องค์กรจะบริหารแต่ละหน่วยงานอย่างไร ? เมื่อธุรกิจเดิมก็ต้องปรับ ธุรกิจใหม่ก็ต้องหา | Techsauce

องค์กรจะบริหารแต่ละหน่วยงานอย่างไร ? เมื่อธุรกิจเดิมก็ต้องปรับ ธุรกิจใหม่ก็ต้องหา

เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันเรากำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านและเผชิญกับสถานการณ์ที่เรียกว่า Digital Disruption มีธุรกิจเกิดขึ้นมากมายที่พร้อมจะล้มผู้เล่นรายเดิม หลายองค์กรเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ปรับแผนกลยุทธ์ใหม่ จัดทัพองค์กรใหม่ เพื่อค้นหา New S-curve หรือนำเทคโนโลยีที่มีเข้ามาช่วย transform ธุรกิจเดิม สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีหลายธุรกิจภายใต้กลุ่มธุรกิจใหญ่ อาจยังไม่มั่นใจว่าเราจะจัดการบริหารแต่ละหน่วยงานอย่างไรดี จะพัฒนาต่อยอด หรือถึงเวลาที่ต้องค้นหาโมเดลธุรกิจใหม่มาทดแทนได้แล้ว

ดังนั้นองค์กรจึงต้องมีวิธีการบริหารพอร์ตโฟลิโอ ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทั้งในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจเดิม และค้นหาธุรกิจใหม่ๆ ที่จะทำให้องค์กรกลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง

Tech Company

จากแผนภาพที่แสดงนี้ Techsauce ได้ยกผัง  Business Model Portfolio ที่พัฒนาโดย Alex Osterwalder & Yves Pigneur ผู้คิดค้น Business Model Canvas สำหรับธุรกิจ เพื่อชี้ให้เห็นถึงเส้นทางและภาพรวมในการบริหาร Portfolio ของธุรกิจ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 แกนหลัก ได้แก่  Explore และ Exploit

Explore

สำหรับแกน Explore นั้น เป็นการที่องค์กรได้มีการทดลองเพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่จะสามารถกลายเป็นนวัตกรรมที่จะนำไปต่อยอดเป็น New S-curve ได้ ผ่านการลองผิดลองถูก วนซ้ำมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งเหมือนกับที่หลายองค์กรทุ่มเงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนา หรือการตั้งหน่วยงานสตาร์ทอัพแบบ Internal ขึ้นมาเพื่อค้นหาธุรกิจใหม่ โดยเริ่มต้นจากการมีไอเดียที่จะแก้ปัญหาทางธุรกิจ พัฒนาสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีฟีเจอร์อย่างน้อยที่สุดที่สามารถนำไปทดสอบประเมินตลาดได้ (Minimum Viable Product :MVP) เก็บ feedback เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงจนเข้าสู่ตลาดได้จริง

Exploit

ส่วนแกน Exploit องค์กรสามารถวิเคราะห์ว่าธุรกิจที่กำลังดำเนินอยู่เดิมนั้น มีโอกาสปรับปรุงเพิ่มเติมได้มากน้อยแค่ไหน จะหาพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วม อาทิ การลงทุน หรือเข้าซื้อกิจการ เสริมทัพ หรือนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจเดิมภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น  

กรณีศึกษาจาก Ping An เปลี่ยนจากธุรกิจการเงินดั้งเดิม ไปสู่ Tech Company

 Ping An  Group บริษัทด้านการเงินดั้งเดิมที่ก่อตั้งโดยปีเตอร์ หม่า ที่ได้ตัดสินใจทรานส์ฟอร์มตัวเองมาสู่การเป็น  Tech company ในปี 2018 ด้วยแนวคิดที่ว่าต้องการจะทลายข้อจำกัดของธุรกิจแบบเดิม และหาธุรกิจน่านน้ำใหม่ที่จะทำให้ Ping An Group เป็นมากกว่าผู้ให้บริการทางการเงินและประกันภัย 

สำหรับสิ่งที่จุดประกายให้ปีเตอร์ หม่า เห็นว่าอุสาหกรรมการเงินในอนาคตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นั่นคือ วิกฤติการเงินโลกในปี 2008 ทำให้เขาตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทในอนาคต ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจปรับทิศทางเชิงกลยุทธ์ และโมเดลธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นที่สุด ผ่านการเปลี่ยนแปลงใน 3 ส่วนหลัก ดังนี้ 

Strategic Direction

จากการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ของการเป็นสถาบันการเงิน ไปเป็น Tech Company  ที่มีขีดความสามารถข้ามอุตสาหกรรมได้ ย้ายจากการการมีแค่ระบบนิเวศน์เดียว ไปสู่การดำเนินธุรกิจในหลายระบบนิเวศน์ได้ ตั้งแต่ การเงิน สุขภาพ บริการรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ ตลอดจน smart city 

Organization Culture

การปรับวัฒนธรรมองค์กร ที่ต้องคิดและทำอย่าง Startup เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีความจำเป็นต้องปรับตั้งแต่ผู้บริหาร โดยพวกเขารู้ดีว่า ผู้บริหารชุดเดิมต่างก็ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องจ้างผู้บริหารคนนอกที่มีความชำนาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาดำรงตำแหน่ง CO-CEO นั่นคือ Jessica Tan คู่กับ ปีเตอร์ หม่า ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจดั้งเดิมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อมาดูแลธุรกิจด้านดิจิทัล และบริหารงานด้วยวัฒนธรรมองค์กรแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นปั้น startup ในองค์กร หาไอเดียใหม่ๆ และที่สำคัญต้องยอมรับได้กับความล้มเหลว ถือเป็นเป็นบทเรียน และมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด 

Brand Image  

Ping An ไม่มองว่าบริษัทเป็นผู้ให้บริการทางการเงินอีกต่อไป แต่กำลังพัฒนาไปสู่องค์กรที่สามารถพัฒนาทักษะให้ปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงสามารถที่จะแก้ปัญหาข้ามอุตสาหกรรมได้เช่นกัน โดย Ping An ต้องการที่จะนิยามเส้นทางในอุตสาหกรรมใหม่ และสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำข้ามสายธุรกิจ เช่น บริการรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ ตลอดจน อุตสาหกรรมบันเทิงก็สามารถทำได้ 

หลังจากที่ ปรับทิศทางเชิงกลยุทธ์ และโมเดลธุรกิจให้มีความยืดหยุ่น ผ่านสามประเด็นหลักที่ได้อธิบายไปแล้วนั้น ในตอนหน้า Techsauce จะพาไปดูการบริหาร  portfolio ทั้งในแกน ของ Explore และ Exploit ของ Ping An กันต่อว่าได้มีการดำเนินการอย่างไรกันบ้าง 

***เมื่ออัปเดตแล้วทางทีมงานจะแนบ Link บทความตอนที่ 2  ไว้ให้ด้านล่างนี้

ผู้อ่านสามารถติดตาม Techsauce For Business ตอนอื่น ๆได้ เพียงคลิกที่นี่


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...