ในช่วงไม่นานมานี้เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า Digital ID โดยเฉพาะในยุคที่กระบวนการและธุรกรรมต่าง ๆ ถูกยกขึ้นสู่โลกดิจิทัล ซึ่งมีข้อได้เปรียบกว่าการใช้วิธีการแบบเดิมมาก ทั้งความรวดเร็วจากการส่งข้อมูลในรูปแบบไฟล์บนอินเทอร์เน็ต ที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ ทั้งเรื่องวัสดุและการเดินทางไปได้มาก แต่ก็ใช่ว่าการทำธุรกรรมทางดิจิทัลจะมีข้อดีอย่างเดียว เพราะทุกธุรกรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือระหว่างกันด้วยเช่นกัน

เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก Digital ID กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และเชื่อมโยงประชาชน ให้เข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยไร้รอยต่อ ด้วยนวัตกรรม โซลูชันด้าน Digital ID ที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานที่มากยิ่งขึ้น

นั่นจึงเหตุผลให้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (Electronic Transactions Development Agency) เดินหน้าสานต่อแคมเปญ MEiD สู่การจัดกิจกรรม “MEiD Hackathon Digital ID Solution for all บริการไทย ไร้รอยต่อ” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการใช้งาน Digital ID  หรือ การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล 

รวมทั้งเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มาร่วมประลองไอเดีย เพื่อขับเคลื่อนและต่อยอด Digital ID ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ยกระดับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่จะเชื่อมโยงทุกข้อมูลและบริการทั้งรัฐและเอกชนให้เป็นหนึ่งเดียว

ในบทความนี้เราจะพาไปพูดคุยกับ 3 ทีมที่ชนะการแข่งขันดังกล่าว ถึงมุมมองที่มีต่อ Digital ID Solution รวมถึงจุดเริ่มต้นของ แรงบันดาลใจการทำให้เกิดไอเดียนี้ขึ้นมาเพื่อแก้ Pain Point ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

UpPass นวัตกรรมพิจารณาสินเชื่อครองแชมป์ MEiD Hackathon

เริ่มต้นด้วย ทีม UpPass เจ้าของนวัตกรรม No-Code Verification Onboarding Platform นวัตกรรมที่เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลภาครัฐ ยกระดับการพิจารณาสินเชื่อออนไลน์ ผู้ครองแชมป์จากกิจกรรม  MEiD Hackathon : Digital ID Solution for Al ในครั้งนี้ 

คุณภูวรัฐ หน่อชูเวช Co-Founder / Chief Product & Data Office จาก 2022 Collective Wisdom Co.,Ltd. เล่าว่า สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิด Solution นี้ขึ้นมา เริ่มจากการที่มองเห็น Pain Point จากการทำโซลูชั่นใช้เอง โดยธุรกิจแรกคือ การปล่อยสินเชื่อโดยใช้ Alternative data เป็น สินเชื่อดิจิทัล หรือ Digital Lending ซึ่งในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ ผู้สมัครสามารถสมัครได้ทางออนไลน์ โดยจะมี การยืนยันตัวตน และตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้อง 

และเมื่อมีดีมานด์ที่เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งในช่วงโควิด ทุก ๆ ธุรกิจหันมาใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น และในการ Onboard ลูกค้า ต้องมีการยืนยันตัวตน รวมถึงเอกสารต่าง ๆ เราจึงเล็งเห็นว่าเป็น Pain Point อย่างหนึ่ง จึงต้องการสร้าง Solution ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ตรงจุดนี้ บวกกับขยายสู่การใช้งานให้กับธุรกิจภายนอก พร้อมกับเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงได้

ทั้งนี้นวัตกรรม UpPass เป็น No-Code Verification Onboarding Solution เป็น SaaS (Software as a Service) ที่ให้ผู้เล่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมของการเงิน ประกันภัย เฮลท์แคร์ ฯลฯ สามารถที่จะ Onboard ลูกค้าได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องสร้างแพลตฟอร์มในการยืนยันตัวตนลูกค้าเอง เนื่องจากโซลูชั่นของทางบริษัทฯ สามารถสร้างและลอนซ์โปรแกรมออกไปได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง โดยจะมีการยืนยันตัวตนอย่างเช่น Facial Recognition การถ่ายบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ตเพื่อยืนยันข้อมูล ว่าเอกสารนั้น ๆ เป็นตัวจริง

นอกจากนี้ยังมีโซลูชันในการยืนยันเอกสารอื่น ๆ เช่น Bank Statement เพื่อยืนยันข้อมูลว่าเป็นเจ้าของ Bank Statement กับ 7 สถาบันการเงินหลัก ๆ ในประเทศไทย อีกทั้งการตรวจสอบข้อมูลบนสมาร์ทโฟน

ทั้งนี้ คุณภูวรัฐ มองว่า แคมเปญในครั้งนี้เป็นการสนับสนุน Digital ID ที่ตอบโจทย์ในประเทศ และคิดว่าการเข้าร่วมแคมเปญพร้อมกับทำงานกับทางภาครัฐจะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้ อีกทั้งยังเป็นกระบอกเสียงในการแชร์ Use case ให้กับทางภาครัฐ เพื่อซัพพอร์ตอีโคซิสเต็มของการยืนยันตัวตน และผลักดัน Digital Economy ของไทยอีกทางหนึ่ง

รวมทั้งมองว่า แคมเปญ MEiD เป็นการเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพ และธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ได้เข้ามาเจอกัน และแชร์ไอเดีย แลกเปลี่ยนความคิดและทำงานร่วมกับทางภาครัฐ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านได้เร็วมากขึ้น และผลักดันธุรกิจให้ก้าวสู่การเป็น Fully Digital Business ได้ 

Seekforce ตัวกลางจับคู่งาน-คัดเลือกคนอย่างปลอดภัย

ถัดมาคือ รองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีม Seekforce เจ้าของแพลตฟอร์ม myWorkforce.io ตัวกลางจับคู่งาน ที่ช่วยทำให้การคัดเลือกคนเข้ามาทำงานได้อย่างปลอดภัย ด้วยการยืนยันตัวตนที่มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม

คุณชัชนาท จรัญวัฒนากิจ CEO SeekOne ที่มีประสบการณ์การทำแพลตฟอร์มบริการจัดหาแม่บ้านและช่างแอร์ ชื่อว่า Seekster ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เล่าว่า ที่ผ่านมาแพลตฟอร์มนี้สามารถสร้างงานให้แม่บ้านทั่วประเทศกว่า 600,000 งาน จึงเกิดไอเดียในการนำแพลตฟอร์มหรือเทคโนโลยีที่มีอยู่นี้ให้ธุรกิจบริการอื่น ๆ สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเองได้

ต่อมาจึงได้เปิดบริษัทที่สองในฐานะ Solution Provider ที่ให้บริการในเรื่องของแพลตฟอร์มพร้อมใช้งาน เพราะเล็งเห็นว่าในตลาด SME ที่จำหน่าย และติดตั้งแอร์ หรือจะเป็น SME ที่ให้บริการแม่บ้าน หรืองานที่จะต้องมีการคุมทีม คน ยังไม่มีระบบใช้มากนัก จึงได้พัฒนาซอฟต์แวร์พร้อมใช้งาน เพื่อช่วยบริหารจัดการธุรกิจบริการ ให้เจ้าของธุรกิจบริหารทีมได้ง่ายขึ้น สามารถคัดเลือกคน ยืนยันตัวตน ตลอดจนสั่งงาน ติดตามงาน ดูสถานะงานแบบ Real time รวมถึงตรวจความเรียบร้อยของงานได้ง่าย ๆ 

ซึ่งเป็นการเข้ามาช่วยให้ธุรกิจบริการที่กำลังประสบปัญหาการพัฒนาระบบด้วยตนเองหรือต้องการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องลงทุนทำแพลตฟอร์ม เพียงแค่ใช้บริการทีมของเราเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีทั้งหมดในบริษัทเขาได้เลย ซึ่งจะทำให้ “ประหยัดเงินเป็นล้าน” และ “ประหยัดเวลาเป็นปี” รวมถึงช่วยให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าทำ Digital Transform ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น”

โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ

1.กลุ่มของผู้ใช้แรงงานช่าง แม่บ้าน เราต้องการที่จะทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้น 

2.กลุ่ม SME เราต้องการเข้าไปทำให้เขามีระบบที่มีมาตรฐาน สามารถตรวจงาน เช็คงาน จ่ายงานได้ 

3.กลุ่มสถาบันการเงิน เราต้องการทำให้สถาบันการเงินมี statement ของผู้ให้บริการเหล่านี้ เพื่อที่เขาจะสามารถทำโมเดลปล่อยกู้ได้ ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่การสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเพื่อสร้างรายได้เท่านั้น แต่คือการได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ พัฒนาธุรกิจของลูกค้า สร้างงาน สร้างรายได้ให้คนในประเทศ

อย่างไรก็ตาม คุณชัชนาท มองว่า Digital ID Solution มีความสำคัญในการทำให้ตลาดของการใช้เทคโนโลยีโตขึ้นอย่างมหาศาล รวมทั้งมีความปลอดภัยที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะเป็นสะพานต่อยอดไปสู่โอกาส และเซอร์วิสอื่น ๆ อย่างเช่นเรื่องของ การเงิน

ดังนั้น การเข้าร่วมแคมเปญ MEiD มาจากเหตุผลที่ว่า 

1. ต้องการที่จะได้รับฟีดแบ็กในมุมที่ว่ามีไอเดียที่จะเชื่อมกับ Digital ID Solution ที่ทางหน่วยงานมี และไอเดียที่มีนั้นมีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งก็ได้พบกับคำตอบว่าค่อนข้างเป็นไปได้มาก

2. ตัดสินใจเข้าแข่งขันในฐานะของรองนายกสมาคมผู้ประกอบการเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อหา Connection และฟังเสียงความต้องการของผู้ประกอบการรายอื่น ๆ 

รวมทั้งยังมองว่าแคมเปญในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่อยากให้หลาย ๆ หน่วยงานมองเป็นตัวอย่างในการจัดงานเชิงรุก ที่ดึงให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม อย่าง ETDA มีความชัดเจนเรื่องของการเป็น Regulator ในกลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transactions) ของไทย ซึ่งต้องดึงสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Solution Provider ทั้งหลาย มาช่วยกันคิดช่วยกันทำ เพื่อที่ประเทศไทยก้าวไปสู่ข้างหน้าได้

Brainergy ผู้ช่วยลงนามใน e-Document หรือเอกสารสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างน่าเชื่อถือ

และอันดับ 3 คือ ทีม Brainergy เจ้าของนวัตกรรม Empower Business with Digitization ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนลงนามใน e-Document หรือเอกสารสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างน่าเชื่อถือ ด้วยการยืนยันตัวตนให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ETDA ได้มีการแนะนำไว้ 

โดยเริ่มแรก คุณถิรธร เบญจรงคกุล Innovation Lab Director บริษัท เบรนเนอร์จี้ จำกัด เปิดฉากเล่าว่า Brainergy ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน Digital Services ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 3 ปี ได้มีโอกาสให้บริการเทคโนโลยีในการเข้าไปช่วยแก้ปัญหาการทำงานต่าง ๆ ให้กับองค์กร ที่มีความหลากหลายทั้งวัฒนธรรมองค์กรและประเภทธุรกิจ ตั้งแต่บริษัทขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ สิ่งที่พบว่าเป็น Pain point นั่นคือ “งานเอกสาร” นั่นเอง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า งานเอกสารที่มักเป็นการเริ่มต้นของทุกกระบวนการทำงานของทุกองค์กร มีความจำเป็นและสำคัญทั้งในแง่การสื่อสาร การประสานงาน การวางแผนธุรกิจในอนาคต 

Brainergy ตระหนักถึง Pain point ขององค์กรเหล่านั้น จนเกิดเป็นการพัฒนาไปสู่ การคิดค้น Service Solution ที่ตอบโจทย์การทำงานแต่ละองค์กรให้สามารดึงศักยภาพการทำงานขององค์กรออกมาให้ได้สูงสุด 

โดยเริ่มจากการให้บริการทางด้านตัวแทนยื่นภาษีขององค์กรเอกชนต่าง ๆ กับภาครัฐ เพราะการยื่นภาษีค่อนข้างมีมาตรฐานสูง บริษัทฯจึงได้มีการนำความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้กับการยื่นเอกสารอื่น ๆ ภายในองค์กร และระหว่างองค์กร ไม่ว่าจะเป็น การทำสัญญา การยืนยันออเดอร์ ทำให้งานต่าง ๆ สามารถรันได้อย่างสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีความน่าชื่อถืออีกด้วย

จึงทำให้กลุ่ม Document สามารถ Onboard ลูกค้าง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้อง Set up ระบบเยอะ สามารถทำ E-Document, e-Memo ได้ภายใน 1 อาทิตย์ ดังนั้น ในหลาย ๆ สิ่งเราจะช่วยให้ Consumer ทั่วไปเข้าถึงเซอร์วิสได้ง่ายขึ้น อิสระมากขึ้น และสามารถทำบริการต่าง ๆ ขอข้อมูลได้ด้วยตนเอง โดยที่ระบบไม่ผ่านหลาย ๆ ขั้นตอน ซึ่งเป็นเอกสารที่มีความน่าเชื่อถือ หรือแม้กระทั่งใบเสร็จในนามบุคคล หรือ บริษัท ซึ่งจะช่วย Unlock ตรงจุดนี้ รวมทั้งยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยกลุ่มธุรกิจ ให้สามารถทำงานกับทางรัฐบาลได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น โดยช่วยให้นโยบายที่ทางภาครัฐออกมาตอบสนองธุรกิจ เพิ่มรายได้ที่ไม่ต้องเสียเวลากับการจ้างพนักงานในการกรอกเอกสาร 

คุณถิรธร กล่าวต่อไปว่า การเข้าร่วมกับแคมเปญ MEiD เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้คุยกับทาง ETDA และในเชิง Digital ID ซึ่ง ETDA ถือเป็นแหล่งข้อมูล Digital ID ของประเทศไทย ซึ่งหากมีคำถามก็จะได้คำตอบกลับไป และถือเป็นการเปิดโลกและโอกาสที่ดีที่ได้คุยกับหนึ่งในหน่วยงานที่จัดทำกฎหมาย เพราะกฎหมายเชิงอักษรก็ไม่สามารถตอบได้ทุกกรณี จึงถือเป็นโอกาสที่ได้รับ

สุดท้ายนี้มองว่า Digital ID Solution เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยทรานส์ฟอร์มประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเวลาให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้นในการใช้ชีวิต รวมทั้งภาคเอกชนจะสามารถสร้าง Trust ระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าสัญญาจะสูญหาย รวมทั้งมีเอกสาร หลักฐานในการทำธุรกรรมที่น่าเชื่อถือมากขึ้น และหวังว่าทุก ๆ องค์กรจะเข้าสู่การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลอย่างมีมาตรฐานไปด้วยกัน

บทความนี้เป็น Advertorial