Xiaomi เผยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 64 ยอดรายรับยั่งยืน ผลกำไรเติบโต | Techsauce

Xiaomi เผยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 64 ยอดรายรับยั่งยืน ผลกำไรเติบโต

ปักกิ่ง, ฮ่องกง, 25 พฤศจิกายน 2564 – เสียวหมี่ คอร์เปอเรชัน (“เสียวหมี่” หรือ “กลุ่มธุรกิจ”; Stock Code:1810) บริษัทด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะด้วยการเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เผยผลการดำเนินงานก่อนตรวจสอบในช่วงสามเดือนและหกเดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564

ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 รายรับรวมของเสียวหมี่อยู่ที่ 78.1 พันล้านหยวน เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 8.2% และมีกำไรสุทธิหลังการปรับปรุงประจำไตรมาสอยู่ที่ 5.2 พันล้านหยวน เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 25.4% โดยสิ่งแวดล้อมทางตลาดระดับมหภาคของโลก รวมถึงมุมมองของตลาดที่มีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีนประจำไตรมาสที่ 3 ส่งผลโดยตรงต่อการวัดผลแผนการลงทุนระยะยาวของเสียวหมี่ที่ในปัจจุบันนี้มีทั้งผลกำไรและขาดทุน โดยตัวเลขการรับรู้การขาดทุนอย่างไม่เป็นทางการส่งผลต่อกำไรสุทธิของเสียวหมี่อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ศักยภาพในการทำกำไรในธุรกิจหลักของเสียวหมี่ยังคงมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โมเดลธุรกิจอันเยี่ยมยอดของเสียวหมี่รวมถึงการดำเนินงานทำให้บริษัทมีรายได้รวมและกำไรสุทธิหลังการปรับปรุงเติบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของ MIUI ทั่วโลกเพิ่มสูงเกินกว่า 500 ล้านราย จากข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของกลยุทธ์ “Smartphone x AIoT” ของเสียวหมี่ 

ตัวเลขไฮไลต์ของช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 มีดังนี้

  • รายได้รวมอยู่ที่ 78.06 พันล้านหยวน เติบโต 8.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

  • กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 14.29 พันล้านหยวน เติบโตขึ้น 40.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

  • กำไรหลังการปรับปรุง อยู่ที่ 5.18 พันล้านหยวน เติบโตขึ้น 25.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

เสียวหมี่ กล่าวว่า “ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เสียวหมี่ยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์หลัก “Smartphone × AIoT” และรุกหน้าเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม เสียวหมี่ครองอันดับ 1 ของยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนใน 11 ประเทศและภูมิภาค และเดินหน้าศึกษาและสรรสร้างนวัตกรรมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในตลาดพรีเมียม รายรับจากการให้บริการอินเทอร์เน็ตในไตรมาสนี้สร้างสถิติใหม่และเสียวหมี่มุ่งมั่นลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่จะส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ของเรา” นอกจากนี้ จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของ MIUI ทั่วโลกเพิ่มสูงเกินกว่า 500 ล้านราย จากข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของ กลยุทธ์ “Smartphone x AIoT” ของเสียวหมี่

สรุปผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 

รายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตรายไตรมาสเพิ่มขึ้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

ในไตรมาสที่ 3 ศักยภาพในการทำกำไรของเสียวหมี่ยังคงแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากรายรับจากการให้บริการอินเทอร์เน็ตสูงกว่า 7.3 พันล้านหยวนซึ่งถือเป็นสถิติใหม่รายไตรมาส เติบโตขึ้น 27.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ผลกำไรขั้นต้นของธุรกิจด้านบริการอินเทอร์เน็ตนั้นอยู่ที่ 73.6 % สูงขึ้นกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 13.1 %

ในขณะเดียวกัน ฐานผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 3 โดยจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของ MIUI ทั่วโลก สูงเกินกว่า 500 ล้านผู้ใช้เป็นครั้งแรก จากข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการขยายตลาดตัวโลกของเสียวหมี่ ในเดือนกันยายน 2564 จำนวนผู้ใช้รายเดือนของ MIUI เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็น 485.9 ล้านผู้ใช้ โดยเป็นผู้ใช้งานจากประเทศจีน 127.3 ล้านราย สูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 16.4% โดยเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน ในเดือนกันยายน 2564 จำนวนผู้ใช้รายเดือนของเสียวหมี่สมาร์ททีวีทั่วโลกและเสียวหมี่บ็อกซ์ (Xiaomi Box) ขยายตัวขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวนผู้ใช้บริการแบบเสียค่าสมาชิกอยู่ที่ 4.7 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 13.5% 

ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 รายรับจากธุรกิจโฆษณาของเสียวหมี่อยู่ที่ 4.8 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 44.7% เป็นผลมาจากฐานผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้น และศักยภาพของกลุ่มบริษัทเสียวหมี่ในการสร้างรายได้ที่สูงขึ้น เสียวหมี่มีรายรับจากธุรกิจเกมอยู่ที่ 1 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 25% จากการนำเสนอเกมคุณภาพสูง อีกทั้งรายได้เฉลี่ยจากเกมต่อผู้ใช้ (ARPU) จากกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมและเกมมิ่งสมาร์ทโฟนสูงขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 รายได้ของกลุ่มบริษัทฯ จากบริการอื่นๆ คิดเป็น 1.6 พันล้านหยวน โดยไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 Youpin แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเครือเสียวหมี่ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Life Element โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันคุณภาพสูงมากมายในราคาที่จับต้องได้ และในเดือนพฤศจิกายนนี้ Youpin ยังเปิดตัว UP ระบบการจ่ายค่าบริการสมาชิกที่จะยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ของผู้ใช้อีกด้วย

ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 นี้ รายรับจากบริการอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศของเสียวหมี่เพิ่มขึ้น 110% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 1.5 พันล้านหยวน หรือคิดเป็น 19.9% ของรายรับจากธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทั้งหมด โดยถือเป็นสถิตรายไตรมาสใหม่ ในอนาคต กลุ่มบริษัทฯ จะขยายและสร้างความร่วมมือใหม่ๆ กับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกและนำเสนอบริการใหม่ๆ สู่ตลาดต่างประเทศ 

เสียวหมี่ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ กลุ่มบริษัทฯ ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 9.3 พันล้านหยวนใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 51.4 % ในเดือนกันยายน 2564 เสียวหมี่เปิดตัว Xiaomi Smart Glasses แว่นอัจฉริยะที่มีหน้าจอแสดงข้อมูลและคุณสมบัติอินเตอร์แอคทีฟมากมาย ในเดือนพฤศจิกายน 2564 เสียวหมี่เปิดตัวเทคโนโลยี Loop LiquidCool Technology ที่ช่วยระบายความร้อนสมาร์ทโฟนขณะใช้งานหนักได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 แผนกวิจัยและพัฒนาของเสียวหมี่มีพนักงานรวมทั้งหมด 13,919 คน หรือคิดเป็น 44% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

รายได้จากตลาดต่างประเทศสูงขึ้นจากยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนที่สูงเป็นอันดับ 1 ใน 11 ประเทศและภูมิภาค

รายได้จากตลาดต่างประเทศของเสียวหมี่เพิ่มสูงขึ้นเป็น  40.9 พันล้านหยวนในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 คิดเป็น 52.4% ของรายได้ทั้งหมด แม้จะประสบปัญหาการขาดแคลนส่วนประกอบที่สำคัญ เสียวหมี่ยังรักษาตำแหน่งผู้นำในแต่ละประเทศด้วยการจัดสรรและกระจายทรัพยากรในตลาดโลก รวมถึงการส่งเสริมช่องทางการขายให้เหมาะสมกับเงื่อนไขต่างๆ ของแต่ละประเทศ จากการรายงานของ Canalys พบว่า เสียวหมี่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ 1 ใน 11 ประเทศและภูมิภาค และยังเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟน 5 อันดับแรกใน 59 ประเทศและภูมิภาคอีกด้วย

เสียวหมี่ยังคงเดินหน้าสร้างการรับรู้ในตลาดโลกอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 จากการรายงานของ Canalys ระบุว่า เสียวหมี่เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 2 ของยุโรปในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2564 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 21.5% ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ได้รับส่วนแบ่งการตลาด 17% และเป็นแบรนด์ 3 อันดับแรกเมื่อคิดจากยอดจัดส่ง   สมาร์ทโฟนในภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก เสียวหมี่เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 2 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 28.7%  ในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2564 เสียวหมี่จำหน่ายสมาร์ทโฟนไปกว่า 6.8 ล้านเครื่องผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายในตลาดต่างประเทศ โดยไม่รวมประเทศอินเดีย เติบโตขึ้นกว่า 130% จากปีก่อนหน้า จากการรายงานของ Canalys กล่าวว่า ส่วนแบ่งทางการตลาดของสมาร์ทโฟนเสียวหมี่ในยุโรปตะวันตกผ่านช่องทางผู้ให้บริการเครือข่ายเพิ่มขึ้นจาก 4.6% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 สู่ 13% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 

ในขณะเดียวกัน เสียวหมี่ยังคงเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของแบรนด์ในตลาดเกิดใหม่ รายงานของ Canalys ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2564 ส่วนแบ่งทางการตลาดของเสียวหมี่ในภูมิภาคละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเพิ่มขึ้นเป็น 11.5%, 16.3% และ 7.3% ตามลำดับ นอกจากนี้เสียวหมี่ครองตำแหน่งผู้นำสมาร์ทโฟนในประเทศอินเดีย เมื่อพิจารณาจากยอดจัดส่งเป็นไตรมาสที่ 16 ติดต่อกัน

ยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนไตรมาส 3 เติบโต ครองตำแหน่งอันดับ 3 ของโลก พร้อมรุกตลาดพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง 

ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 แม้ว่าจะเกิดวิกฤตขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตทั่วโลก กลุ่มบริษัทฯ ยังสามารถส่งมอบสมาร์ทโฟนกว่า 43.9 ล้านเครื่องทั่วโลก รายงานของ Canalys ระบุว่า ยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ในไตรมาสที่ 3    ครองอันดับ 3 ของโลกโดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 13.5% โดยมีรายได้จากการขายสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 47.8 พันล้านหยวน และมีกำไรขั้นต้นที่ 12.8% นับว่าเติบโตขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

เสียวหมี่ได้ขยายฐานลูกค้าจากการใช้กลยุทธ์แบ่งกลุ่มตลาดและการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยจะเห็นได้จากยอดผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวเหล่าสมาร์ทโฟนในปีนี้ ผู้ใช้งานเกินกว่าครึ่งคือลูกค้าใหม่ นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูลน้องใหม่อย่าง ซีวี่ (Xiaomi Civi Series) ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากบรรดาเสียวหมี่แฟน 

ในช่วง 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมาของปี 2564 ยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ที่มีราคา 3,000 หยวนหรือมากกว่าในประเทศจีน และสินค้าที่มีราคา 300 ยูโรหรือเทียบเท่าในตลาดต่างประเทศนั้นอยู่ที่ประมาณ 18 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็น 12% ของยอดส่งมอบทั้งหมด โดยในไตรมาสที่ 3 สำหรับตลาดต่างประเทศ ยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนกลุ่มราคาตั้งแต่ 300 ยูโรขึ้นไปหรือเทียบเท่านั้นเติบโตขึ้น 180% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดหลักคือละตินอเมริกา ยุโรปตะวันตก และตะวันออกกลาง 

ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งวันคนโสดในเดือนพฤศจิกายน ยอดขายรวมของสมาร์ทโฟน Xiaomi และ Redmi ยังได้ขึ้นครองอันดับ 1 บนเว็บไซต์ Tmall.com, JD.com และ Suning.com นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียมของกลุ่มบริษัทฯ ยังมียอดขายเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีราคาตั้งแต่ 4,000 หยวนขึ้นไป บนเว็บไซต์ Tmall.com และ JD.com ยิ่งไปกว่านั้น ยอดขายสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ผ่านช่องทางออฟไลน์ในช่วงเทศกาลชอปปิ้งวันคนโสดนั้น ยังเพิ่มขึ้นกว่า 110% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สานต่อกลยุทธ์ “Smartphone x AIoT” พร้อมทะยานขึ้นสู่การเติบโตในช่องทางค้าปลีก

รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ของเสียวหมี่ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 อยู่ที่ 20.9 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยิ่งไปกว่านั้น รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกันในตลาดต่างประเทศนั้น ยังสูงเป็นประวัติการแม้ทั่วโลกจะเผชิญกับปัญหาการขนส่งทางเรือในไตรมาสนี้ 

ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ แม้ยอดจำหน่ายทีวีทั่วโลกจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ยอดส่งมอบสมาร์ททีวีของ     เสียวหมี่สูงถึง 3 ล้านเครื่อง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 19.5% จากการรายงานของ All View Cloud (“AVC”) ระบุว่า ยอดส่งมอบทีวีของเสียวหมี่ในประเทศจีน ครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องถึง 11 ไตรมาสติดต่อกัน และยังติดอันดับ 1 ใน 5 แบรนด์ทีวีของโลกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 อีกด้วย

นอกเหนือไปจากนี้ เสียวหมี่ยังขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สมาร์ทโฮมระดับพรีเมียมเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เสียวหมี่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมมากมายซึ่งรวมถึงตู้เย็นอัจฉริยะ 4 ประตู ความจุ 550 ลิตร และเครื่องซักผ้าขนาดเล็ก ตลอดจนเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะของเสียวหมี่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งวันคนโสด ยอดจำหน่ายรวมสินค้าสมาร์ทโฮมของเสียวหมี่สูงเป็นอันดับ 3 ของเว็บไซต์ JD.com 

เสียวหมี่ยังขยายแพลตฟอร์ม AIoT อย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 เสียวหมี่มีจำนวนอุปกรณ์ AIoT ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม (ไม่รวมสมาร์ทโฟน แทบเล็ต และคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป) เกินกว่า 400 ล้านเครื่องเป็นครั้งแรก และมีจำนวนผู้ใช้งานที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ AIoT ของเสียวหมี่ 5 เครื่องหรือมากกว่านั้นขึ้นไป บทแพลตฟอร์มทะลุ 8 ล้านคน 

ในปีนี้ เสียวหมี่ยังเร่งขยายช่องทางค้าปลีกออฟไลน์ ในขณะเดียวกันก็สร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางในการขายออนไลน์ไปพร้อมๆกัน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด และ ณ วันที่ข่าวนี้ถูกตีพิมพ์ เสียวหมี่มีร้านค้ามากกว่า 10,000 สาขาในประเทศจีน และยังพร้อมที่จะแผ่ขยายไปสู่ตลาดอื่นๆ ที่มีอัตราการเข้าถึงยากเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในประเทศจีนได้มากขึ้นอีกด้วย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำความรู้จักกับซิม IoT จาก SoftBank และ 1NCE จ่ายครั้งเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ปี

รู้จักซิมการ์ด IoT จาก 1NCE เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั่วโลกใน 173 ประเทศ ด้วยค่าใช้จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10 ปี เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันคุ้มค่าและจัดการง่าย...

Responsive image

AIS คว้ารางวัล Creative Equality Award ยกระดับชีวิต ส่งต่อพลังสร้างสรรค์เพื่อสังคม

AIS ตอกย้ำความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ คว้ารางวัล Creative Equality Award Creative ประเภท Social Impact Awards จากเวที Creative Excellence Awards 2024 ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จขอ...

Responsive image

กรุงศรีตั้ง ปาลิดา อธิศพงศ์ นั่งรักษาการกรรมการผู้จัดการของ Krungsri Finnovate เดินหน้าสตาร์ทอัปไทย

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศแต่งตั้ง นางสาวปาลิดา อธิศพงศ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการ Krungsri Finnovate...