IBM ประกาศว่า บริษัท โซลูชั่น วัน โฮลดิ้ง จำกัด ผู้นำด้านดิจิทัลคอนเทนต์และบริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลของไทย รวมถึงผู้ให้บริการ Multi-Channel Network (MCN) ของไทยที่ได้รับการรับรองจากยูทูบ (YouTube) ได้ใช้ระบบแฟลชสตอเรจศักยภาพสูงจากไอบีเอ็ม เพื่อรองรับการบริหารส่วนแบ่งรายได้ให้กับศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนต์บนช่องยูทูบต่างๆ อาทิ พอดีม่วน STUDIO, อาม ชุติมา, Jaymidi (Jaonaay), BOXX MUSIC, Muzik Move Records, ME Records, วงนั่งเล่น, เขียนไขและวานิช เป็นต้น ที่ปัจจุบันมียอดวิวรวมกันกว่า 30,000 ล้านวิว หรือเฉลี่ยกว่าพันล้านวิวต่อเดือน รวมถึงรองรับการดูแลและบริหารจัดการลิขสิทธิ์ในส่วนของ publishing หรืองานดนตรีกรรมของศิลปิน และบรรดานักแต่งเพลงผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงบนยูทูบ อาทิ สุวัธชัย สุทธิรัตน์, พนเทพ สุวรรณะบุณย์, ปิติ ลิ้มเจริญ, จิรศักดิ์ ปานพุ่ม, จักราวุธ แสวงผล, ปฐมพร ปฐมพร ฯลฯ นำสู่ผลลัพธ์การบริหารจัดการรายได้ที่มีความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และปลอดปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์
การบริหารจัดการลิขสิทธิ์และรายได้ให้กับผู้ผลิตคอนเทนต์กว่า 1,200 ราย ที่ผลิตวิดีโอรวม 15,000 ชิ้นต่อเดือน บนช่องยูทูบกว่า 500 ช่อง ภายใต้ยอดผู้ติดตามกว่า 42 ล้านคนนั้น ถือเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละวิดีโอต่างมีโมเดลการคำนวณสัดส่วนรายได้ค่าโฆษณาสำหรับทีมงานแต่ละคนต่าง กันออกไป ตั้งแต่นักร้องนำ นักดนตรี นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ดารา หรือแม้แต่ผู้ผลิตคอนเทนต์ เป็นต้น นำสู่ความจำเป็นในการประมวลผลสูตรคำนวณและชุดข้อมูลที่มีความซับซ้อนนับพันล้านรายการต่อเดือน ที่นอกจากจะต้องได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วเพื่อให้ศิลปินและผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับเงินส่วนแบ่งรายได้โดยเร็วที่สุดแล้ว ความถูกต้องเชื่อถือได้ของข้อมูลยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสูงสุดที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริการ MCN ของโซลูชั่น วัน
“ที่ผ่านมา โซลูชั่น วัน ได้นำระบบสตอเรจ IBM FlashSystem เข้ามารองรับการประมวลผลข้อมูลมหาศาลจาก Digital Service Provider (DSP) ส่งผลให้การจัดจำหน่ายและสร้างรายได้ให้กับศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนต์มีความรวดเร็วถูกต้อง 100% อีกทั้งยังสามารถรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลรายได้และข้อมูลผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำสู่การสร้างรายงานที่ให้มุมมองเชิงลึก เพื่อเป็นแนวทางให้กับศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนต์บนช่องยูทูบทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นลูกค้าของโซลูชั่น วัน ให้สามารถผลิตผลงานที่เข้าถึงและขยายกลุ่มผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น” นายกัลชาญ คงคาทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น วัน โฮลดิ้ง จำกัด กล่าว “เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงคือหนึ่งในกุญแจที่สำคัญที่สุดของธุรกิจดิจิทัล ที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริการของเรา แต่ยังส่งผลต่อการลดต้นทุนของงานปฏิบัติการ เพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบและข้อมูลลูกค้า รวมถึงรองรับการย้ายเวิร์คโหลดสู่คลาวด์ในอนาคต ภายใต้โมเดลการทำงานแบบไฮบริดคลาวด์ ที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับการประมวลผลและการใช้แบนด์วิธของพับลิคคลาวด์เพียงอย่างเดียว"
ในโอกาสเดียวกันนี้ ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัว IBM FlashSystem 5200 ใหม่ ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการเอ็นเตอร์ไพรซ์สตอเรจด้วยขนาดเพียง 1U ที่เล็กลงกว่าสตอเรจทั่วไปครึ่งหนึ่ง หรือเทียบเท่าขนาดกล่องพิซซ่า แต่ให้ latency สูงสุด 1.7PB [1] รองรับการทำ data migration โดยไม่กระทบต่องานที่รันอยู่ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ข้อกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ด้วยระดับความปลอดภัย FIPS 140-2 พร้อมระบบ zero-touch encryption แบบ 24x7 ในตัว ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาลงซอฟต์แวร์หรือตั้งค่าระบบเวลาทำการเข้ารหัสข้อมูล อีกทั้งยังไม่ทำให้เครื่องช้าลง
“พฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงเทรนด์โฆษณาออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณยอดวิวและลูกค้าของโซลูชั่น วัน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสูงเป็นประวัติการณ์ วันนี้ ธุรกิจของเราเติบโตไปอีกขั้น และ IBM FlashSystem 5200 จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเติมเต็มความพร้อมในการส่งมอบบริการบริหารจัดการลิขสิทธิ์และรายได้ให้มีศักยภาพสูงที่สุดในวงการ เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับศิลปินและยูทูบเบอร์ทุกท่านที่เป็นลูกค้าของเรา ทั้งในวันนี้และในอนาคต” นายกัลชาญ กล่าว
“วันนี้องค์กรต่างมองถึงการย้ายเวิร์คโหลดสู่คลาวด์มากขึ้น และมองหาระบบที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยต้นทุนและขนาดพื้นที่จัดเก็บลดลง องค์กรต่างต้องการระบบที่รองรับการประมวลผลของแอพพลิเคชัน critical แอพในระบบ SAP Hana และการทำ app modernization ได้อย่างรวดเร็ว แต่วันนี้ การประมวลผลข้อมูลทุกอย่างบนคลาวด์กลายเป็นข้อจำกัด เพราะนำสู่แบนด์วิธมหาศาลและต้นทุนที่สูงมาก” นางสาวรัชนีกร เทวอักษร Country Manager, Technical Sales บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว “IBM FlashSystem 5200 คือระบบที่เอื้อให้องค์กรสามารถประมวลผลเวิร์คโหลดบนระบบ on-premise ก่อนที่จะเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดคลาวด์ลักษณะนี้ คือแนวทางที่จะสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับองค์กร และเป็นเทรนด์ที่องค์กรไทยกำลังมุ่งไป ”
“เมื่อรวมกับมาตรฐานความปลอดภัย FIPS 140-2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT มหาศาลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ IBM FlashSystem 5200 ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์เรื่องค่าใช้จ่ายและประสิทธิภาพ แต่ยังรองรับธุรกิจในอนาคตที่ 5G และการประมวลผลแบบ edge จะกลายเป็นตัวเลือกสำคัญของหลายองค์กร” นางสาวรัชนีกร กล่าวเสริม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด