การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2020 ที่จะถึงนี้ นับเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตาในเวทีโลก The Green New Deal แผนปฏิรูปเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เป็นอีกความหวังสำคัญในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งได้กลายเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ต่างกระโดดให้การสนับสนุนอย่างแข็งขัน
อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เตซ (Alexandria Ocasio-Cortez) และวุฒิสมาชิกเอ็ด มาคีย์ (Ed Markey) สังกัดพรรคเดโมแครต เป็นผู้นำเสนอให้สภาคองเกรสทำการพิจารณา Green New Deal เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แผนปฏิรูปดังกล่าวเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในสิบปี และนำร่องการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการสนับสนุนการทำเกษตรครอบครัวและการลงทุนในรถไฟความเร็วสูง
บางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับโอกาสที่ข้อเสนอด้านนโยบายนี้จะประสบความสำเร็จหรือทำให้การสนับสนุนนั้นเป็นไปได้ อลิซาเบธ วอร์เรน (Elizabeth Warren) หนึ่งในวุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาจากพรรคเดโมแครต และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2020 ออกมาเผย 'Green Manufacturing Plan' อันเป็นกลยุทธ์สำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในการใช้เครื่องมือทั้งหมดของรัฐบาลในการปกป้อง และสร้างงานชาวอเมริกันมากกว่าดำเนินการเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของฝั่ง Wall Street และบริษัทข้ามชาติ เป็นตัวอย่างแรกที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อชาติ อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาในการปฏิบัติตามข้อเสนอ Green New Deal
ด้วยการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐในนักวิจัยอเมริกัน อุตสาหกรรมอเมริกัน และคนงานอเมริกัน เราจะสามารถก้าวเป็นผู้นำระดับโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างงานกว่าล้านตำแหน่งในอเมริกา
อลิซาเบธ กล่าวว่า "ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลกอย่างแท้จริง ในขณะหลายฝ่ายกำลังถกเถียงในข้อเสนอ Green New Deal เกี่ยวกับการมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในครัวเรือน แต่ทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ยังมีความชัดเจนว่า แม้เราจะลดการปล่อยมลพิษของอเมริกาให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 การลดการปล่อยมลพิษทั่วโลกก็ยังมีความจำเป็นอยู่ดี และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการระดับโลกนี้ อเมริกาต้องสร้างนวัตกรรมที่รวดเร็วเทียบเท่ากับการแข่งขันในอวกาศ รวมถึงการรับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ"
"ในอีกสิบปีข้างหน้าตลาดเทคโนโลยีพลังงานสะอาดในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีมูลค่าถึง 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อเมริกาควรเข้าไปครองตลาดใหม่นี้ เรามีนักวิจัยที่มีทักษะอีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานขั้นพื้นฐานในการพัฒนาผลิตและส่งออกเทคโนโลยีที่โลกจำเป็นต้องเผชิญกับการคุกคามของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ"
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ท้าทายของ Green New Deal อลิซาเบธ เผยถึงแผน Green Manufacturing Plan ในอีกสิบปีข้างหน้า ทั้งทำการลงทุน 2 ล้านล้านดอลลาร์ในงานวิจัยสีเขียว การผลิตและการส่งออกที่จะเป็นการเชื่อมโยงนวัตกรรมอเมริกันโดยตรงกับงานของคนอเมริกัน โดยมี 3 แผนหลักๆ ดังนี้
ความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำของโลกด้านการพัฒนา การผลิตเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่โลกต้องการ (อย่างเช่นการที่อเมริกาได้ลงทุนในนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นประเทศแรกที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์) นั่นหมายความว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้าจะต้องมีการลงทุน 400 พันล้านดอลลาร์เพื่อการวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานสะอาด มากกว่า 10 ปีที่แล้วถึง 10 เท่า ซึ่งนี่รวมทั้งการสร้างสถาบันพลังงานสะอาดแห่งชาติ (National Institutes of Clean Energy) และการสร้างบทบัญญัติเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่เสียภาษีและผู้ลงทุน จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนในด้านวิจัยและเม็ดเงินที่ลงทุนจะอยู่ในประเทศ ไม่ใช่จากการ offshore ข้างนอก
ความมุ่งมั่นในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลกลางอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อกระตุ้นการสร้างนวัตกรรมและความต้องการผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาดที่ผลิตในอเมริกา นั่นหมายความว่า ภายใน 10 ปี รัฐบาลกลางจะต้องมุ่งมั่นในการจัดหางบประมาณถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานสะอาด (สร้างโดยคนอเมริกัน) ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดมลพิษ สำหรับการใช้งานของทั้งรัฐบาลกลาง รัฐ และท้องถิ่นเพื่อการส่งออก ซึ่งปัจจุบันคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า สหรัฐจะมีการใช้เงินราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ในด้านยุทศาสตร์การป้องกันประเทศ (มากเกินกว่าที่ประเทศต้องการจริงๆ) อลิซาเบธแนะว่า เราควรใช้งบประมาณก้อนนั้นในการจัดซื้อเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ผลิตโดยชาวอเมริกัน เพื่อแก้ไขวิกฤติสภาพอากาศที่กำลังคุกคามเราทุกคน
ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้ประเทศอื่นทำการซื้อและปรับใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ผลิตขึ้นในอเมริกา รวมถึงการตั้งสำนักงานรัฐบาลกลางแห่งใหม่ ทำการขายเทคโนโลยีพลังงานสะอาดของอเมริกาที่ปลอดมลพิษ และการลงทุน 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในการช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในการซื้อและปรับใช้เทคโนโลยีนี้
* Marshall Plan หรือแผนการมาร์แชล เป็นแผนของปธน.ทรูแมน เมื่อปี 1947 มุ่งช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปที่ตกต่ำในช่วงหลังสงครามโลกที่ 2 เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าคอมมิวนิสต์ ผลทางเศรษฐกิจโดยอ้อมคือเป็นการขยายฐานตลาดการค้าของสหรัญให้กว้างขึ้น
อลิซาเบธ เน้นย้ำว่าแผนนี้จะเป็นการช่วยเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างงานใหม่มากกว่าล้านตำแหน่ง อีกทั้งจะเป็นการช่วยฟื้นฟูตำแหน่งงานที่หายไป เนื่องจากในช่วงสองสองทศวรรษที่ผ่านมาที่ได้สร้างความเสียหายให้กับชนชั้นกลางและคนผิวสี ซึ่งหากแผนการนี้สำเร็จจะทำให้อเมริกาเป็นผู้นำระดับโลกในการแก้วิกฤตการณ์โลกร้อน
แปลและเรียบเรียงเนื้อหาจาก Team Warren, The Hill
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด