ผ่าแนวคิดนายกหญิงแห่ง 'เซอร์เบีย' นำภาครัฐผลักดันประเทศสงครามสู่ประเทศเทคโนโลยี

ผ่าแนวคิดนายกหญิงแห่ง 'เซอร์เบีย' นำภาครัฐผลักดันประเทศสงครามสู่ประเทศเทคโนโลยี

เมื่อพูดถึงเซอร์เบีย สิ่งแรกที่หลายคนคิดอาจนึกถึงสงคราม แต่ในทุกวันนี้เซอร์เบียถือเป็นประเทศที่เป็นศูนย์รวมขนาดใหญ่พร้อมทั้งศักยภาพที่ดี รวมไปถึงมหาวิทยาลัยและระบบการศึกษาที่เป็นเลิศ ทั้งยังเต็มไปด้วยบริษัท Startup และสถาบันวิจัยที่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมาก ในบทความนี้เราจะมาดูมุมมองของ  Ana Brnabic นายกหญิงแห่งเซอร์เบีย ที่ได้มาเล่าเรื่องของประเทศที่น่าสนใจนี้ในงาน Web Summit 2018 ที่ผ่านมา

Ana Brnabic เล่าว่า 5 ปีที่ผ่านมาเซอร์เบียประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ เกิดการขาดดุลและจำนวนคนว่างงานมากกว่า 24% แต่ในปี 2014 นั้นเอง ด้วยการสนับสนุนจากกองทุนเงินระหว่างประเทศ (IMF) พวกเราจึงสามารถผ่านพ้นวิกฤตทางเศรษฐกิจไปได้ และในทุกวันนี้เซอร์เบียมีความแตกต่างจากแต่ก่อนอย่างชัดเจน ซึ่งเห็นได้จากจำนวนคนว่างงานที่ต่ำกว่า12% งบประมาณเกินดุลเติบโตเป็นอันดับสามของปี และในส่วนของหนี้สาธารณะลดลงและปัจจุบันอยู่ที่ 56% ของค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ซึ่งถือว่าดีกว่าในหลายๆประเทศในกลุ่ม EU

ทุกวันนี้เซอร์เบียจัดว่าเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนไปด้วยการลงทุน เนื่องจากจำนวนผู้ว่างงานของเรานั้นมีตัวเลขที่สูง การลงทุนในแรงงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในอนาคต Ana เชื่อว่างานของรัฐบาลและหน้าที่ความรับผิดชอบของเธอคือการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ

“เพื่อจะขับเคลื่อนการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่คือเหล่านักลงทุนชาวต่างชาติ ไปสู่การขับเคลื่อน Innovation เศรษฐกิจ การศึกษา Startup และธุรกิจ SME”

ความสำเร็จที่เกิดจากการศึกษา

15 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้ริเริ่มการปฏิรูปการศึกษา โดยเด็กๆในโรงเรียนจะได้รับการเรียนการสอนโปรแกรม Scratch และ Python รวมถึงยังมีการพัฒนาในเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะด้านรวมถึงการใช้งาน digital textbooks ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้นักเรียนสนุกไปการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนของรัฐบาลแต่เราก็ค้นพบว่าคนรุ่นใหม่นั้นเต็มไปด้วยความสามารถอยู่แล้ว หนึ่งใน 50 บริษัทที่รวบรวมคนเก่งไว้มากที่สุดของโลกที่ก่อตั้งในเซอร์เบียคือ Seven Bridges Genomics  และ Nordeus คือหนึ่งในสุดยอดบริษัทวีดีโอเกมส์ เซอร์เบียพยายามที่จะสร้างศูนย์กลางของ Digital Agriculture ในยุโรป และนี่คือสิ่งที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จจากการทำงานของรัฐบาล แต่เกิดขึ้นจากการศึกษาและ Innovation รวมไปถึงเหล่าคนที่มีความ Creative ของเรา

ปัญหาการคลาดแคลนบุคลากรในประเทศ

เซอร์เบียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถ แต่อย่างไรก็ตามเซอร์เบียก็ยังประสบปัญหานี้น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเซอร์เบียจึงควรให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมใน EU ดังนั้นยุทธ์ศาสตร์การเตรียมพร้อมในการเข้าร่วม EU ไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่สำคัญเท่านั้นแต่การปฏิรูปเส้นทางการทำงานก็สำคัญเช่นกัน

“เราไม่ได้มีความกังวลในเรื่องของวันเวลา แต่เราให้ความสำคัญว่าเรานั้นได้ทำทุกอย่างอย่างจริงจังและได้เตรียมการทุกอย่างที่เราควรจะทำ” เมื่อประเทศมีความพร้อมในการเข้าร่วมกับ EU ผู้คนจะอยากอาศัยอยู่ในเซอร์เบีย

การสนับสนุน Startup และ Innovation

การลงทุนจำนวนมากนั้นถูกใช้ไปกับการศึกษาและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อ Startup และ Innovation ในขณะนี้เราได้เตรียมจำนวนเงิน 100 ล้านยูโรสำหรับพวกเขา และในสิ้นปีนี้เซอร์เบียจะเป็นหนึ่งในสมาชิก Saturn ในเมือง Geneva ซึ่งหมายถึงผู้คนจะอยากกลับมาใช้ชีวิตและเรียนที่นี่ เพราะ “พวกเขาจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในการพัฒนาและวิจัย (R&D technology)” ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังจะเปลี่ยนมุมมองของเราใหม่

“ฉันคิดว่าเราจะได้เห็นคนหัวกะทิจะกลับเข้ามาพัฒนาประเทศอีกครั้ง ซึ่งเราเชื่อว่าคือสิ่งที่ทุกคนอยากจะเห็น เพราะคนเหล่านี้คือสิ่งสำคัญต่อประเทศ เพราะผู้คนต่างออกไปหาสิ่งใหม่ แต่ในที่สุดเขาต้องการกลับบ้าน” และเราคาดการณ์ว่าจะมีชาวเซอร์เบียกลับมายังประเทศมากขึ้น

คุณจะทำให้ Tech Industry ในเซอร์เบียเป็นที่รู้จักได้อย่างไร?

รัฐบาลพยายามจะต่อสู้กับมุมมองของผู้คน อย่างเช่น การจัดเทศกาลดนตรี Exit festival ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่รับความนิยมว่าเป็นเทศกาลที่ดีที่สุดของโลกเป็นครั้งที่สอง ผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมเยียนประเทศของเราได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่นี่คือที่ที่ปลอดภัย และไม่มีเหตุอาชญากรรม รวมไปถึงเป็นที่ที่มีความผ่อนคลาย มีคุณภาพชีวิตที่ดี และนี่คือสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะแสดงให้ทุกคนเห็น

สองประเด็นหลักที่นายกรัฐมนตรี Ms. Ana ให้ความสำคัญคือ Digitization และการศึกษา ในสองทศวรรษที่ผ่านมานั้นเซอร์เบียประกอบไปด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพและไม่ได้ยึดมั่นกับขนบธรรมเนียมมากนัก พวกเขาต่างคุ้นเคยกับเปลี่ยนแปลงสู่วิธีการใหม่ๆ ซึ่งเราสามารถนำจุดนี้มาใช้เป็นประโยชน์กับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ได้แก่ : creativity, innovation, resourcefulness, disruption โดย Ana เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเซอร์เบียจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

รัฐบาลจะมีบทบาทใดบ้างในการสร้างความน่าสนใจให้กับธุรกิจ

ใน 15 เดือนก่อนนั้น creative and IT industries พัฒนาไปโดยไม่ได้มีการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกลับเติบโตมากกว่า 20% และสูงถึง 30% ในปีนี้ ในส่วนของ Creative industry มีการจ้างงานมากกว่า 100,000 คนในจำนวนประชากร 7 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดนี้ประสบความสำเร็จโดยปราศจากการสนับสนุนและส่งเสริมแผนงาน แต่พวกเขาเองก็ยังสามารถทำออกมาได้ดีเยี่ยม

ดังนั้นเราต้องเข้าไปสนับสนุนและไม่แทรกแทรงการทำงานของพวกเขา และตั้งคำถามว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือใดบ้างจากรัฐบาลในการทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเติบโตไปสู่ระดับสากลได้ “เมื่อเราคิดร่วมกัน เราก็จะสามารถทำทุกอย่างออกมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์” และในเดือนมกราคมนี้จะเป็นการเริ่มต้นแนะนำการกระตุ้นภาษี และวัดการลงทุนของบริษัทในเรื่อง Innovation และการพัฒนางานวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป

การมีเงินสนับสนุน ค่าจ้างแรงงานและหนี้ในขั้นต่ำถือเป็นจุดขายของเซอร์เบียไหม หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในสหภาพยุโรป (EU)

“ฉันคิดว่าไม่ ในส่วนของค่าแรงนั้นเทียบเท่ากับประเทศอื่นๆ” การลงทุนในเซอร์เบียจึงถือว่าคุ้มค่าเนื่องจากการศึกษาของเรานั้นอยู่ในระดับที่ดี และผู้คนเต็มไปด้วยความ creative นอกจากนี้ค่าครองชีพในเซอร์เบียก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงมากนัก ในส่วนของกำลังการซื้อถือว่ามีการแข่งขันสูง “นักลงทุนที่เข้ามาในเซอร์เบียมักหลงใหลในผู้คนและประสบการณ์ใหม่ๆที่นี่ นี่คือสิ่งที่เราอยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นต่อไปในอนาคต”

ากมุมมองของรัฐบาลเซอร์เบีย ใครคือคนที่คุณนับถือในกลยุทธ์ของเขามากที่สุด

เราต่างมองหาสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ ในยุคดิจิทัล e-government ถือเป็นเรื่องสำคัญ “เรากำลังผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลในยุคอนาล็อกสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งฉันคิดว่านี่คือคำตอบที่ดีที่สุดที่จะสร้างคุณภาพและความโปร่งใสในรัฐบาล” ในส่วนของรัฐบาล e-government เซอร์เบียพยายามจะดูต้นแบบจากประเทศออสเตรีย เพราะว่าออสเตรียนั้นถือว่ามีความคล้ายคลึงในการจัดตั้งระบบ ในยุคที่ Ana ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการปกครองในเวียนนา เธอมักคอยสำรวจว่าคนอื่นๆทำงานอย่างไรและมาปรับใช้กับเซอร์เบีย ในส่วนของเทคโนโลยีเธอมักจะพึ่งพาความรู้ของคนรอบตัวและค้นพบว่าเธอควรจะทำอะไร

ในช่วงที่มีการเติบโตอย่างมากของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ร้องขอให้ภาคส่วนของรัฐบาลมามีบทบาทมากนักในการทำงานของพวกเขา พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จแม้รัฐบาลจะไม่สนับสนุนเลยก็ตาม “เราจึงต้องการที่จะสร้างความมั่นใจและสร้างความร่วมมือให้ผู้คนเข้ามาช่วยทำงานให้ดีขึ้น ผู้คนที่มีความชำนาญมากกว่าพวกเรา” Digital Serbia นั้นมีต้นแบบมากจาก Digital Switzerland นี่ทำให้เห็นว่าพวกเราเรียนรู้จากหลากหลายที่

"เราเชื่อว่าในยุคที่มีการแข่งขันสูง เราจึงควรพยายามให้ดีที่สุดและไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะมาเป็นผู้นำใน การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่"

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...

Responsive image

กระทรวง AI : เมื่อ AI อันตรายเกินกว่าจะปล่อยไว้ โลกเร่งออกกฎควบคุม

AI กลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกควบคุมด้วยกฎหมาย และต้องถูกจับตาดูโดยหน่วยงานของรัฐบาลอย่าง ‘กระทรวง AI’ ที่มีอำนาจ และความสำคัญไม่แพ้หน่วยงานอื่น ๆ แต่ทำไม AI ต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาล ? กร...