB TechX พร้อมนิยามบทบาทใหม่ในกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ จากผู้ให้บริการเบื้องหลัง สู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ และจากศูนย์ต้นทุน สู่ขีดความสามารถหลักขององค์กร โดยอาศัยการผสานระหว่างความเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และวิสัยทัศน์ด้านนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนอนาคตระบบการเงินไทย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด