มันจะเกินไปมั้ย ? X, The Everything App เก็บ (ข้อมูล) หมด ไม่สน Privacy ใครเลย | Techsauce

มันจะเกินไปมั้ย ? X, The Everything App เก็บ (ข้อมูล) หมด ไม่สน Privacy ใครเลย

ตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ Twitter ของ Elon Musk จนรีแบรนด์ให้กลายเป็น X ตามความต้องการที่จะปั้นให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็น ‘The Everything App’ ที่ทำได้ทุกอย่าง ซึ่งก็เริ่มดำเนินการไปหลายส่วนแล้วอย่างที่เห็น ไม่ว่าจะเป็น Verified แบบ Subscription การหางานผ่าน X เป็นต้น และอีกหลายๆ อย่างที่จะตามมาในอนาคต 

แต่ก่อนจะไปถึงจุดที่เรียกได้ว่าเป็น The Everything App จริง ก็มีข้อกังวลจากหลายภาคส่วนถึงเรื่องของ Privacay และ Safety ที่ทางแพลตฟอร์มเอาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไปพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่เราไม่อาจแน่ใจได้ว่าสิ่งนี้ ตอบสนองผู้ใช้งาน หรือ ความต้องการของ Elon Musk กันแน่

X, The Everything App เก็บ (ข้อมูล) หมด ไม่สนใจใคร

หลังการเข้าครอบครอง X ของ Elon Musk ที่แทบจะเปลี่ยนผู้บริหารและพนักงานทั้งบริษัท ทาง X ก็เริ่มมีการอัพเดทนโยบายด้าน Privacy & Safety ของแพลตฟอร์มว่า เราจะเริ่มเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานแล้วนะ ซึ่งก็มีเปิดเผยมาแล้วสิ่งที่เก็บตอนนี้ ได้แก่

Public Tweets

พอ Elon Musk ครอบครอง X ได้สำเร็จก็เริ่มกระบวนการบางอย่างที่จะพัฒนาให้เป็น The Everything App ตามใจนึก ด้วยการก่อตั้ง ‘xAI’ บริษัทที่เปิดขึ้นมาเพื่อคิดค้นและพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ภายใต้แนวคิด “Understand the true nature of the universe” 

ซึ่งสำนักข่าว Bloomberg ได้มีการรายงานว่า Public Tweets จะถูกนำไปเป็นข้อมูลให้กับ AI ในการฝึกอบรมโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นสำหรับ xAI อย่างแน่นอน เพราะ Elon Musk มีความต้องการที่ผลักดัน AI ของตัวเองให้เข้าสู่ตลาดเพื่อแข่งขันกับ Big Tech Company เจ้าอื่นๆ และตอบโจทย์กับการพัฒนาธุรกิจทั้ง X Corp รวมไปถึง Tesla ด้วยอีกต่างหาก

Biometrics

ข้อมูลด้านชีวภาพของผู้ใช้งาน ก็เก็บแบบไม่สนใจใครทั้งนั้น ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็มีการประกาศผ่านแพลตฟอร์มแล้วว่า จะทำ Twitter Hiring ฟีเจอร์ใหม่ ที่องค์กรจะได้รับ Verified Organizations (บัญชีขององค์กรที่ได้ติ๊กถูกสีทอง) จะสามารถโพสต์ตำแหน่งงานที่บริษัทกำลังเปิดรับได้บนโปรไฟล์ของแพลตฟอร์ม

ฟีเจอร์ใหม่นี้เป็นการประกาศการแข่งขันกับบริษัทหางานยอดนิยมอย่าง LinkedIn และ Indeed รวมไปถึง Elon Musk ก็เข้าซื้อ Startup ที่ชื่อว่า Laskie ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจับคู่งานให้ตรงกับทักษะและความสนใจของคน คาดว่าจะนำมาพัฒนาฟีเจอร์ตรงนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง Twitter Hiring ฟีเจอร์หางานบนแอปนกฟ้า เตรียมเปิดใช้เร็วๆ นี้

และเมื่อสัปดาห์ก่อนก็มีการอัพเดท Policy อีกแล้วว่าแพลตฟอร์มจะเก็บข้อมูล Biometrics เพื่อ “การรักษาความปลอดภัย และการระบุตัวตน” ซึ่งทางแพลตฟอร์มก็แถลงเพิ่มเติมว่าการเก็บข้อมูล Biometrics นี้ จะช่วยผูกบัญชีกับบุคคลตัวจริงเท่านั้น ด้วยการประมวลผลบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล และยังช่วยให้ X ต่อสู้กับบัญชีปลอม (พวกบอท) และทำให้แพลตฟอร์มมีความปลอดภัยมากขึ้น X ยังวางแผนรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงาน ประวัติการศึกษาของผู้ใช้งาน ทั้งความสนใจในการจ้างงาน ทักษะ ความสามารถ การค้นหางาน และการมีส่วนร่วมอื่นๆ เพื่อแนะนำงานที่เหมาะสมและแบ่งปันข้อมูลกับกลุ่มนายจ้างในการค้นหาผู้สมัครที่มีศักยภาพมาร่วมงานในองค์กร อีกด้วย ดูเหมือนจะเป็นการเก็บข้อมูลด้วยเหตุผลทางธุรกิจล้วนๆ

Biometrics สำคัญไฉน ระวังไว้ก็ดี

รู้จัก Biometrics เสียก่อนว่ามันไม่ได้ไกลตัวเลย Biometrics คือเทคโนโลยีในการระบุยืนยันตัวตนตามลักษณะทางกายภาพ และลักษณะพฤติกรรมของเราที่ไม่ซ้ำใคร และสามารถตรวจจับอัตลักษณ์ (Identity) เฉพาะของเราได้อย่างแม่นยำ มีความน่าเชื่อถือปลอดภัย โดย Biometrics หลักๆ ที่เรามักจะคุ้นเคยกันดีก็คือ

Fingerprint ลายนิ้วมือ

เป็น Biometrics ที่นำมาใช้แรกๆ การสแกนลายนิ้วมือจะเปรียบเทียบกับข้อมูลที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติการสแกนก่อนหน้า และระบุได้ว่าเป็นบุคคลนั้นหรือไม่ เช่นเดียวกับการจดจำเส้นเลือดดำบนชั้นผิวหนังของนิ้วมือ เพราะโครงสร้างเส้นเลือดในร่างกายมนุษย์ไม่เหมือนกัน และมีคุณสมบัติที่ต่างกัน 

Facial Recognition การแสกนใบหน้า

อีกหนึ่งเทคโนโลยี Biometrics ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จากเทคโนโลยี Deep Learning ที่ใช้ AI เรียนรู้ลักษณะเฉพาะสำคัญ แยกแยะหน้าตาของผู้คนจากรูปใบหน้า เช่น ระยะห่างระหว่างตา ตำแหน่งความยาวของจมูก เป็นต้น นอกจากยังมี Biometrics อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะใบหู รูม่านตา ลักษณะของมือ เสียงพูด หรือลายเซ็นต์ที่ใช้ยืนยันตัวตนอีกด้วย เพราะคนเริ่มให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) มากขึ้นนั่นเอง

ผู้ใช้งานปลอดภัย แต่ใครได้ประโยชน์

X ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้งานและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเกี่ยวกับข้อมูลที่เก็บรวบรวม และวิธีการนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในทางที่เอื้อต่อธุรกิจของ Elon Musk รวมถึงการแสดงโฆษณาบนหน้าฟีด (Feed) ที่พยายามปรับแต่งให้เหมาะกับความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็มีการร้องเรียนและฟ้องร้องว่า X จัดเก็บข้อมูล Biometrics ของผู้ใช้แพลตฟอร์มในรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้งานด้วย

สรุปได้ว่าตอนนี้การใช้งานแพลตฟอร์ม X อาจทำให้เราต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะเมื่อพิจารณาดูแล้วความต้องการที่จะเป็น The Everything App นั้นทะเยอทะยานเสียเหลือเกินจนอาจละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่สุดท้ายแล้วผู้ใช้งานอาจไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยก็เป็นได้

อ้างอิง

TechCrunch 1, TechCrunch 2, Bloomberg, Krungsri

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 เคล็ดลับมองโลก จากผู้นำระดับท็อปที่ประสบความสำเร็จ

แม้ว่าจะไม่สูตรตายตัวที่จะประสบความสำเร็จแต่มี 5 อันดับที่ขาดไม่ได้ของเหล่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกตั้งแต่ Elon Musk , Jeff Bezos จนไปถึง Susan Wojcicki ถ้าอยากรู้ว่า...

Responsive image

5 คนที่ควรมีในชีวิต ถ้าคิดอยากประสบความสำเร็จ

เส้นทางสู่ความสำเร็จ เดินคนเดียวอาจไปถึงช้า จะดีกว่าไหมถ้ามีคนที่ใช่เคียงข้างไปด้วย บทความนี้จะชวนทุกคนตามหา 5 ความสัมพันธ์ที่เราควรมี เพื่อเส้นทางสู่ความสำเร็จ...

Responsive image

ถอด 4 บทเรียนธุรกิจ Taylor Swift ชื่อศิลปินที่มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท

Taylor Swift ไม่ใช่แค่ของชื่อศิลปินอีกแล้ว กลายเป็น Branding ที่มีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ความสำเร็จของ Taylor Swift ก็มีส่วนที่หยิบมาใช้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจได้เช่นเดียวกัน...