จับตาเทรนด์ใหม่ เมื่อองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ยุคดิจิทัล ทำงานร่วมกับ Tech Startup | Techsauce

จับตาเทรนด์ใหม่ เมื่อองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ยุคดิจิทัล ทำงานร่วมกับ Tech Startup

เจาะลึกแนวคิดผู้นำธุรกิจยุคดิจิทัล ที่ประสบความสำเร็จที่จะมาสร้างความตื่นเต้นครั้งยิ่งใหญ่ ให้กับวงการสตาร์ตอัพไทย ในงานเปิดโครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรทbatch 5 ในวันที่ 2 มีนาคม นี้

Dtac_Batch_5

สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

การมีแนวคิดใหม่ที่ทันต่อสภาวะแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นรวดเร็วมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น กระแสของ Fintech ที่เข้ามาจากทั้งทางอเมริกา ยุโรปและเอเชีย พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะมีเครื่องมือ หรือ Toolsผ่านทาง Internet of Things (IoT) ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้วงการประกันภัยต้องตื่นตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนนี้นวัตกรรมไม่ได้ถูกจำกัดแต่แค่ Fintech, Biotech หรือ Healthtechเท่านั้น

แต่ยังมี Insurtech ที่เกิดขึ้นมาอีกด้วย ดังนั้นเราไม่สามารถที่จะเติบโตในรูปแบบเดิมได้อีกต่อไป แต่เราต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้บุคลากรของเราเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ และมีการนำความรู้ใหม่ เช่น Blockchain, Machine Learning หรือ Big Data Analytic เข้ามาสู่องค์กร แต่ทั้งนี้ไม่ใช่เราจะเน้นแค่ภาพเทคโนโลยีเท่านั้น เพราะการบริการที่จะทำให้เกิดความประทับใจไม่สามารถถูกเทคโนโลยีทดแทนได้ ดังนั้น Innovation ของเมืองไทยประกันชีวิตจะเป็นทั้ง Techและ Non Tech โดยเราเน้นที่การสร้างแนวคิดนี้ให้เกิดขึ้นกับทุกคนไม่จำกัดอายุหรือหน่วยงานที่สังกัดอยู่ ให้ทุกคนในองค์กรได้มีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมใหม่ เพราะคนที่รู้ดีที่สุดถึงความต้องการของลูกค้า คือคนที่มีโอกาสให้บริการลูกค้าโดยตรงและได้พูดคุยกับลูกค้านั่นเอง แต่ก็ต้องการมุมมองหรือไอเดียของกลุ่มคนในช่วงวัยต่างๆ มาผสมผสานกัน

ข้อมูลอ้างอิงจากสยามรัฐ

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน)  (Mr. Ho Ren Hua)

ในปัจจุบันเทคโนโลยีถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่า และเป็นอีกตัวช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจแนวคิดใหม่ๆ ถ้าหากสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้

ไทยวา เป็นผู้ผลิตและส่งออกแป้งมันสำปะหลัง วุ้นเส้นและธุรกิจเกี่ยวกับอาหารอื่นๆ ซึ่งต้องพึ่งพาเกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบ และเล็งเห็นว่าหากเกษตรกรยังคงทำการเกษตรแบบเดิมๆ จะทำให้คุณภาพและปริมาณไม่คงที่ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการเข้าไปให้ความรู้แก่เกษตรกร โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย  อาทิ การทำโครงการระบบน้ำหยดบนดิน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง และทำให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณเพิ่มขึ้น การวิเคราะห์ดิน เป็นแนวทางให้เกษตรกรปรับประยุกต์แก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้ตรงจุด และล่าสุดได้จับมือเกษตรรุ่นใหม่ เพื่อเตรียมผลิตผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่จากสินค้าทีมาจากผลิตผลทางการเกษตร เพื่อตอบรับความต้องการในอนาคต ที่สำคัญสินค้าเหล่านี้มีมูลค่าสูงกว่าผลผลิตทางการเกษตรที่มาจากวิธีการแบบเดิมๆ

การจับมือเกษตรกร ทั้งส่งเสริมสนับสนุน อบรมให้ความรู้และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย  นอกจากจะส่งผลให้เกษตรกรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและปริมาณสูงขึ้น ยังสามารถขายสินค้าได้มูลค่าสูงขึ้นอีกด้วย สุดท้ายผลที่ได้รับคือทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ขณะที่บริษัทฯเอง ก็จะได้รับวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตอย่างสม่ำเสมอ และช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ รวมถึงบริษัทสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณได้อีกด้วย

ขณะที่พันธมิตรทางการค้าของเรามีทั่งในประเทศและต่างประเทศ และด้วยสภาวะแวดล้อมรวมถึงการติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นระบบในการจัดการต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงคิดว่า  เทคโนโลยีประเภทระบบการจัดการ การเก็บข้อมูลสารสนเทศต่างๆ อาทิ ต้นทุน รายชื่อคู่ค้า สต๊อกสินค้า ตลอดไปจนคำสั่งซื้อ ไว้บน Cloud ซึ่งต้องมีความปลอดภัยของการเก็บข้อมูล และสามารถนำข้อมูลออกมาใช้ได้อย่างเป็นระบบ ดึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาสะดวกต่อการเรียกใช้งาน จะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการประสบความสำเร็จอย่างเป็นระบบของสตาร์ตอัพไทย

คุณจูน จุฑาศรี คูวินิชกุล อดีตผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจ Grab แอปเรียกแท็กซี่ในไทย

“สำหรับการเริ่มทำธุรกิจใหม่ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญคือหลักในการคิดโมเดลธุรกิจ ซึ่งโมเดลธุรกิจที่จะสามารถต่อยอดได้นั้น ควรจะมีสามสิ่งที่สำคัญ

  • หนึ่งคือจะต้องแก้ปัญหาที่มีอยู่ได้จริงและสามารถสร้างคุณค่าที่มากกว่าคู่แข่งขันทางตรงหรือทางอ้อมอย่างจับต้องได้จึงจะมีความยั่งยืน
  • สองธุรกิจนั้นจะต้องสามารถสเกลได้ มีตลาดที่ใหญ่พอสำหรับต้นทุนและทรัพยากรต่างๆที่ต้องใช้และมีโอกาสเติบโตได้ไกลๆ และ
  • สามคือธุรกิจสามารถสร้างความต่างระหว่างมูลค่าที่ลูกค้าต้องการจ่ายกับต้นทุนที่เกิดขึ้นได้อย่างพอเพียง ในการเริ่มทำธุรกิจอย่าคิดเพียงแค่เป็นจุดเล็กๆเป็นจุดๆ แต่ให้มองวิสัยทัศน์ไปไกลๆ สื่งที่ตัวเองต้องการจากการทำธุรกิจนั้น และดำเนินการในส่วนต่างๆก่อนหลังขนานกันไปเหมือนต่อจิ๊กซอว์ไปเรื่อยๆเพื่อไปถึงจุดนั้นอย่างมีเป้าหมาย อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขสิ่งที่ทำ ถ้าทำสิ่งหนึ่งแล้วไม่ตอบโจทย์ก็อย่ายึดติด ลองวิธีใหม่ซะ มันมักจะมีหลายวิธีในการไปถึงจุดมุ่งหมายเสมอ  เมื่อจะเริ่มทำธุรกิจ อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงคือความได้เปรียบทางการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ตลาดที่เรากำลังลงไปเล่นนั้นเรามีสิ่งใดที่ทำให้เราสามารถลงแข่งได้อย่างมีกำลัง เช่น เงินทุน เส้นสาย หรือทรัพยากร โดยที่ความได้เปรียบทางการแข่งขันนั้นอาจมาจากวิธีดำเนินการหรือ operations strategy ที่แข่งแกร่งก็เป็นได้

เมื่อมีผู้ร่วมก่อตั้งหรือพันธมิตรเพราะต้องการความสามารถของแต่ฝ่ายมาช่วยกัน การแบ่งปัน การรู้จักให้ ความแฟร์เป็นสื่งสำคัญเพื่อให้เกิดความร่วมมือที่แท้จริง มองภาพรวมไว้เป็นที่ตั้งโดยไม่เอาเปรียบและมีความรับผิดชอบจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายมากกว่า และเมื่อทำงานกับคนอื่นๆ การเสียสละบางอย่างเพื่อให้ภาพรวมลุล่วงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตรัสไว้ให้เป็นข้อคิดอย่างดีว่า “การทำงานด้วยใจรักต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้เห็นก็ไม่น่าวิตก เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นประจักษ์พยานที่มั่นคง เมื่อพูดเช่นนี้เหมือนสอนให้ปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย จะเป็นพระที่งดงามสมบูรณ์ไม่ได้”

ในการบริหารจัดการธุรกิจนั้น สิ่งสำคัญมากคือการสื่อสาร เพราะการทำธุรกิจคือการดำเนินกลยุทธ์ผ่านผู้คน ไม่ได้ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ความสามารถในการสื่อสารจุดมุ่งหมายให้ทุกคนในทีมมุ่งไปในทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ การโน้มน้าวผู้คนและ partner ต่างๆอย่างทรงพลัง และเมื่อมีหลายคนมาทำงานร่วมกัน การเข้าถึงข้อมูลการสื่อสาร ความโปร่งใส ความเสมอภาคภายในทีม ความชัดเจนในจุดมุ่งหมาย core value หรืออะไรต่างๆล้วนต้องใช้ศิลปะในการสื่อสารทั้งสิ้น

สุดท้ายแล้ว การจะทำให้บริษัทยั่งยืนการวางระบบที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว วิธีคิดอย่างเป็นระบบ วิธีทำอย่างเป็นระบบ จะสร้างการเติบโตที่ก้าวกระโดดให้กับองค์กร เมื่อใดที่บริษัทของคุณขึ้นอยู่กับคนไม่กี่คนในบริษัท เมื่อนั้นบริษัทของคุณจะมีความเสี่ยงมากและเติบโตยาก ระบบนั้นครอบคลุมไปถึงระบบหลังบ้านต่างๆ การตั้ง KPI กลวิธีทางธุรกิจ การบันทึกตัวเลขและการวิเคราะห์ข้อมูลทุกอย่างเพื่อเป็นกระจกส่องการดำเนินงานและบริหารการเงิน การสร้างรากฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น จะทำให้การทำงานของทุกฝ่ายง่ายขึ้น”

ชาริณี กัลยาณมิตร หรือที่ใครหลายคนคุ้นหูในชื่อ “แชนนอน” ผู้ก่อตั้ง MOXY และปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งเป็น Regional Chief Marketing Officer แห่ง Whatsnew

“การทำธุรกิจนั้น จะต้องมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้อยู่ตลอดเวลา ต้องมองเห็นโอกาส และปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว ให้ความสำคัญกับจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวคุณ บริษัท และทีม เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสร้างรากฐานที่ดีเพื่อเตรียมตัวรับมือกับคู่แข่งในอนาคต

แม้ว่าคุณจะวางแผนไว้อย่างดีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็จะมีสิ่งต่างๆรอบตัวที่ทำให้แผนของคุณเปลี่ยนได้เสมอ เช่น ทีม พาร์ทเนอร์ และสภาวะของตลาดในช่วงนั้น การที่จะก้าวข้ามอุปสรรค์เหล่านี้ได้ คุณจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และพร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ แต่ยังคงต้องยึดมั่นกับจุดมุ่งหมายระยะยาวของคุณ

การทำธุรกิจ ก็เหมือนกับการเป็นการกำกับหนังหรือละครที่มีเนื้อเรื่องหลักมีจุดหมายที่ตรงกัน การประกอบและบริหารตัวละคร ทุกคน มีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าผู้นำทีมนั้น จะบริหารจัดการอย่างไร

ฉันเลือกที่จะพูดถึงการเป็นผู้ประกอบการหญิง เพราะฉันอยากจะสนับสนุนผู้หญิงและแนะนําผู้หญิงมาประกอบธุรกิจหรือสู้ที่จะเลื่อนขั้นเป็นผู้บริหาร กล้าคิดกล้าทํา ฉันอยากจะให้กำลังใจกับผู้หญิงทุกคน ไม่ใช่แค่คนที่เคยชินกับความเท่าเทียมของเพศเหมือนฝั่งตะวันตก แต่กับผู้หญิงส่วนมากในเมืองไทยนี้ ที่ไม่ทราบถึงโอกาส ไม่มั่นใจหรือกล้าคิดจะทําเพราะไม่เหมาะ ถึงความสำเร็จที่เป็นไปได้ถ้าลองทํา ฉันอยากจะเน้นย้ำ ว่าทุกคนรวมทั้งผู้หญิงนั้นมีความสามารถต่างๆที่มีเอกลักษณ์สามารถทำให้พวกเราได้เป็นผู้นำและก่อตั้งพัฒนาธุรกิจไปได้ไกล คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญกับองค์กรได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม

กำลังพลคือสิ่งสำคัญในการเอาชนะสงคราม และกองทัพที่ดี จะต้องสร้างขึ้นมาด้วยกลยุทธ์ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และความฉลาดทางอารมณ์ [Emotional Intelligence] ฉันเชื่อว่าทุกคนมีจุดแกร่งของตนเอง ผู้หญิงโดยส่วนมากแล้วจะมีทักษะด้านมนุษย์ที่ดี และเป็นมุมมองที่สำคัญอย่างหนึ่งในองค์กรเลยทีเดียว คุณไม่มีทางรู้ว่าคู่แข่งจะมาไม้ไหน สิ่งสำคัญคือเราจะต้องใช้ทรัพยากรทั้งหมดของเราให้เต็มที่ที่สุดเพื่อเอาชนะสงครามนั้นไปได้ นั่นรวมถึงทุกคน ไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม”

ติดตามความเคลื่อนไหวของนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จทั้ง 4 คนนี้ ในงานเปิดโครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท batch 5 ในวันที่ 2 มีนาคม นี้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทีทีบี จับมือ databricks ผสานพลัง Data และ AI สร้างอนาคตการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย

ทีทีบี ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการธนาคารไทย จับมือพันธมิตร databricks พร้อมเดินหน้าสร้าง Data-driven Culture ปักธงก้าวสู่ธนาคารที...

Responsive image

LINE SCALE UP เปิดรับสตาร์ทอัพทั่วโลก ต่อยอดธุรกิจกับ LINE ก้าวสู่ระดับสากล

LINE SCALE UP เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน LINE Thailand Developer Conference 2024 ที่ผ่านมา เฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ และพร้อมต่อยอดธุรกิจร่วมกับ LINE สู่เป้าหมายยกระดับธุรกิจสตา...

Responsive image

MarTech MarTalk 2024 EP.3 จากต้นกล้าสู่ความสำเร็จ ด้วยการพัฒนาคนและ MarTech

ChocoCRM จัดงานใหญ่ส่งท้ายปีกับงาน MarTech MarTalk 2024 EP.3 From Seeds to Success: Driving Business Growth with People and Marketing Technology ได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่องเป็น...