AI กำลังแย่งงาน 99% ของมนุษย์ใน 5 ปี แล้วเราจะเอาเวลาว่าง 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ไปทำอะไร ?

ดราม่ามาแรงในวงการ AI เมื่อ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ Dr. Roman Yampolskiy ออกมาเตือนชัด ๆ ว่า เรื่องที่ AI จะมาแทนที่งานมนุษย์ “ไม่ใช่คำถามว่าเป็นไปได้ไหม แต่คือจะเร็วแค่ไหนที่คุณจะถูกไล่ออก”

AI ไม่ได้แค่แย่งงาน แต่มันคือการปิดเกมตลาดแรงงาน

หลังจาก ChatGPT เปิดตัวมาได้เพียง 3 ปี เราก็เห็นภาพชัดแล้วว่าหลายองค์กรเริ่มลดคนเพื่อเอา AI มาแทน แม้แต่งานที่คิดว่าไม่มีวันถูกแทนที่ อย่างครูหรือนักขับแท็กซี่ Yampolskiy บอกว่าก็ไม่รอดเหมือนกัน เพราะ AI และหุ่นยนต์กำลังจะเก่งพอทำทุกอย่างได้หมด

เขาทำนายว่า ใน 5 ปีข้างหน้า 99% ของงานทั้งหมดจะถูกแทนที่ ไม่ว่าจะงานใช้สมอง งานใช้แรง หรือแม้แต่งานสายเทคโนโลยีที่เคยถูกมองว่ามั่นคง เช่นการเขียนโค้ด ซึ่งวันนี้ AI ก็ทำได้ดีกว่ามนุษย์ไปแล้ว

“เมื่อก่อนเราบอกให้เรียนโค้ดดิ้ง เพราะเป็นสกิลแห่งอนาคต ต่อมาก็บอกว่าเป็น Prompt Engineer ดีกว่า แต่สุดท้าย AI กลับเขียนโค้ดและออกแบบ Prompt ได้เก่งกว่าคนอีก แบบนี้ก็จบเกม” Yampolskiy เล่าในพอดแคสต์ The Diary of a CEO

ไม่มีแผน B ให้ย้ายสายงานอีกต่อไป

Yampolskiy มองว่า แนวคิดถ้างานนี้หายไปก็ไปเรียนใหม่ จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะงานใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นก็จะถูก AI กวาดไปหมดอยู่ดี กลายเป็นโดมิโนเอฟเฟกต์ของการว่างงาน

เขาย้ำว่า ระดับการว่างงานในอนาคตจะไม่ใช่ 10% ที่เราว่าหนักแล้ว แต่คือสูงสุดถึง 99% และเหลืองานแค่บางอย่างที่คนยังอยากให้มนุษย์ทำ เช่น งานบริการที่ต้องการสัมผัสทางอารมณ์

โลกใหม่: มีเวลาเพิ่ม 60–80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

แม้ฟังดูเหมือนโลกดิสโทเปีย แต่มุมมองของเขาก็ไม่ใช่ด้านลบทั้งหมด เพราะถ้างานหายไปจริง มนุษย์จะมีเวลาเพิ่มขึ้นมหาศาล อาจจะเป็นสัปดาห์ละ 60–80 ชั่วโมง เพื่อเอาไปทำสิ่งอื่นแทน

เขามองคล้าย ๆ กับ Bill Gates ที่เคยพูดว่าอนาคตเราจะทำงานแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ หรือ Jensen Huang ที่ทำนายว่าโลกกำลังมุ่งสู่สัปดาห์ทำงาน 4 วัน เพียงแต่ Yampolskiy มองไกลกว่านั้น อาจไม่มีการทำงานอีกต่อไปเลย

คำถามใหม่: ถ้าไม่ต้องทำงานแล้ว มนุษย์จะทำอะไร?

สิ่งที่เขากังวลจริง ๆ ไม่ใช่การขาดงาน แต่คือคำถามต่อไปว่า แล้วใครจะเลี้ยงเรา ? จะเอารายได้จากไหน จะหาความหมายชีวิตจากอะไร ถ้ามีเวลาว่างเพิ่มอีก 60–80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ?

ในขณะที่เขายังไม่ได้คำตอบเรื่องเงิน แต่ผู้นำเทคโนโลยีอย่าง Elon Musk เสนอแนวคิด “universal high income” หรือการให้ทุกคนมีรายได้สูงพอที่จะใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องทำงาน และยังบอกด้วยว่าเรากำลังจะเข้าสู่ยุคแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่ไม่มีของขาดแคลนอีกต่อไป

อ้างอิง: fortune

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Fei-Fei Li เตือน! อนาคตเป็นของคนที่ ‘กล้าเสี่ยง’ ยุคนี้ Safe Zone คือจุดที่อันตรายที่สุด

Fei-Fei Li ผู้ร่วมก่อตั้ง World Labs และศาสตราจารย์จาก Stanford University หรือที่รู้จักกันในนาม ‘เจ้าแม่แห่งวงการ AI’ ได้ออกมาเปิดเผยเคล็ดลับสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในยุคที่เทคโนโล...

Responsive image

วิจัยชี้ Gen Z เตรียมพร้อมเกษียณ ได้ดีกว่ารุ่น Baby Boomers นี่คือรุ่นที่จะรอดตอนแก่มากที่สุด

ผลวิจัย Vanguard เผย Gen Z เตรียมพร้อมเกษียณดีกว่า Baby Boomer! เจาะปัจจัยทำไมคนรุ่นใหม่ถึงได้เปรียบ ทั้งระบบออมอัตโนมัติและเวลา พร้อมความเสี่ยงที่ต้องระวัง...

Responsive image

แนะนำ 5 หนังสือส่งท้ายปี จาก Bill Gates ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้ชีวิต

พอใกล้เข้าหน้าหนาวและช่วงวันหยุดยาว Bill Gates บอกว่านี่คือเวลาทองของการหยิบหนังสือดีๆ มาอ่านสักเล่ม โดยปีนี้เขาเลือกหนังสือมา 5 เล่ม ภายใต้ธีมที่น่าสนใจคือ “เบื้องหลังสิ่งสำคัญรอบ...