นักวิเคราะห์ชี้ COVID-19 ก่อ Supply Chain Disruption เผย 5G-Hardware โตรับกระแส Remote Working | Techsauce

นักวิเคราะห์ชี้ COVID-19 ก่อ Supply Chain Disruption เผย 5G-Hardware โตรับกระแส Remote Working

Bloomberg จัด Webminar วิเคราะห์สถานการณ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากผลกระทบของ COVID-19 ชี้การชะลอตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีส่งผลต่อ GDP ของประเทศใน Supply Chain ส่วนการลงทุน 5G และ Cloud Computer มีส่วนประคองสถานการณ์ ชี้หลัง COVID-19 เทรนด์ Remote Working และ Factory Automation อาจจุดติดอย่างจริงจัง แต่ต้องรอดูความพร้อมของ 5G, Hardware และ Device

เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา Bloomberg ได้จัดเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ Impact of COVID-19 on Tech & Travel เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจาก COVID-19 ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีน Techsauce มีโอกาสเข้าร่วมรับฟังการเสวนาครั้งนี้จึงขอสรุปเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและบางส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ทุกท่านได้ติดตามกัน

COVID-19 นำ Supply Chain Disruption แต่พร้อมฟื้นตัวอย่างเร็วที่สุดภายในไตรมาสที่ 2

เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์อุตสาหกรรม Hardware ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ประเทศจีน โดยนักวิเคราะห์มองว่า การแพร่ระบาดส่งผลต่อ Supply Chain ของการผลิต Device ต่างๆ โดยตรง เนื่องจากโรงงานหลักที่ผลิตชิ้นส่วนสำคัญตั้งอยู่ในเมืองที่มีการแพร่ระบาด โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่นที่เป็นฐานการผลิตของ Hardware หลายส่วน

แต่ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าปัจจัยการชะลอตัวจากฝั่งการผลิตอาจเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น เพราะโรงงานกว่าครึ่งได้เริ่มกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์แล้ว ส่วนโรงงานใหญ่อย่าง Foxconn ผู้ผลิต iPhone ก็จะกลับมาเดินเครื่องการผลิตภายในสิ้นเดือนมีนาคม จึงคาดว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปี

ดูในส่วนของ Supply ไปแล้ว มาดูในฝั่ง Demand บ้าง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภคจะลดลง ผู้บริโภคหลายคนจะพิจารณาในการอัพเกรดอุปกรณ์มากขึ้นในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดฝั่งองค์กรยังคงมีความต้องการซื้อจากการพัฒนาของ Emerging Technology ใหม่ๆ โดยเฉพาะ Cloud Computer และ 5G ซึ่ง 5G อาจเป็นตัวจุดประกายการซื้อ Device ใหม่ของปี 2020 ในฝั่งผู้บริโภค

Internet Business ระยะสั้นมีทั้งขึ้นและลง ระยะยาวอยู่ที่การ "เรียกความมั่นใจ"

ในภาพรวม ธุรกิจที่ดำเนินกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตอาจได้รับผลดีจากการที่ประชาชนเก็บตัวอยู่บ้าน แต่จากการเก็บข้อมูลของหลายแหล่งทำให้เห็นว่าไม่ใช่ทุกรูปแบบธุรกิจจะได้รับผลดีจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเราขอแบ่งเป้นกลุ่มดังนี้

  • E-Commerce

กลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างไม่น่าเชื่อคือ E-Commerce ที่กลับเป็นผู้เผชิญ Disruption เสียเอง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค ส่งผลต่อทุกส่วนในการประกอบธุรกิจ ทั้ง Operation, Production และ Logistic โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งส่งผลทำให้การส่งสินค้าล่าช้า โดยเฉพาะกลุ่ม Grocery หรือของสด เนื่องจากมีผลต่อสุขภาพโดยตรงจึงโดนเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าในระยะยาว E-Commerce จะฟื้นตัวได้ในที่สุด เนื่องจากการประกาศผลประกอบการช่วงต้นปี 2020 ของ Key Player (JD.com, Taopao, Pinduoduo) ยังคงเติบโตเพียงแต่ลดลงเมื่อเทียบกับปีและไตรมาสก่อน

  • Gaming และ Online Entertainment

เป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีอย่างมากจากมาตรการจำกัดการเดินทางของจีน โดยเกมออนไลน์จำนวนมากมียอดผู้เล่นเดิมกลับมาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วน Online Entertainment อย่าง Music Streaming และ Movie Streaming มียอด Subscribe ใหม่จำนวนไม่น้อย ถือเป็นการเติบโตในระยะสั้นที่น่าสนใจ ส่วนในระยะยาว การรักษาฐานลูกค้าที่เข้ามาในช่วงนี้เอาไว้ ถือเป็นความท้าทายของกลุ่มนี้

  • Travel

เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงรุนแรงที่สุด โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งกับการจองออนไลน์ ผู้ให้บริการหลายรายจำเป็นต้องต่อรองกับลูกค้าที่ต้องการยกเลิกการเดินทางจำนวนมาก ซึ่งการต่อรองเองก็ทำให้ผู้ให้บริการหลายรายต้องจ่ายเงินคืนเต็มจำนวน หรือกระทำเงื่อนไขอื่นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อีกทั้งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การเดินทางลดลงไปมาก แทบจะเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่เกิดการ Shut Down กันเลยทีเดียว ทั้งนี้ ในระยะยาวกลุ่ม Travel จะฟื้นช้าหรือเร็วอยู่ที่การฟื้นฟูความมั่นใจของลูกค้าเท่านั้น

  • Advertising

กลุ่มโฆษณาเป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากอุตสาหกรรมอื่นๆ ในจีนลดค่าใช้จ่ายด้านการประชาสัมพันธ์ลง โดยเฉพาะยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) และกลุ่มสินค้าหรูมูลค่าสูง และในระยะยาว คาดว่าการบริโภคที่ลดลงของผู้บริโภคจะทำให้การเติบโตของกลุ่มธุรกิจโฆษณาลดลง

Remote Working เทรนด์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้นหลัง COVID-19

อีกประเด็นที่น่าสนใจในการวิเคราะห์ครั้งนี้คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นและมีผลต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ คือ Remote Working โดยเทรนด์นี้จะแข็งแรงจากการพัฒนาของ 5G และ Hardware กับ Device ต่างๆ ซึ่งปลดล็อกให้คนสามารถทำงานต่างๆ ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกเทรนด์หนึ่งที่จะถูกเร่งให้เกิดขึ้นจากบทเรียนของโรคระบาดคือ Factory Automation เนื่องจากการขาดแรงงานซึ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมหยุดชะงักไปเป็นสัปดาห์ ดังนั้น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์นี้จะได้รับความสนใจและผลักดันให้เกิดขึ้นจริงไม่น้อย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อินเดียทะยานสู่ $25 ล้านล้าน กับเส้นทางเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ขับเคลื่อนด้วย Digital Supercycle

การเดินทางของอินเดียในฐานะเศรษฐกิจเกิดใหม่ กำลังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จากเป้าหมายเศรษฐกิจมูลค่า 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สู่วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการบรรลุ 25 ล้านล้า...

Responsive image

ควอมตัมคอมพิวติ้งกับการปฏิวัติการเงิน โอกาสทอง หรือหายนะ ? ส่องแนวคิดจาก HSBC, Visa และผู้เชี่ยวชาญ

เทคโนโลยีควอนตัม (Quantum Computing) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะในตอนนี้ควอนคัมกำลังมีบทบาทสำคัญในทุกวงการแม้กระทั่งวงการเงินที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ผ่านงาน Singapore Fintech F...

Responsive image

เจาะลึก AI กับการเงินผ่านสายตาโปรแกรมเมอร์และผู้ใช้

บทความนี้จะพาคุณไปฟังทัศนะของ BlackRock ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดการสินทรัพย์ระดับโลก และ GitHub แพลตฟอร์มที่นักพัฒนาทั่วโลกใช้ ในหัวข้อ Building tomorrow: Explaining the AI Tech Sta...