ก้าวที่กล้าของ Netflix เมื่อภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของคนทั้งโลก | Techsauce

ก้าวที่กล้าของ Netflix เมื่อภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของคนทั้งโลก

"เรื่องราวที่ยอดเยี่ยมสามารถมาจากทุกที่ และเดินทางไปสู่ทุกที่" ต่อจากนี้คือเรื่องราวของ Netflix กับการก้าวข้ามกำแพงภาษา และมันจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ

แน่นอนว่าเรารู้จัก Netflix ในฐานะผู้ให้บริการ Online streaming ที่มาแรงและกำลัง Disrupt วงการภาพยนตร์ กลไกลความสำเร็จคงไม่ใช่เพียงแค่ไอเดีย หรือรูปแบบของแพลตฟอร์มเท่านั้น แต่วิธีการคิดแบบ Neflix หรือการกล้าที่จะเปลี่ยนรูปแบบ และวัฒนธรรมดั้งเดิมต่างๆ อาจเป็นก้าวสำคัญที่นำ Netflix เดินมาถึงจุดนี้

โดยไม่นานนี้ Techsauce ได้พบกับ ‘Greg Peters’ Chief product officer แห่ง Netflix ในงาน Web Summit 2018 ซึ่ง Keynote ของ Greg ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่มาฟังเป็นอย่างมาก และเราหวังว่าบทความนี้ จะสร้างแรงบันดาลใจและสร้างความกล้าให้กับผู้อ่านเช่นกัน

Greg Peters เป็นคนหนึ่งที่ชอบการดูหนัง เขาเปรียบโรงภาพยนตร์เป็นเสมือนหน้าต่างบานหนึ่ง โดยในวันหนึ่ง เขาได้พบกับหน้าต่างบานใหม่ที่ใหญ่ขึ้น จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Netflix คนแรกๆ จนวันนี้เขากลายมาเป็นหนึ่งในทีมงานของ Netflix โดยมีฝันว่าในวันหนึ่งจะเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับเรื่องราวใหม่ๆ ที่น่าสนใจทั่วทุกมุมโลก และได้เริ่มต้นที่การอเมริกาเป็นที่แรก หลังจากนั้นได้ขยายไปสู่ระดับสากล

137 ล้าน คือตัวเลขของคนทั้งโลกที่เป็นผู้ชมของ Netflix และเหมือนว่าตัวเลขพวกนี้จะขยายมากขึ้นในทุกปี

7.5 พันล้าน คือตัวเลขของคนทั้งโลก 1.5 พันล้าน คือคนที่พูดภาษาอังกฤษ 360 ล้าน หรือ 5% ของคนในโลกใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ซึ่งเป็นเพียงแค่ 5% ของประชากรโลกเท่านั้น

ซึ่งแน่นอนว่าภาพยนต์ระดับสากลนั้นมีแหล่งผลิตที่โด่งดังอย่าง Hollywood แม้ว่าใน Hollywood จะมีคนทำหนังเก่งๆ มากมายในภาษาอังกฤษ แต่ Netflix เลือกที่จะทำหนังภาษาอื่น Netflix เริ่มปล่อยซีรีย์ออกมาเรื่อยๆ และในวันหนึ่งซีรีย์เรื่อง Three percent ซึ่งเป็นซีรีย์ยอดนิยมจากบราซิลก็ทำให้เราเห็นผลอันน่าตื่นเต้น เมื่อ 50% ของผู้ชมนั้นคือผู้ชมที่มีที่มาจากหลายหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส อิตาลี เกาหลี หรืออีกหลากหลายที่ทั่วทุกมุมโลก ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย อย่างเช่น Las Chicas Del Cable จากสเปน Suburra จากอิตาลี Dark จากเยอรมันนี และ La Casa De Papel จากสเปน

นี่ทำให้เห็นว่าผู้คนอยากจะรับชมเรื่องราวที่เสมือนจริงและมาจากมุมมองของท้องถิ่นทั่วโลก เราพยายามที่จะสร้างเรื่องราวที่มีคุณภาพและประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับผู้ชมและอยากเข้าถึงผู้ชมให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าคุณจะรับชมจาก PC โทรทัศน์ หรือ Smartphone เราพร้อมที่จะลองรับ Device ทุกประเภทและหวังว่าไม่ว่าผู้ชมจะรับชมที่จากที่ใดหรือผ่านทางใด พวกเขาจะได้รับสิ่งที่ต้องการอย่างสมบูรณ์แบบ เราได้สร้างเครื่องมือมากมายเพื่อเหล่านักเล่าเรื่องจะสามารถบันทึกแบบ 4K และ DOLBY เพื่อผลงานที่ดีที่สุด

“มีอีกหลายเรื่องราวที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยและโลกกำลังรอคอยจะชม ยิ่งเรามีจำนวนผู้ชมที่หลากหลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เราสามารถมีเรื่องราวที่หลากหลายมากขึ้นใน Netfilx”

Greg Peters กล่าวว่า วิดีโอที่สวยงามนั้นจะไร้ซึ่งความหมายหากผู้ชมไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาของมันได้ ในจุดหนึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เราทุกคนอยากจะบอกเล่าเรื่องราวในภาษาของคุณ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราพยายามจะสร้างบริการให้มีความหลากหลายทางภาษาในทุกปี ครั้งหนึ่งเราได้เปิดตัว House of cards ในปี 2013 เรามี Subtitle เพียง 9 ภาษา และปัจจุบันเราพัฒนา Subtitle ให้มีถึง 26 ภาษา

เรายังพยายามจะที่จะเพิ่มภาษาให้มากขึ้นเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันเราก็พยายามที่จะพัฒนาคุณภาพของการแปลเพื่อให้เกิดความใกล้เคียงกับเนื้อหาจริงมากที่สุด และนี่ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นเพราะทุกท่านอาจจะมองว่า Subtitle อาจจะดูเหมือนเป็นการแปลที่ทั่วไป แต่ส่วนที่น่าสนุกที่สุดไม่ใช่การแปลอย่างตรงไปตรงมา มันคือการที่คุณต้องคอยคิดว่ามีจำนวนผู้แสดงอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่และความเร็วที่ผู้ชมต้องอ่านให้ทันเวลา มีองค์ประกอบที่หลากหลายในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ชมและการพากย์ก็แทบจะจัดว่าเป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งเลย มันประกอบไปด้วยบทของนักแสดง การเคลื่อนไหวต่างๆ ของตัวละคร และลักษณะเฉพาะอีกมากมาย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง เมื่อทำคุณมันออกมาได้อย่างเสมือนจริงคุณก็จะได้รับผลตอบรับที่เกินความคาดหมายอย่างที่สุด

มาพูดถึงยุโรปกัน ผู้คนในยุโรปคุ้นเคยกับการดู Subtitle จากอเมริกา หรือ อังกฤษ ทำให้เรานึกถึงการที่พวกเขาจะลองรับชมซีรีย์จากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อิตาลีดูรายการโชว์ของเยอรมันหรือสวีเดนรับชมภาพยนต์จากสเปน ในช่วงที่ผ่านมา 90% ของรายการยอดนิยมจาก EU เริ่มถูกปล่อยฉายออกมาน้อยลงเรื่อยๆ ในกลุ่มประเทศ EU แต่ในทางกลับกัน Netflix เรามีซีรีย์รายการและสื่อบันเทิงอื่นๆ ถึง 7 เสียงพากย์และ 15 Subtitle เป็นภาษาของชาวยุโรป ยังไม่รวมไปถึงซีรีย์ที่เราสร้างเอง ที่ดูได้ทุกที่ และนี่คือโอกาสที่ดีที่จะทำให้เกิดกระแสใหม่ของการรับชมไปหลากหลายประเทศทั่วโลก

ในทางกลับกันเราได้ทำการสำรวจผู้คนระหว่างอเมริกาและยุโรป พวกเขาต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่ได้อยากที่จะดูสื่อบันเทิงในภาษาอื่นๆ ซึ่งถือเป็นผลสำรวจที่น่าเศร้า แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ได้สนใจในผลสำรวจนั้นสักเท่าไหร่ และมุ่งหน้าต่อเพราะเราเชื่อว่าในความเป็นจริงมันแตกต่างกัน เมื่อเราทำมันออกมาได้ดีและนำเสนอในรูปแบบใหม่ด้วยการพากย์ ทำให้เราเห็นว่าผู้คนกว่า 85% ในอเมริกามีทีท่าว่าพวกเขาจะว่าจะติดตามซีรีย์ไปจนจบ

และนี่คือการสร้างโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในการที่เราจะนำเสนอสุดยอดเรื่องราวบันเทิงจากทั่วโลกไปสู่ผู้ชม เพียงแค่เราสามารถที่จะนำเสนอออกมาในคุณภาพภาษาอังกฤษที่ดี ดังนั้นพวกเราจึงทำงานอย่างหนักเพื่อให้ภาษาอังกฤษออกมาอย่างเสมือนจริงและสอดคล้องกับเนื้อหาการแสดงมากที่สุด และพวกเราก็ได้ทำการทดลองอย่างหลากหลายวิธีเพื่อผลงานที่ดีกว่าเดิม

เราเชื่อว่าการใช้ภาษาท้องถิ่นคือหนึ่งในการเชื่อมต่อผู้ชมทั่วโลกกับเรื่องราวอันน่าสนใจ เราหมกมุ่นอยู่กับเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ เรามีทีมงานและผู้คนที่ทำงานด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดทั้งภาพ เสียง หรือแม้กระทั่งความเร็วของวิดีโอ

“ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า เรื่องราวที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจสามารถมาจากทุกที่ และเดินทางไปสู่ทุกที่ ตราบใดที่คุณใช้เทคโนโลยีในการตามหาเรื่องราวที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้แล้วสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพวกเขา”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 ข้อแตกต่างที่ทำให้ Jensen Huang เป็นผู้นำใน 0.4% ด้วยพลัง Cognitive Hunger

บทความนี้จะพาทุกคนไปถอดรหัสความสำเร็จของ Jensen Huang ด้วยแนวคิด Cognitive Hunger ความตื่นกระหายการเรียนรู้ เคล็ดลับสำคัญที่สร้างความแตกต่างและนำพา NVIDIA ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับ...

Responsive image

เรื่องเล่าจาก Tim Cook “...ผมไม่เคยคิดเลยว่า Apple จะมีวันล้มละลาย”

Apple ก้าวเข้าสู่ยุค AI พร้อมรักษาจิตวิญญาณจาก Steve Jobs สู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดย Tim Cook มุ่งเปลี่ยนโฉมเทคโนโลยีอีกครั้ง!...

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...