บทสัมภาษณ์พิเศษ 3 CEO หญิง กับความท้าทายของผู้หญิงในวงการ Startup ไทย | Techsauce

บทสัมภาษณ์พิเศษ 3 CEO หญิง กับความท้าทายของผู้หญิงในวงการ Startup ไทย

โลกของเราได้เดินทางมาสู่ยุคสมัยที่เปิดกว้างและยอมรับในความเท่าเทียมทางเพศกันมากขึ้นแล้ว แต่เมื่อมองมาที่วงการ Startup ในประเทศไทย กลับมองเห็นผู้หญิงในวงการนี้ค่อนข้างน้อย Techsauce จึงคว้าโอกาสนี้ เพื่อมาสัมภาษณ์ 3 หญิงเก่งแห่งวงการ Startup ไทย ทั้ง CEO ของ Sea (Garena), Ikigai Group และ Chiiwii LIVE

ประเด็นความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงานเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 เริ่มตั้งแต่ที่ดารา Hollywood ต่างพร้อมใจกันใส่ชุดราตรีสีดำล้วน เพื่อร่วมงาน Golden Globe เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนโครงการ Time’s up เพื่อตอบกลับกรณีของ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน (Harvey Weinstein) โปรดิวเซอร์และผู้บริหารค่ายหนังที่ถูกแฉว่าคุกคามทางเพศผู้หญิงมากว่า 30 ปี ไปจนถึงกรณีที่มี ผู้สื่อข่าว BBC ลาออกหลังจากสืบทราบว่าผู้ร่วมงานผู้ชายได้รับค่าจ้างมากกว่า

สามีเป็นช้างเท้าหน้า ภรรยาเป็นช้างเท้าหลัง- สำนวนไทยที่ทุกคนคุ้นหูกันดี

ถึงแม้บทบาทของผู้หญิงในครอบครัวมักเกี่ยวข้องกับการจัดการการเงิน และดูแลธุระต่างๆ ภายในบ้าน แต่ก็ยังต้องต่อสู้กับการถูกมองว่าเป็นเพศที่มีอารมณ์อ่อนไหว ซึ่งหากผู้หญิงเป็นเจ้าของธุรกิจครอบครัวมักจะถูกมองเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าพูดถึงการดำรงตำแหน่งสูงๆ ในบริษัทใหญ่ มักจะตามมาด้วยคำถามเสมอ

ในทุกๆ ประเทศในแถบ ASEAN มีผู้หญิงจบการศึกษาถึงเกินครึ่ง แต่มีผู้หญิงเพียง 30 คนต่อ ผู้ชาย 100 คนที่ดำรงตำแหน่งสูงๆ ในบริษัทใหญ่ แล้วในวงการ Startup ล่ะ? จะเป็นเช่นเดียวกันไหม?

Techsauce จึงนำประเด็นนี้มาพูดคุยกับ 3 CEO หญิงคนเก่ง คุณนก มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ, CEO Sea (Gerena), คุณแชนนอน กัลยาณมิตร แห่ง Ikigai Group, และ หมอแม้ว ศกุณี Dr. แห่ง Chiiwii LIVE เพื่อถกกันถึงประเด็นนี้

คุณคิดว่า ในตอนนี้มีผู้หญิงในวงการ Startup มากพอไหม?

หมอแม้ว: ในวงการ Startup มีผู้หญิงอยู่พอสมควร แต่ถ้าเทียบกับผู้ชายแล้ว ก็ถือว่ายังน้อย

คุณนก: เราไม่ค่อยได้เห็นธุรกิจ Startup ที่นำโดยผู้หญิงและประสบความสำเร็จจริงๆ เท่าไหร่นัก ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น บางทีผู้หญิงมักล้มเลิกความคิดเร็วเกินไป หรือไม่มีความมั่นใจในการพาธุรกิจไปอีกขั้น หรือไม่ค่อยกล้าได้กล้าเสีย แต่ถึงอย่างนั้น นกก็ยังเชื่อว่า เราจะได้เห็นธุรกิจที่ก่อตั้งโดย founder ผู้หญิง เติบโตและระดมเงินทุนได้เยอะขึ้นในอีกไม่ช้า

แชนนอน: ถ้าถามว่า ปัจจุบันมีโอกาสเปิดกว้างในวงการ Tech/ Engineering/ Management มากพอสำหรับผู้หญิงไหม? หรือผู้หญิงคิดว่าตัวเองสามารถสู้กับผู้ชายในวงการนี้ได้ไหม? หรือหากแม้คิดว่าสู้ได้ แล้วคิดว่าจะได้รับโอกาสเท่าเทียมกันไหม? ตอบได้เลยว่า ‘ไม่’ ทั้งเพศหญิงและเพศที่สามยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องเดินและต่อสู้

สถิติต่างๆ ที่ออกมาว่ามีผู้หญิงเป็นผู้บริหารในบริษัทในประเทศไทย มักจะเป็นธุรกิจของครอบครัว ที่ให้ลูกสาวดำรงตำแหน่งเกี่ยวกับการบัญชี หรือการเงิน ขณะที่ตำแหน่ง CEO มักจะเป็นของลูกผู้ชาย

Ikigai Group CEO Shannon Kalayanamitr

ในฐานะที่เป็นผู้บริหารธุรกิจ Startup คิดว่าอะไรคือข้อได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ เมื่อต้องขอระดมทุนจาก VC?

หมอแม้ว: ถ้าพูดถึงการระดมทุนจาก VC ส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่ตัวผลิตภัณฑ์หรือตัวธุรกิจเป็นหลัก แต่ต้องยอมรับว่า VC หรือนักลงทุนมักจะติดภาพว่าผู้หญิงเจ้าอารมณ์และอ่อนไหว ขณะที่มองว่าทีมที่นำโดยผู้ชายจะสามารถตัดสินใจได้ชัดเจนกว่า

แชนนอน: นักลงทุนมักมองหาคุณสมบัติต่างๆ ในตัว CEO เช่น ความมั่นใจ ความแข็งแรง ความดื้อรั้น การมีตรรกะทางความคิด ไม่ตัดสินใจตามอารมณ์ ฉลาดและรอบรู้ในธุรกิจของตัวเอง การมีเครือข่าย และคุณสมบัติอื่นๆ ในการทำธุรกิจ

ซึ่งปัญหาหลักๆ คือ เพศหญิง (หรือแม้แต่เพศที่สาม) มักถูกมองว่า ไม่มีคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้นเลย เนื่องจากติดภาพของผู้หญิงที่ อ่อนแอ ไม่มีเหตุผล ใช้อารมณ์เป็นหลัก เหมาะกับการทำงานอยู่ในครัว หรือควรทำงานในส่วนของการตลาดเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้หญิงมักจะเจอปัญหาเมื่อต้องการระดมทุนจาก VC

ตัวผู้หญิงเอง ก็ควรจะเปลี่ยนแปลงและลุกขึ้นมาสร้างภาพลักษณ์ตัวเองใหม่ และสื่อสารออกไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม

คุณนก: จริงๆ แล้ว เพศไม่ควรจะมีผลในการระดมทุนเลย คุณควรจะเป็นคนทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในตัวคุณ และกล้าที่จะลงทุนกับธุรกิจของคุณให้ได้ ถึงแม้ว่าคุณจะมีไอเดียที่เจ๋งมากๆ และมีแผนธุรกิจที่ดูยิ่งใหญ่ แต่หากคุณไม่สามารถทำให้เขาเชื่อได้ว่าคุณคือ ‘คนที่ใช่’ ที่จะสามารถผลักดันธุรกิจไปได้ เขาก็จะไม่มาลงทุนในไอเดียนี้ และในท้ายที่สุดความเชื่อมั่นในตัวทีมมักจะนำไปสู่การลงทุนเสมอ

มีคำพูดว่าโลก Startup เป็นโลกของผู้ชาย คุณคิดว่าประโยคนี้เป็นจริงไหมในประเทศไทย?

แชนนอน: น่าเศร้าว่ามันจริงอยู่ แต่ก็กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ที่ทำงานด้วยการสร้าง connection ผ่านการดื่มหลังเลิกงาน ไปเที่ยวบาร์ ตีกอล์ฟ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้หญิงไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก

คุณนก: มันเป็นเรื่องจริงใน 10 ปีที่แล้ว แต่หลายสิ่งเปลี่ยนไปแล้วตามกาลเวลา หากเราลองไปดูอาชีพที่เคยมีแต่ผู้ชายทำ ปัจจุบันก็มีผู้หญิงทำมากขึ้น ตามการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม ผู้หญิงมีส่วนร่วมในการพัฒนาในด้านต่างๆ มากมาย รวมถึงธุรกิจ Startup ด้วย

ในประเทศไทย มีผู้หญิงหลายคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรใหญ่ๆ ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคต หากเรามีผู้บริหารผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น ก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพพนักงานผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้บริหารต่อๆ ไปได้

หมอแม้ว: ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะนักลงทุนหรือ VC เองต่างก็เป็นผู้ชาย ซึ่งถือว่าฉันโชคดีมากๆ ที่มีเพื่อนร่วมงานทั้งผู้หญิง และผู้ชายที่เชื่อมั่นในความคิดและความสามารถ คนที่อยู่ในวงการ Startup มักจะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้าง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังต้องพัฒนาต่อไป เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมที่แท้จริง

Chiiwii LIVE CEO Dr. Sakunee Niranvichaiya (Maew)

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ผู้บริหารหญิงไทยแตกต่างจากชาติอื่น?

หมอแม้ว: ผู้บริหารผู้หญิงในไทยส่วนใหญ่มักจะมีความเห็นอกเห็นใจ และให้โอกาสต่อคนอื่นๆ เรามองความสำเร็จจากการเป็นคนที่มีคุณภาพ ไม่ใช่จากตัวเลข

คุณนก: โดยทั่วไปแล้ว นกไม่เห็นความแตกต่างมากนัก แต่ซึ่งหนึ่งที่ดีในการเป็นคนไทยคือเรายิ้มแย้มอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ภายใต้ความกดดัน เราก็ยังยิ้ม และแสดงออกถึงความคิดบวก แล้วทำให้บรรยากาศในที่ทำงานดีขึ้น แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่าการเป็นคนใจดีก็จะต้องมาควบคู่กับความหนักแน่นทางความคิดด้วย

คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำเพื่อให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในวงการ Startup มากขึ้น?

Garena Group CEO Maneerut Anulomsombut (Nok)

คุณนก: ควรมีกิจกรรมหรือโปรแกรมสำหรับ Startup ที่เน้นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น เช่น อาจจะมี Workshop สำหรับผู้หญิงที่มีความสนใจในด้านนี้โดยเฉพาะ และเรียนรู้จากผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จเพื่อนำมาเป็นแรงบันดาลใจ

ผู้บริหารผู้หญิงเองก็ควรมีส่วนในการช่วยผลักดันและพัฒนาพนักงานผู้หญิงด้วยกันเอง เพื่อให้คนอื่นลบภาพจำเดิมๆ ออกไปได้

หมอแม้ว: อยากแรกเลยคือ เราต้องเชื่อในตัวเองและเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างด้วยความสามารถของเรา อย่างที่สองคือ ในขณะที่สังคมเริ่มเปิดกว้างให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารงานมากขึ้นแล้ว เราก็ควรจะปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานทั้งชายและหญิงอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้สำหรับวงการ Startup เราควรจะมีกลุ่มสำหรับผู้ก่อตั้งผู้หญิงโดยเฉพาะบ้าง อย่างเช่น ในประเทศสิงคโปร์ที่มีกลุ่ม 'Female Founder Group' และ 'She Love Tech'

แชนนอน: เนื่องจากมันมีการถกเถียงมากมายถึงเรื่องของผู้หญิง ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จนทำให้คนเริ่มเกิดความเบื่อหน่าย ฉันจึงคิดว่า มันถึงเวลาที่เราควรจะพูดถึงการให้โอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกๆ เพศ ในแง่ของธุรกิจ เราควรพูดกันถึง ปัญหาและเป้าหมายของตัวธุรกิจ ว่าเราควรจะทำอะไรเพื่อจะพัฒนาไปถึงจุดนั้น รวมถึงการวางแผนและหาวิธีการที่ยั่งยืนในการต่อยอดธุรกิจ

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของทุกคน ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศที่สาม เราควรจะต้องก้าวข้ามประเด็นเหล่านี้ และหันกลับมาดูความสามารถและสิ่งที่เราสามารถทำได้จริงๆ มากกว่า

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Founder Model วิถีผู้นำแบบ Brian Chesky CEO เบื้องหลังความสำเร็จของ Airbnb

Founder Mode เป็นแนวทางการบริหารที่กำลังได้รับความสนใจในวงการสตาร์ทอัพ โดยแนวคิดนี้ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางจาก Brian Chesky, CEO ผู้พา Airbnb เติบโตจนกลายเป็นธุรกิจระดับโลก ด้...

Responsive image

ไขความลับ Growth Hacking: บทเรียนจาก Spotify สู่ธุรกิจยุคใหม่

ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันดุเดือดและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืนคือสิ่งที่ทุกธุรกิจต่างใฝ่ฝัน Growth Hacking กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ไขประตูสู่ความสำเร็จ ด้วย...

Responsive image

เปิดปรัชญาแห่งความเป็นผู้นำของ Steve Jobs

Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ที่โด่งดัง อาจไม่ใช่เจ้านายในฝันของใครหลายคน แต่ปรัชญาการบริหารของเขาพิสูจน์แล้วว่าทรงพลังและนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ คำพูดที่สะท้อนแนวคิดนี้ได้...