ช่วงนี้กระแสการกลับเข้าออฟฟิศกำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนัก โดยบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Amazon และ JPMorgan เริ่มกำหนดให้พนักงานต้องเข้ามาทำงานแบบไฮบริดหรือเต็มเวลา แต่พนักงานจำนวนมากยังคงยืนกรานว่าต้องการความยืดหยุ่น เช่นการ Work From Home
ผลสำรวจจาก Gallup พบว่า 60% ของพนักงานที่ทำงานแบบ Remote มีแนวโน้มลาออก หากพวกเขาถูกบังคับให้กลับเข้าออฟฟิศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการทำงานแบบ Work From Home (WFH) กลายเป็น New Normal ที่คนทำงานไม่อยากเสียไป
แต่แทนที่จะลาออกหรือเผชิญหน้ากับบริษัทโดยตรง คนรุ่นใหม่เริ่ม “ตอบโต้” คำสั่งนี้ในแบบของตัวเอง นั่นจึงเป็นที่มาของเทรนด์ “Task Masking” หรือการ “สร้างภาพว่าทำงาน” เพื่อเสียดสีแนวคิดที่ว่า แค่นั่งอยู่ในออฟฟิศ = ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงอาจไม่เกี่ยวกันเลย
Task Masking คือการแกล้งทำเป็นยุ่ง เพื่อให้ดูเหมือนว่ากำลังทำงานหนักในออฟฟิศ ทั้งที่จริง ๆ แล้วประสิทธิภาพหรือปริมาณงานที่ทำอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย เทรนด์นี้ถูกพูดถึงอย่างมากใน TikTok และแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ โดยได้รับความนิยมจากกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่รู้สึกว่าการถูกบังคับเข้าออฟฟิศไม่ได้ช่วยให้พวกเขาทำงานได้ดีขึ้น
ตัวอย่างพฤติกรรม Task Masking
TikToker บางคนยังแนะนำให้ โทรหาคนรู้จักแล้วใช้ท่าทางมือจริงจัง เพื่อให้ดูเหมือนประชุมงานอย่างเคร่งเครียด
Amanda Augustine ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก Career.io มองว่าการบังคับให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศ สะท้อนแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับ “การมีตัวตน” มากกว่าผลลัพธ์ของงาน ซึ่งไม่ตรงกับมุมมองของคนรุ่นใหม่
แนวโน้ม “สร้างภาพว่าทำงานหนัก” จึงเกิดขึ้นเพื่อเสียดสีแนวคิดนี้ เพราะความจริงแล้ว การนั่งทำงานที่ออฟฟิศไม่ได้แปลว่าจะทำงานได้ดีขึ้น บริษัทอาจได้เห็นพนักงานที่ดูเหมือนขยัน แต่ไม่ได้หมายความว่างานจะมีคุณภาพหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับคนรุ่นใหม่ สิ่งที่สำคัญคือผลลัพธ์ของงาน ไม่ใช่แค่การมานั่งในออฟฟิศ หากยึดติดกับแนวคิดเก่า ๆ ก็อาจทำให้องค์กรพลาดโอกาสในการปรับตัวให้เข้ากับยุคที่การทำงานควรยืดหยุ่นและวัดกันที่ผลลัพธ์จริง ๆ
แม้ว่าองค์กรจะพยายามดึงพนักงานกลับมาให้ใช้ชีวิตแบบเดิม แต่เทรนด์ Task Masking สะท้อนให้เห็นว่า คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ของงานมากกว่าการนั่งอยู่ที่โต๊ะทั้งวัน และหากองค์กรยังคงยืนกรานให้พนักงานเข้าออฟฟิศโดยไม่คำนึงถึงความจำเป็น อาจทำให้พนักงานเริ่มมองหาทางเลือกอื่นที่ให้ความยืดหยุ่นมากขึ้น
อ้างอิง: entrepreneur
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด