Wongnai for Business พาร์ทเนอร์ธุรกิจร้านอาหารอันดับ 1 ของไทย พร้อมพาธุรกิจร้านอาหารไทยลุยศึก O2O (Online to Offline) จัดงานสัมมนาครั้งใหญ่แห่งปี “Wongnai for Business: Restaurant 2020” เผยเทรนด์และเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจร้านอาหารแห่งอนาคต เจาะพฤติกรรมผู้บริโภคยุคเดลิเวอรี โดย คุณยอด ชินสุภัคกุล หัวเรือใหญ่แห่ง Wongnai นำทีมพาร์ทเนอร์ ได้แก่ คุณชวิน ศุภวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ FoodStory และคุณวรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN รวมถึงเจ้าของธุรกิจร้านอาหารตัวจริง ร่วมเปิดเคล็ดลับการปรับตัวของธุรกิจร้านอาหารแห่งทศวรรษใหม่ในยุค O2O ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ เมื่อเร็วๆ นี้
คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด กล่าวว่า “การทำร้านอาหารเป็นความฝันของหลายคน นับตั้งแต่ก่อตั้ง Wongnai ขึ้นมาจนตอนนี้ครบ 10 ปีแล้ว ถือว่าเป็นตัวจริงด้านธุรกิจร้านอาหารที่มีข้อมูลในทุกมิติมากที่สุดในไทย ซึ่งข้อมูลแสดงให้เห็นชัดเจนว่า การทำธุรกิจร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย ธุรกิจร้านอาหารในฐานข้อมูลของ Wongnai มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 40% ระหว่างปี 2018-2019 แต่หากย้อนดูสถิติในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีร้านอาหารที่เปิดใหม่เพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด และมีการเปิด-ปิดร้านอาหารหลายร้อยร้านในทุกสัปดาห์ โดยมีจำนวนร้านอาหารเปิดใหม่ทั้งหมดในปี 2019 ทั่วประเทศ พุ่งเป็น 70,149 ร้าน โตขึ้นจากจำนวนร้านเปิดใหม่ในปี 2018 ถึง 97% แล้วยิ่งในยุคนี้ที่กระแส O2O (Online to Offline) กำลังส่งสัญญาณแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเดลิเวอรี และการแข่งขันที่ดุเดือดยิ่งขึ้น จึงทำให้ Wongnai for Business เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์หรือเพื่อนคู่คิดที่คอยแชร์ข้อมูล ความรู้ เทคนิค และเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือในการทำธุรกิจร้านอาหารให้ ‘อยู่รอด’ ในยุคแห่ง O2O นี้”
โดยในงาน Wongnai for Business: Restaurant 2020 นี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจตลอดปีที่ผ่านมาแบบจัดเต็ม ด้วยฐานข้อมูลร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไทย กว่า 320,000 ร้านอาหารบน Wongnai และผู้ใช้บริการอาหารเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN กว่า 2,200,000 คน พร้อมกับโชว์เคส Restaurant Solution เครื่องมือสำหรับร้านอาหารในยุค O2O ที่ครบวงจรที่สุด โดยมีทั้งเทคโนโลยี ระบบ แอปพลิเคชัน รวมไปถึงบริการใหม่ๆ ที่พัฒนาโดย Wongnai พาร์ทเนอร์ธุรกิจร้านอาหารอันดับ 1 ของไทย ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในยุค O2O ไม่ว่าจะเป็น
- Wongnai POS ระบบบริหารจัดการร้านอาหารแบบครบวงจร ทั้งการจัดการเมนู รับออเดอร์ การคิดเงิน และสรุปและวิเคราะห์ยอดขาย เหนือกว่าด้วยฟีเจอร์ O2O ที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชันและเว็ปไซต์ Wongnai เพื่ออัปเดตเมนูและโปรโมชันใหม่, เชื่อมต่อ LINE MAN เพื่อรับออเดอร์เดลิเวอรี, เชื่อมต่อบัตรสะสมแต้ม Wongnai Reward Card ที่เป็นระบบ CRM (Customer Relationship Management) สำหรับร้านอาหารเพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำ
- Wongnai Merchant App แอปพลิเคชันจัดการออเดอร์ที่เชื่อมต่อกับ LINE MAN เพื่อรับออเดอร์เดลิเวอรี เชื่อมต่อกับ Rabbit LINE Pay รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับ บัตรสะสมแต้ม Wongnai Reward Card
- Wongnai Owner Connect บริการล่าสุดที่สามารถรายงานยอดขายที่เกิดขึ้นบน Wongnai Merchant App และ Wongnai POS ผ่านทาง LINE OA ให้เจ้าของร้านอาหารได้อัปเดตยอดขายแบบเรียลไทม์
- Wongnai Reward Card ระบบบัตรสะสมแต้มเพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำผ่านเบอร์โทรศัพท์ ทำให้รู้จักลูกค้ามายิ่งขึ้น เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า
- ฟีเจอร์ล่าสุด “สั่งกลับบ้าน (Pick-up)” บนแอปพลิเคชัน Wongnai และ Wongnai Merchant App ที่ให้ลูกค้าสามารถกดสั่งอาหารกลับบ้านก่อนถึงร้าน เพื่อย่นเวลาในการรอคิวหน้าร้าน
“ในปีที่ผ่านมาธุรกิจ Restaurant Solution ของ Wongnai เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงกว่า 5 เท่า จากปีก่อนหน้า และมีจำนวนร้านอาหารที่ใช้ระบบของเรามากกว่า 80,000 ร้านทั่วประเทศ ด้วยปัจจัยบวกหลายประการ ทั้งอัตราเติบโตของร้านอาหารทั่วไทย ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีร้านอาหาร และความตื่นตัวด้านเทคโนโลยีของเจ้าของธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น โดยในปีนี้เรามีแผนที่จะพัฒนาฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเชื่อมต่อร้านอาหารเข้ากับลูกค้าอย่างไร้รอยต่อที่จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารไทยเติบโตอย่างยั่งยืนในยุค O2O” คุณยอดสรุป
สรุปไฮไลท์เด็ดจากงาน “Wongnai for Business: Restaurant 2020”
จำนวนร้านอาหารเปิดใหม่ทั่วไทยในปี 2019 โตพุ่ง 97%
- ธุรกิจร้านอาหารในฐานข้อมูลของ Wongnai มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 40% ระหว่างปี 2018-2019 แต่หากย้อนดูสถิติในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีร้านเปิดใหม่เพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด
- จำนวนร้านอาหารเปิดใหม่ทั้งหมดในปี 2019 ทั่วประเทศ พุ่งเป็น 70,149 ร้าน โตขึ้นจากจำนวนร้านเปิดใหม่ในปี 2018 ถึง 97%
- กรุงเทพฯ ครองแชมป์จังหวัดที่มีร้านอาหารเปิดใหม่มากที่สุด ตามมาด้วยจังหวัดในเขตปริมณฑล นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ตามลำดับ
- ร้านขนาดเล็กถึงกลางเปิดใหม่เป็นสัดส่วนมากที่สุด
ร้านกาแฟและคาเฟ่ อาหารไทย และก๋วยเตี๋ยวครองใจคนไทย ส่วนร้านชานมไข่มุกแข่งเดือด เปิดใหม่ 700%
- ร้านกาแฟและคาเฟ่ อาหารไทย และก๋วยเตี๋ยว ติด Top 3 ประเภทร้านอาหารเปิดใหม่สูงสุด
- เทรนด์ร้านกาแฟเติบโตทั้งในเชิงกว้าง คือจำนวนร้านเพิ่มขึ้นกว่า 50% พร้อมกับการขยายตัวในเชิงลึก คือ การใส่ใจคัดสรรเมล็ดพันธุ์ที่พรีเมี่ยมมากขึ้น วิธีการชงที่ปราณีตบรรจงเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในการเสพศิลปะของกาแฟ
- ร้านชานมไข่มุกมาแรง อัตราการเปิดใหม่สูงที่สุดถึง 700%
เผยพฤติกรรมนักกิน “ยำ” ยืนหนึ่งเมนูอาหารที่ถูกค้นหามากที่สุดในไทย
- “ยำ” เมนูยอดฮิตแห่งปี ขึ้นแท่นอันดับ 1 เมนูอาหารที่ถูกค้นหามากที่สุดบน Wongnai ตามมาด้วยข้าวมันไก่ ข้าวต้ม/โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเรือ และ ขนมจีน ตามลำดับ
- ปูไข่ดอง หม่าล่า ยังไม่หลุดจากโผเมนูอาหารยอดฮิต
- 44% ของนักกิน Wongnai เป็นวัยรุ่นและวัยกลางคน (25-34 ปี) อีก 24% เป็นคนอายุ 35-44 ปี
- เพศหญิงชอบทานอาหารนอกบ้าน คิดเป็นสัดส่วน 64%
- ในปี 2019 มีจำนวนการค้นหาร้านอาหารจาก Google และมาจบที่ Wongnai กว่า 200 ล้านครั้ง
ธุรกิจร้านอาหารเดลิเวอรีปี 2019 โตสูงสุด แตะ 14%
- ธุรกิจร้านอาหารเดลิเวอรีโตต่อเนื่อง 5 ปีติด (2014-2018) โตเฉลี่ย 10% ต่อปี ในปี 2019 โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะ 14%
- มูลค่าตลาดรวมร้านอาหารเดลิเวอรีในปี 2019 มูลค่า 31,814 ล้านบาท
- เขตปทุมวัน ครองแชมป์เขตที่มีออเดอร์สั่งซื้ออาหารสูงสุดในปี 2019 เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ถึง 70% และเป็นเขตที่มีจำนวนร้านอาหารที่ให้บริการเดลิเวอรีมากที่สุดในกรุงเทพฯ ถึง 4,000 ร้าน
- ย่านออฟฟิศคนทำงาน ได้แก่ เขตวัฒนา เขตจตุจักร และเขตลาดพร้าว ยอดออเดอร์เพิ่มเฉลี่ย 40-60%
- อำเภอเมืองนนทบุรี ม้ามืดโตพุ่ง 300% ภายในปีเดียว กระโดดจากอันดับที่ 20 ในปี 2018 มาเป็นอันดับที่ 5 ในปี 2019 ของเขตที่มีการสั่งออเดอร์เพิ่มขึ้นมากที่สุด
- ร้านก๋วยเตี๋ยว ติดอันดับ 1 ร้านที่มียอดการสั่งออเดอร์สูงที่สุด โดยร้านก๋วยเตี๋ยวยอดฮิตเดลิเวอรีคือร้านรุ่งเรือง ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ
- ชานมไข่มุก ยอดออเดอร์เดลิเวอรีเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
- ในปี 2019 มีจำนวนร้านอาหารที่มีเพียงหน้าร้านออนไลน์เพียงอย่างเดียวเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากปี 2018 ที่มีเพียง 800 ร้าน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พฤติกรรมลูกค้าที่ควรจับตาในยุคเดลิเวอรีครองเมือง
- 63% ของลูกค้าสะดวกใช้บริการเดลิเวอรีมากกว่าออกไปกินที่ร้าน
- 76% ของลูกค้าที่ใช้บริการเดลิเวอรีกับร้านนั้นๆ มีแนวโน้มจะเดินทางไปร้านอาหารมากขึ้น
- 40% ของผู้ใช้บริการเดลิเวอรีเป็นวัยรุ่นและวัยกลางคน (25-34 ปี) รองลงมาคือกลุ่มอายุ 18-24 ปี และกลุ่มอายุ 35-44 ปี ตามลำดับ
- วันที่มีออเดอร์เดลิเวอรีสูงที่สุด คือ วันอาทิตย์ วันเสาร์ และวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่าลูกค้านิยมสั่งอาหารในช่วงวันหยุดมากกว่า
- ช่วงเวลาที่สั่งเดลิเวอรีเยอะสุด คือ 11.00 น., 18.00 น. และ 17.00 น. ตามลำดับ
- โจ๊ก จากร้านโจ๊กสามย่าน เมนูร้านดังที่คนนิยมสั่งช่วงหลังเลิกงานมากที่สุด
- หมูปลาร้า จากร้านหมูต่ำ ราชดำเนิน เมนูร้านดังที่คนนิยมสั่งช่วงหลังเที่ยงคืนมากที่สุด