วีซ่า เน้น 'ความปลอดภัยในการชำระเงิน' คือกุญแจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล

วีซ่า เน้น 'ความปลอดภัยในการชำระเงิน' คือกุญแจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล

ในยุคที่การค้าอีคอมเมิร์ซมีความปลอดภัยสูงขึ้น ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า รวมถึงการเข้าถึงการใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน วีซ่า ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบความปลอดภัยร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมข้อมูล

การชำระเงินรูปแบบดิจิตอลยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค สืบเนื่องจากการที่ผู้บริโภคเข้าถึงอีคอมเมิร์ซและเปิดรับการทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งกลุ่มธนาคารและหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการเงินได้เล็งเห็นประโยชน์จากการทำธุรกรรมการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอล ที่นอกจากจะสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างนวัตกรรม และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินสด จึงทำให้หน่วยงานต่าง ๆ มีการส่งเสริมการชำระเงินในรูปแบบนี้มากยิ่งขึ้น

แต่กระนั้นก็ตามพัฒนาการการใช้จ่ายเงินในรูปแบบดิจิตอลยังก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลในระบบนิเวศน์ ที่ดึงดูดอาชญากรในโลกไซเบอร์ จากผลวิจัยของอุตสาหกรรมฯ มีการคาดการณ์ว่าในอีกห้าปีข้างหน้าจะมีแนวโน้มที่การโจรกรรมข้อมูลบนโลกออนไลน์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียกว่า 130 พันล้านดอลล่าสหรัฐในกลุ่มผู้ค้าปลีกทั่วโลกเกิด

โจ คันนิ่งแฮม ผู้อำนวยการฝ่ายการบริหารจัดการความเสี่ยงของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า รัฐบาลในเกือบทุกประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค มุ่งเน้นที่จะผลักดันประเทศให้เข้าสู่ความเป็นดิจิตอลมากยิ่งขึ้น เพื่อลดการใช้จ่ายผ่านเงินสดและเช็คให้น้อยลง และเปิดโอกาสการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ของการชำระเงินรูปแบบดิจิตอล อุตสาหกรรมการชำระเงินถือเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อกำเนิดข้อมูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลบางส่วนมีความละเอียดอ่อน และดึงดูดอาชญากรบนโลกไซเบอร์  นอกเหนือจากการเสริมสร้างนวัตกรรมแล้ว วีซ่า ยังมีหน้าที่หลักในการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กำระบบนเวศน์การชำระเงิน เพื่อให้แน่ใจว่า วีซ่า ยังคงเป็นเครือข่ายการชำระเงินดิจิตอลที่มีความทันสมัย เชื่อถือได้ และปลอดภัยที่สุดสำหรับร้านค้า ผู้ถือบัตร และเครือข่ายการชำระเงินทั่วโลก

โจ คันนิ่งแฮม ผู้อำนวยการฝ่ายการบริหารจัดการความเสี่ยงของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

การเพิ่มเลเยอร์ในการรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน

ธนาคารผู้ออกบัตร และร้านค้าต่างเร่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในการเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินให้แก่ผู้บริโภคได้ไม่ว่าจะเป็นการใช้ข้อมูลการชำระเงินผ่านหลากหลายช่องทางและอุปกรณ์ ภายในปี 2564 คาดว่าจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมถึงกันมากกว่า 25 พันล้านเครื่อง

เมื่อผู้บริโภคมีการซื้อและชำระเงินผ่านอุปกรณ์ดิจิตอลเพิ่มขึ้น วีซ่า เป็นตัวแปรสำคัญในการชเสริมความปลอดภัยของระบบนิเวศในการชำระเงิน ด้วยการเพิ่มเลเยอร์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญของผู้ถือบัตร ด้วยโซลูชั่น และบริการต่างๆ ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ผ่านการปกป้องข้อมูล และเปลี่ยนข้อมูลสำคัญให้เป็นข้อมูลที่นำไปใช้ต่อไม่ได้สำหรับอาชญากรในโลกไซเบอร์

วิธีการนี้ได้ช่วยให้สถิติการโจรกรรมข้อมูลบัตรทั่วโลกให้อยู่ในอัตราที่ต่ำที่สุดในประวัติการณ์ ในขณะที่การใช้จ่ายเงินในรูปแบดิจิตอลเติบโตอย่างต่อเนื่อง วีซ่าคาดว่าภายในปี 2568 การใช้จ่ายเงินในรูปแบบดิจิตอลยังจะเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ขยับตาม

การใช้นวัตกรรมเพื่อต่อกรกับการฉ้อโกง

นวัตกรรมนั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม ภัยคุกคามของอาชญากรรมไซเบอร์จะมีความซับซ้อนและแพร่หลายมากขึ้น วีซ่า ได้ร่วมกับอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาโซลูชั่นและวิธีการใหม่ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยในอีคอมเมิร์ซ และป้องกันการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้น

หนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโซลูชั่น Visa Advanced Authorisation ที่ทำงานโดยการประยุกต์เทคโนโลยี Machine Learning เข้ากับ Artificial Intelligence ในการตรวจหาข้อมูลความเสี่ยงต่างๆ มากกว่า 500 จุด เพื่อประเมิณว่าธุรกรรมนั้นๆ อาจเป็นการโจรกรรมหรือไม่ โดยคะแนนจะถูกส่งต่อให้กับสถาบันการเงินเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการอนุมัติแต่ละธุรกรรม โดยเฉลี่ยในแต่ละวัน วีซ่าจะมีการวิเคราะห์ข้อมูลลักษณะนี้มากกว่าหกพันล้านรายการ

ในเอเชียแปซิฟิก ตลาดอีคอมเมิร์ซคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564 และจะทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นตลาดช็อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Tokenisation จะช่วยให้ผู้ใช้บัตรวีซ่ามั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหลขณะซื้อสินค้าออนไลน์ บริการโทเค็นของวีซ่า (Visa Token Service) จะทำหน้าที่เปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญของผู้ถือบัตร เช่น หมายเลขหน้าบัตร 16 หลัก เป็นข้อมูลดิจิตอลอื่นๆที่เรียกว่าโทเค็น โดยโทเค็นนี้จะช่วยให้การชำระเงินแบบดิจิตอลเกิดขึ้นได้โดยไม่เผยข้อมูลสำคัญๆของผู้ถือบัตร

“เรามองเห็นอนาคตที่พาสเวิร์ดอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป โดยแทนที่ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ เพื่อการพิสูจน์ตัวตน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในการโจรกรรมข้อมูล ในขณะที่รัฐบาลและธุรกิจต่างมองหาช่องทางการขยายวิธีการชำระเงินใหม่ๆ วีซ่ายังคงจะมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาและลงทุนในมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัยปลอดภัยและไร้รอยต่อสำหรับผู้บริโภค” มร. คันนิ่งแฮมกล่าวเสริม

งานประชุมสุดยอดความมั่นคงทางการรักษาความปลอดภัยในระบบชำระเงินของวีซ่า ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2562 ถือเป็นหนึ่งในงานความปลอดภัยด้านการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 มิถุนายน 2562 และได้รวบรวมผู้บริหารที่ดูแลด้านความเสี่ยงชั้นนำระดับภูมิภาคไว้ภายในงานมากมาย เพื่อรวมแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางการปฏิบัติด้านนวัตกรรมการชำระเงิน ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คน เพื่อรับฟังและปูทางสำหรับทิศทางอุตสาหกรรมการเงินในอนาคต

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทีทีบี จับมือ databricks ผสานพลัง Data และ AI สร้างอนาคตการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย

ทีทีบี ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการธนาคารไทย จับมือพันธมิตร databricks พร้อมเดินหน้าสร้าง Data-driven Culture ปักธงก้าวสู่ธนาคารที...

Responsive image

LINE SCALE UP เปิดรับสตาร์ทอัพทั่วโลก ต่อยอดธุรกิจกับ LINE ก้าวสู่ระดับสากล

LINE SCALE UP เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน LINE Thailand Developer Conference 2024 ที่ผ่านมา เฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ และพร้อมต่อยอดธุรกิจร่วมกับ LINE สู่เป้าหมายยกระดับธุรกิจสตา...

Responsive image

MarTech MarTalk 2024 EP.3 จากต้นกล้าสู่ความสำเร็จ ด้วยการพัฒนาคนและ MarTech

ChocoCRM จัดงานใหญ่ส่งท้ายปีกับงาน MarTech MarTalk 2024 EP.3 From Seeds to Success: Driving Business Growth with People and Marketing Technology ได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่องเป็น...