OpenAI ปล่อยผลการประเมินชุดใหญ่ พร้อมลิสต์ 44 สายอาชีพที่ AI รุ่นใหม่ๆ เริ่มทำงานเทียบเท่ามนุษย์ได้แล้ว การทดสอบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นความพยายามของ OpenAI ที่ต้องการพิสูจน์ว่า AI ของพวกเขามี “มูลค่าทางเศรษฐกิจ” ไม่ใช่แค่กระแสมาแล้วก็ไป พร้อมกู้ภาพลักษณ์กลับมาหลังเคยถูกวิจารณ์ว่าชอบพูดเกินจริง เช่น ตอนที่ CEO เคยอ้างว่า AI ฉลาดระดับปริญญาเอก ซึ่ง ณ ตอนนี้ผลประเมินที่ออกมาก็บอกว่า AI ตอนนี้เก่งกว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก
นี่คือส่วนหนึ่งของสายอาชีพที่ OpenAI ระบุว่า AI มีแนวโน้มจะเข้ามามีผลกระทบสูง

OpenAI ไม่ได้มาบอกแค่ชื่ออาชีพเฉย ๆ แต่ยังยกตัวอย่าง งานจริง ที่ใช้ทดสอบด้วย โดยแต่ละอย่างล้วนต้องอาศัยทักษะเฉพาะทาง เช่น
ผลจากการให้ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงมาตรวจสอบผลงานของ AI พบว่า AI รุ่นล่าสุด ทำงานได้ดีจนเกือบเทียบเท่ามืออาชีพ
เรื่องน่าแปลกใจ AI ที่ทำคะแนนรวมได้ดีที่สุดกลับไม่ใช่ Chat GPT แต่เป็น Claude 4.1 Opus ของบริษัทคู่แข่ง ซึ่งไม่เป็นไปตามที่หลายคนคาดไว้
ส่วน GPT-5 ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะด้านความแม่นยำ และเมื่ออัปเกรดเป็นเวอร์ชัน GPT-5-high ก็ถูกประเมินว่าสามารถทำงานได้ดีกว่าหรือเทียบเท่ามนุษย์ ในงานกว่า 40% ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการก้าวกระโดด เพราะรุ่นก่อนหน้าอย่าง GPT-4o ทำได้เพียง 13.7% เท่านั้น
แม้ผลทดสอบจะน่าทึ่ง แต่การใช้ AI ในโลกจริงยังเจอปัญหาใหญ่ๆ ที่แก้ไม่ตกอยู่
ซึ่ง OpenAI ก็ยอมรับเองเลยว่า “งานจริง ๆ มักซับซ้อนกว่าการพิมพ์คำสั่งสั้น ๆ ให้ AI ทำ เพราะหลายงานต้องใช้ความคิดและการตัดสินใจ”
OpenAI พยายามบอกว่า AI จะเข้ามา สนับสนุนการทำงาน แต่เราก็รู้กันอยู่ว่าเป้าหมายลึกๆ ของหลายบริษัทคือการใช้ AI เพื่อลดต้นทุน ซึ่งก็คือการลดคน และตอนนี้เราก็เริ่มเห็นข่าวแล้วว่าบางบริษัทเร่งใช้ AI มากเกินไปก็เจอปัญหายุ่งยากตามมา
เพราะฉะนั้นตอนนี้ AI ก็เหมือน เด็กฝึกงานอัจฉริยะ ที่ช่วยงานเล็ก ๆ ได้ดีและรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องมี หัวหน้าที่เป็นคน คอยควบคุม ตัดสินใจ และรับผิดชอบผลลัพธ์ทั้งหมดอยู่
อ้างอิง: futurism
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด